ในขณะที่จีนเตรียมเผย Nissan SYLPHY เจนใหม่ในช่วงต้นปีหน้าแต่แล้วอเมริกาเปิดตัวตัดหน้าแถมหน้าตาสวยสปอร์ตกว่าและขายเร็วกว่า
นี่คือเจเนอเรชันใหม่ เจนที่ 9 ของ Nissan SYLPHY หรือ Nissan SENTRA ในรหัส B19 สปอร์ตขึ้น เท่ขึ้นหรูขึ้นแบบเก๋งท้ายลาด Fastback
ภายนอกคล้ายจีน
โดยดูจากตัวรถแล้วเริ่มที่หน้าตามีความคล้ายกับ Nissan ARIYA ผสมผสานกันเริ่มที่กระจังหน้าแบบไร้ขอบพร้อมเส้นสายโค้งมนมีโลโก้นิสสันอันโดดเด่นอยู่ตรงกลาง แบบ V-Motion ผสานกับชุดไฟหน้า LED 3 ดวง พร้อมไฟ DRL แบบ LED รูปตัวแอลพาดยาวจากซ้ายไปขวาทำให้รถดูโดดเด่นสะดุดตาอย่างเห็นได้ชัด
ด้านข้างเด่นมีความคล้ายกับเจนที่แล้วตั้งแต่ หลังคาซันรูฟ กรอบกระจกโครเมียมสีเงินครอบส่วนบน รวมถึงมีกรอบสีดำเสา C ขนาดใหญ่ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงโฉบเฉี่ยว ที่เปิดประตูดึงก้าน ชายล่างประตูดีไซน์เส้นสายที่คมชัด หลังคาซันรูฟ ด้านท้ายพร้อมไฟ LED รมดำเสริมความสปอร์ตล้ออัลลอยลายใหม่ทูโทนทั้งขนาด ตั้งแต่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/60R16 ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50R17 และใหญ่สุด 18 นิ้วพร้อมยาง 215/45 R18
โดยขายทั้งรุ่น S SV SR และ SL โดยเฉพาะรุ่น SL เน้นความหรูหราด้วยชุดแต่งโครเมียม สปอร์ตด้วยล้อทูโทนทรงเท่ขนาด 17 นิ้ว ทางด้านรุ่น SR เน้นสปอร์ตเข้มด้วยชุดทูโทนสีดำทั้งกระจังหน้าโครเมียมเข้ม กันชนหลังเฉพาะรุ่น สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง และล้อลายสปอร์ต 18 นิ้ว โดยตัวรถมีขนาดใหญ่จากแพลตฟอร์ม Common Module Family-CD (CMF-CD) ตั้งแต่
- ความยาว 4,656 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,816 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,450 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 119 กับ 122 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,405-1,441 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 47 ลิตร
ภายในใหม่หมด
ตั้งแต่คอนโซลหน้าหุ้มหนังสัมผัสพร้อมช่องแอร์ตรงกลางแผงคอนโซลมาในแบบทรงเหลี่ยม 3 จุด จอคู่ลอยตัวขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วประกอบด้วยมาตรวัดดิจิทัล MID สีและจอสัมผัส รองรับ Android Auto Apple CarPlay ในรุ่น SV SR และ SL และแบบเสียบสายในรุ่น S เชื่อมต่อ Nissan Connect พร้อม Wi-Fi hotspot กับ Google Assistant ยกเว้นรุ่น S ได้มาตรวัดพร้อมจอ MID 7 นิ้ว ลำโพงคุณภาพเลือกได้ทั้ง 4 กับ 6 จุดกับ BOSE 8 จุด เครื่องปรับอากาศแยกโซนซ้ายขวากันฝุ่น PM 2.5 พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านแบบท้ายตัดพร้อมระบบอุ่นพวงมาลัย
เบาะนั่งหนังสังเคราะห์แบบ TailorFit สัมผัสนุ่มในรุ่น SL กับ เบาะนั่งหนังสังเคราะห์แบบสปอร์ต TailorFit เดินด้ายสีแดงในรุ่น SR และวัสดุผ้าในรุ่น S กับ SV เบาะนั่งคู่หน้าแบบอุ่นและพวงมาลัย เบาะนั่งปรับไฟฟ้าคู่หน้าคนขับ 6 ทิศทางและคนนั่ง 4 ทิศทางในรุ่น SR กับ SL และเบาะฝั่งคนขับปรับธรรมดา 6 ทิศทางในรุ่น S กับ SV เบาะหลังพร้อมที่วางแขนและที่วางแก้วในตัว พับได้แบบ 60:40
ไฟสร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light 64 ที่ชาร์จมือถือไร้สาย กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ช่องเสียบ USB Type-C รวม 3 จุดหน้า-หลัง และเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold
ขุมพลังเดิม
กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส MR20DD ให้กำลังสูงสุด 151 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 197 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหน้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อมโหมด Sport ในรุ่น SV, SR และ SL เพื่อการตอบสนองเปลี่ยนเกียร์ที่ฉับไวยิ่งขึ้น ติดตั้งโช้คอัพแบบไดนามิกที่ขยายขนาดขึ้นที่พวงมาลัยเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนจากถนน ขณะที่ช่องเปิดของตัวถังรถถูกปรับให้เล็กลงเพื่อลดเสียงรบกวน บนพื้นฐานช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และ มัลติลิงก์ ด้านหลัง และพวงมาลัยไฟฟ้า
ความปลอดภัย Nissan Safety Shield 360 ครบครันทั้ง
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ พร้อมควบคุมพวงมาลัย Intelligent Cruise Control with steering wheel-mounted switches ในรุ่น S SV และ SR
- ขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ProPILOT Assist ในรุ่น SL
- เบรกอัตโนมัติพร้อมการตรวจจับทางด้านความเคลื่อนไหว Automatic Emergency Braking with Pedestrian Detection
- ช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า intelligent Forward Collision Warning
- ตรวจสอบจุดอับสายตา Blind Spot Warning
- ป้องกันการชนจากจุดอับสายตา Blind Spot Intervention
- ช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Alert
- เบรกอัตโนมัติด้านหลัง Rear Automatic Braking
- ช่วยตรวจจับและเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีอาการง่วงนอน Intelligent Driver Alertness
- เตือนออกนอกเลน พร้อมระบบสั่นที่พวงมาลัย Lane Departure Warning with haptic steering wheel
- เตือนออกนอกเลน Lane Departure Prevention
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมตรวจจับนักปั่นจักรยาน Lane Keep Assist with Cyclist Detection
- จดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
- ป้องกันลืมผู้โดยสารด้านหลังไว้ในรถ Rear Door Alert
กล้องมองรอบทิศทางอัจฉริยะ (Intelligent Around View Monitor) ถุงลมนิรภัยรอบคัน 10 จุด ตรวจวัดลมยาง Tire Pressure Monitoring System ควบคุมการทรงตัว Vehicle Dynamic Control ป้องกันการลื่นไถล Traction Control System
Nissan SYLPHY หรือ SENTRA เจนใหม่เตรียมขายตัดหน้าจีนที่สหรัฐอเมริกาปลายปีนี้คาดค่าตัวเริ่มต้น $20,000 หรือราว 644,000 บาท มีให้เลือกทั้งสีน้ำตาล Imperial Bronze, สีเทาเข้ม Gun Metallic, สีเทา Atlantic Gray Metallic, สีดำ Super Black, สีแดงเข้ม Scarlet Ember, สีขาว Aspen White และ สีครีม Fresh Powder พร้อมสีทูโทน 4 สีหลังคาดำ Super Black roof ทั้ง สีขาว Aspen White, สีน้ำเงิน Bluestone Pearl, สีเทา Atlantic Gray และ สีแดงส้ม Energetic Ember
ที่มา Nissan
