อินเดียเป็นประเทศล่าสุดเตรียมเปิดตัว Nissan X-Trail เจเนอเรชันที่ 4 รหัส T33 ส่วนเมืองไทยต้องแสดงความเสียใจด้วยว่าเจนนี้ไม่เอาเข้ามาแน่นอน
ภายนอก Exterior
เป็นหน้าตาก่อนปรับโฉมเริ่มจากกระจังหน้ารูปตัววีขนาดใหญ่สีดำเข้ม ไฟหน้า Matrix LED ดีไซน์เรียวอยู่ด้านล่างขยับขึ้นไปเป็นไฟ DRL อยู่บนสุดและไฟเลี้ยวอยู่ในชุดเดียวกัน กันชนหน้าขนาดใหญ่ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้า LED ราวหลังคาสีเงิน เสริมหล่อกับเสาอากาศครีบฉลาม ชุดไฟท้าย LED สไตล์บูมเมอแรงโคมเดิมเพิ่มการมองเห็นได้ชัดขึ้น และประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติพร้อมระบบแฮนด์ฟรี คิ้วขอบล้อและกระจกมองข้างทรงสปูนตกแต่งสีดำเงาให้เลือกในรุ่นสีทูโทน และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R19 กับขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/60R18 เล็กสุด 17 นิ้วพร้อมยาง 235/65R17 ตัวรถสร้างจากพื้นฐาน CMF-C platform มิติตัวรถใหญ่ตามตัวตั้งแต่
- ความยาว 4,681 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,840 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,730 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,706 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร
ภายใน Interior
ภายในหรูด้วยแผงคอนโซลหน้าแนวลักชัวรีพร้อมมาตรวัดดิจิตอล Full LCD ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ตั้งแต่ขนาด 12.3 นิ้ว Nissan Connect รองรับ Apple CarPlay Android Auto พร้อมลำโพงคุณภาพ 9 จุด จาก Bose จอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้าสี head-up display 10.8 นิ้ว เครื่องปรับอากาศแยกโซน 3 Zone ซ้าย-ขวา และด้านหลัง คอนโซลเกียร์คล้ายกับ Nissan Kicks e-Power สเปกไทย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน เบาะกึ่งหนังแท้สีดำ มีทั้งแบบ 2 ตอน 5 ที่นั่งและ 3 ตอน 7 ที่นั่ง โดยที่นั่งตอน 2 สามารถเลื่อนและพับเก็บแบบ 40:20:40 ได้ ส่วนเบาะตอน 3 พับได้แบบ 50:50 ระบบชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging ม่านบังแดดประตูหลังซ้าย-ขวา และช่องเสียบปลั๊ก 100V AC power supply (1500W) สามารถเสียบปลั๊กใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้
สมรรถนะ Performance
สเปกอินเดียลุ้นกันว่าจะทำตลาดด้วยขุมพลังไหนไม่ว่าจะเป็นเบนซิน VC Turbo ขนาด 1.5 ลิตร รหัส KR15DDT มาพร้อมอัตราส่วนกำลังอัดตั้งแต่ 8:1-14:1 ให้กำลังมากสุด 204 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 2,800-4,000 รอบต่อนาทีคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT เลือกได้ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ Intelligent All Wheel Drive
หรือจะเป็นขุมพลัง e-Power Turbo เจเนอเรชันที่ 2 เปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้าแบบ EREV หรือ Extended Range Electric Vehicle ขนาด 1.5 ลิตร เบนซิน VC-Turbo 3 สูบ KR15DDT ให้กำลังถึง 144 แรงม้าที่ 4,400-5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 2,400-4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้ารุ่น BM46 AC3 Synchronous Motor ให้พลังรวมเป็น 204 แรงม้าที่ 4,739-5,623 รอบต่อนาที แรงบิด 330 นิวตันเมตรที่ 0-3,505 รอบต่อนาทีในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อมโหมดการขับขี่ทั้งโหมด Sport, Snow, Auto และ ECO
ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ e-4ORCE พื้นฐานเครื่องยนต์ แรงม้า แรงบิด เท่ากันแต่ว่ามีการปรับในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า BM46 เป็น 204 แรงม้าที่ 4,501-7,422 รอบต่อนาที แรงบิด 330 นิวตันเมตรที่ 0-3,505 รอบต่อนาที และจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลัง MM48 AC3 Synchronous Motor ให้พลัง 136 แรงม้าที่ 4,897-9,504 รอบต่อนาที แรงบิด 195 นิวตันเมตรที่ 0-4,897 รอบต่อนาที ให้พลังรวมมากขึ้นเป็น 340 แรงม้าที่ 9,398 -16,926 รอบต่อนาที เพิ่มแรงบิดเป็น 525 นิวตันเมตรที่ 0-8,402 รอบต่อนาที พร้อมโหมดการขับขี่ 5 โหมด ทั้ง Sport, Off-Road, Snow, Auto และ ECO
ความปลอดภัย Safety Nissan Safety Shield 360 เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้ง
- เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor–IAVM) พร้อมกล้องมองหลัง
- เตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning–IFCW)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking–IEB) พร้อมตรวจจับคนเดิน และคนปั่นจักรยาน
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะในการถอยหลังรถ (Intelligent Rear Automatic Braking)
- เตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert–RCTA)
- เตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)
- ป้องกันการชนจากจุดอับสายตาอัจฉริยะ (Intelligent Blind Spot Intervention – IBSI)
- แจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ (Lane Departure Warning-LDW)
- ควบคุมรถเมือรถออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (Intelligent Lane Intervention- ILI)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control–ICC) พร้อมจำกัดความเร็ว (Speed limiter)
- อ่านป้ายจราจร (Traffic sign recognition)
- ตรวจวัดลมยาง (Tire pressure monitoring system-TPMS)
- ควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้ายของรถ (Trailer Sway Control-TSC)
- ช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist–HSA)
- ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control–VDC)
- ช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Intelligent Trace Control–ITC)
- ถุงลมนิรภัย SRS รอบคัน รวมถุงลมนิรภัยคั่นกลางระหว่างเบาะหน้า
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts)
- เบรก ABS, EBD และ BA
- ไฟเบรกดวงที่สามพร้อมไฟ LED สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
- กึ่งขับขี่อัตโนมัติ Nissan’s Pro Pilot รองรับข้อมูลการนำทางเพื่อปรับความเร็วก่อนเข้าโค้งและทางแยกต่างระดับทางหลวง
ทางสื่ออินเดียอย่าง Carwale รายงานว่าเตรียมที่จะเปิดตัวช่วงเดือนสิงหาคมนี้สำหรับ Nissan X-Trail เจนที่ 4
ที่มาและรูปภาพ Carwale