Aprilia ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ RS 457 สปอร์ตน้องเล็กสุดของค่าย ซึ่งจะเป็นหนึ่งในซีรี่ส์สปอร์ตฟูลแฟริ่งร่วมกับ RS 660 และ RSV4 1100
Aprilia ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอิตาลีได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในการแข่งขัน MotoGP ที่สนาม Misano ในช่วงเดือนกันยายน ในรหัสรุ่น RS 457 สปอร์ตฟูลแฟริ่งน้องเล็กสุด มาเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ขับขี่เริ่มต้น โดยใช้พื้นฐาน DNA การออกแบบจากรุ่นพี่อย่าง RS 660 และ RSV4 1100 มาได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน
การออกแบบ Aprilia RS 457 ใครที่เป็นแฟนตัวยงของค่ายนี้ไม่รู้สึกผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะยังคงมาพร้อมกับหน้าตาอันหล่อเหลาด้วยชุดสีฟลูแฟริ่งแบบสปอร์ต ไฟด้านหน้า LED แบบโคมคู่แยกซ้ายขวา พร้อมสัญญาณไฟเลี้ยวในตัวและ ไฟ Daytime Running Light แผงหน้าปัด TFT สีเต็มรูปแบบขนาด 5 นิ้ว ควบคุมทิศทางด้วยชุดแฮนด์จับโช้คเติมเต็มความเป็นสปอร์ตไบค์ เบาะนั่งแบบ 2 ส่วนแยกชัดเจนระหว่างผู้ขับขี่ และผู้ซ้อน
ถ้ามาในส่วนของขุมพลังจะเป็นเครื่องยนต์ 2 สูบขนาด 457cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้พละกำลัง 47 แรงม้า ที่ 9,400 รอบต่อนาที และแรงบิด 43.5 นิวตันเมตร ที่ 6,700 รอบต่อนาที ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดที่ผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาต A2 ในยุโรปสามารถครอบครองรถคันนี้ได้ หรือสร้างเพื่อนักขับขี่หน้าใหม่นั่นเอง และสิ่งที่เป็นจุดเด่นของ RS 457 นั่นก็คือคันเร่งไฟฟ้าที่สั่งการตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างแม่นยำ พร้อมด้วยควิกชิฟเตอร์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างระบบควบคุมการยึดเกาะถนน 3 ระดับที่สามารถเปิด/ปิดการใช้งานได้ทั้งหมด และมีโหมดการขับขี่ 3 โหมดเป็นมาตรฐาน นอกจากนี้ตัวรถยังมีน้ำหนักเบาเพียง 175 กก. เท่านั้น
Aprilia RS 457 มาพร้อมช่วงล่างระบบกันสะเทือนโช้คอัพหน้า Up Side Down ขนาด 41 มม. ระยะยุบตัว 120 มม และโช้คหลังแบบโมโน Mono Shock พร้อมระยะยุบ 130 มม. และสามารถปรับพรีโหลดได้เฉพาะด้านหลังเท่านั้น ส่วนระบบเบรกใช้เป็นชุดคาลิเปอร์เบรก ByBre ทั้งหน้าและหลัง โดยมีดิสเบรกเดี่ยวขนาด 320 มม. ที่ด้านหน้า และดิสเบรกขนาด 220 มม. ที่ด้านหลัง ทำงานร่วมกับระบบ ABS แบบ Dual Channel
2024 Aprilia RS 457 จะมีตัวเลือกสีให้เลือก 3 สีสำหรับได้แก่ Racing Stripes, Prismatic Dark และ Opalescent Light ส่วนราคาได้เปิดไปเมื่อไม่นานนี้ในงาน India Bike Week ที่ประเทศอินเดียซึ่งเป็นแหล่งผลิตด้วยราคาเพียง 410,000 รูปี หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 170,000 บาท เรียกได้ว่าเป็นป้ายราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายแบบสุดๆ เมื่อเทียบจากทางฝั่งอเมริกาที่ 6,799 เหรียญสหรัฐ (ราคารวมภาษี) เทียบเป็นเงินไทยประมาณ 235,000 บาท ดูจากราคาแล้วก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีโอกาสเข้าทำตลาดในบ้านเรา และถ้าเข้ามาจำหน่ายในไทยจริงๆ คาดว่าราคาไม่น่าจะต่างจากคู่แข่งอย่าง Honda CBR500R, Yamaha R3, Kawasaki Ninja 400 และ KTM RC 390 มากนัก
Source : rideapart.com
ติดตามข่าวสารยานยนต์ : car2day.com
Page Facebook : Car2Day
Youtube : youtube.com/@Car2day