เปิดสเปค-ราคา Kawasaki New Generation Ninja e-1 & และ Z e-1 เป็นไปได้ไหมที่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคาวาซากิจะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย?
เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา Kawasaki ได้รุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ด้วยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ Ninja e-1 และ Z e-1 ในยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่ง ณ เวลานั้นยังไม่ได้มีการเปิดเผยราคาออกมา แน่นอนว่าเหล่าสาวกค่ายยักษ์เขียวต่างให้ความสนใจ และรอคอยประกาศราคาอย่างเป็นทางการของมอเตอร์ไซค์ EV สองรุ่นแรกของค่ายนี้ และเมื่อไม่นานนี้คาวาซากิได้มีการเผยราคาออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
-
DNA จากรุ่นเครื่องสันดาป
-
พละกำลังเหนือเครื่องสันดาป 150cc.
-
แบตเตอรี่ 1 ก้อน ใช้เวลาชาร์จเต็ม 3.7 ชั่วโมง
-
โหมดขับขี่ เสริมพละกำลัง e-Boost
-
ช่วงล่าง
-
ฟังก์ชั่น
-
ราคาจำหน่าย
DNA จากรุ่นเครื่องสันดาป
ในแง่ของการออกแบบดีไซน์ภายนอกของ Kawasaki Ninja e-1 และ Z e-1 จะว่าทั้งสองตัวยังคงไว้ด้วย DNA จากรุ่นเครื่องสันดาปไว้ได้อย่างครบถ้วน ด้านมิติตัวรถ Ninja e-1 มีขนาดตัวอยู่ที่ 1980×690×1105 มม. (ยาว x กว้าง x สูง) ส่วน Z e-1 มีขนาดตัวอยู่ที่ 1980×730×1035 มม. (ยาว x กว้าง x สูง) นอกจากนี้ในจุดที่ทั้งสองรุ่นเหมือนกันคือระยะห่างของฐาน 1,370 มม. และความสูงของเบาะ 785 มม.
พละกำลังเหนือเครื่องสันดาป 150cc.
สำหรับสเปคและแบตเตอรี่ของ Ninja e-1 และ Z e-1 จะเป็นสเปคเดียวกันคือ มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ขนาด 5 kW ส่งกำลังขับ 6.8 แรงม้า ที่ 2800 รอบ/นาที ให้พละกำลังสูงสุดที่ 9 kW หรือ 12 แรงม้า ที่ 2,600-4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40.27 นิวตันเมตร 0-1,600 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยโซ่ โดยจากข้อมูลสเปคแล้วจะเห็นว่าพละกำลังของทั้งสองรุ่นจะสูงกว่ารถเครื่องสันดาปพิกัด 150cc. อยู่ไม่น้อย
แบตเตอรี่ 1 ก้อน ใช้เวลาชาร์จเต็ม 3.7 ชั่วโมง
ส่วนแบตเตอรี่จะเป็น แบตลิเธียมไอออนขนาด 30Ah ให้แรงดันไฟฟ้า 50.4 V จำนวน 2 ลูก โดยจะเลือกชาร์จไฟผ่านตัวรถ หรือถอดแบตออกมาชาร์จข้างนอกก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ เพราะแต่ละก้อนจะมีน้ำหนัก 11.5 กก. ส่วนระยะเวลาชาร์จ 1 ก้อนจนเต็มจะใช้เวลาอยู่ประมาณ 3.7 ชั่วโมง
โหมดขับขี่ เสริมพละกำลัง e-Boost
นอกจากนี้ Ninja e-1 และZ e-1 ยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 2 รูปแบบ คือ Eco กับ Road โดยในโหมด Eco จำกัดความเร็วไว้ที่ 64 กม./ชม. และถ้าใช้ e-Boost จะเพิ่มขึ้นเป็น 76 กม./ชม. ส่วนโหมด Road จำกัดความเร็วไว้ที่ 88 กม./ชม. และถ้าใช้ e-Boost จะเพิ่มขึ้นเป็น 105 กม./ชม. ซึ่งฟังก์ชัน e-Boost จะใช้งานได้เพียงแค่ 15 วินาที เพื่อเร่งความเร็วในการแซงเป็นหลัก
ช่วงล่าง
ด้านระบบซับแรงสั่นสะเทือน และระบบเบรก ทั้งสองรุ่นให้มาเหมือนกันคือ โช้คอัพหน้าเทเลสโคปิค ขนาด 41 มม. และโช้คอัพหลังเดี่ยวแบบ Uni-Trak สามารถปรับค่าพรีโหลดได้ ส่วนระบบเบรกด้านหน้าดิสเบรกเดี่ยว 290 มม. และคาลิเปอร์ 2 พอต ส่วนด้านหลังเป็นดิสเบรกเดี่ยวขนาด 220 มม. และ คาลิเปอร์ 2 พอต มาพร้อมกับระบบเบรก ABS แบบ Dual Channel
ฟังก์ชั่น
ในส่วนของฟังก์ชั่นใช้งาน Kawasaki Ninja e-1 และ Z e-1 มาพร้อมกับระบบไฟ LED รอบคัน หน้าจอเรือนไมล์สี TFT ขนาด 4.3 นิ้วแสดงข้อมูลครบครันทุกฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ ระยะทางที่ขับขี่ได้ รวมถึงการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ผ่านแอปพลิเคชัน Rideology ของ Kawasaki
ราคาจำหน่าย
สำหรับราคาของ Kawasaki Ninja e-1 และ Z e-1 ได้เปิดเผยแล้วในเยอรมนี สหราชอาณาจักร และอเมริกาเหนือ โดยแต่ละโซนมีราคาดังนี้
North America
Ninja e-1: 7,599 ดอลลาร์ (ประมาณ 276,400 บาท)
Z e-1: 7,299ดอลลาร์ (ประมาณ 265,500 บาท)
Germany
Ninja e-1: 8,635ยูโร (ประมาณ 333,000 บาท)
Z e-1: 8,235ยูโร (ประมาณ 317,700 บาท)
UK
Ninja e-1: 8,299 ปอนด์ (ประมาณ 371,000 บาท)
Z e-1: 7,799 ปอนด์ (ประมาณ 348,700 บาท)
และนี่ก็เป็นข้อมูลสเปคและราคาของ Kawasaki Ninja e-1 และ Z e-1 ที่จำหน่ายในต่างประเทศเท่านั้น ส่วนการวางจำน่ายในโซนเอเซียจะเป็นสเปคนี้หรือไม่อัพเดทกันอีกครั้ง สุดท้ายนี้จากที่เห็นราคาแล้วไม่หนีห่างจากรถเครื่องสันดาปอย่าง Ninja 650 และ Z 650 ที่วางจำหน่ายในบ้านเราสักเท่าไหร่ ถ้าในอนาคตทาง Kawasaki หันมารุกตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในประเทศไทยก็คงต้องดูว่าจะทำราคาได้ดีแค่ไหน