หลังจากที่ปีกลาย ORA Black Cat ได้สร้างปรากฎการณ์ให้กับทาสแมวชาวไทย ด้วยการเผยความน่ารัก ความเอ็นดูจนทาสแมวหลงใหล
แต่สุดท้าย ORA Black Cat ก็ไม่ได้บรรจุเป็นรถรุ่นใหม่ที่ขายในไทยแต่ว่าปีนี้ GWM ตัดสินใจนำเจ้าเหมียวน้อยสุดเข้มกลับมาอีกครั้งพร้อมมาดใหม่ลุคส์ใหม่ที่ดูดีดีกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าปิดทึบพร้อมช่องเสียบปลั๊กตรงกลาง ประกบกับไฟหน้าทรงกลม Meow-eye LED headlights พร้อมไฟ DRL ไฟท้าย LED พร้อมล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 165/65R15 และขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 175/55R16 มิติตัวรถเล็กกว่า ORA Good Cat แบบทรงท้ายตัดตั้งแต่ความยาว 3,495 มม. ความกว้าง 1,660 มม. ความสูง 1,560 มม. ฐานล้อ 2,475 มม. ความสูงจากใต้ท้องรถ 140 มม. น้ำหนักรถ 977-1,000 กก.
ภายในล้ำสมัยตกแต่งด้วยทูโทน พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเก็บได้สะดวกสบายด้วยแผงคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ ด้วยชุดมาตรวัดดิจิทัล 7 นิ้ว และจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว ออกแบบเป็นชุดเดียวกัน smart dual screen รวมกันถึง 17.25 นิ้ว เชื่อมต่อระบบการสั่งการด้วยเสียง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านลุคส์ใหม่ เบาะหลังมีพื้นที่สัมภาระมากถึง 872 ลิตรเมื่อพับเบาะแต่ถ้าไม่พับมีพื้นที่ความจุ 200 ลิตร เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
แรงเร้าใจด้วยขุมพลังไฟฟ้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor โดยสามพลังแรงตั้งแต่ Low-Power 48 แรงม้า แรงบิด 125 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ 28.5 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 301 กม.ตามมาตรฐาน NEDC ส่วนรุ่น Mid-Power 48 แรงม้า แรงบิด 125 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ 33 kWh วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 351 กม. ตามมาตรฐาน NEDC และรุ่น High-Power 61 แรงม้า แรงบิด 130 นิวตันเมตรวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 405 กม. ตามมาตรฐาน NEDC กับ ความจุแบตเตอรี่ 37 kWh
ORA Black Cat เตรียมอวดโฉมอีกครั้งช่วงงาน Bangkok Motor Show 2022 ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม- 3 เมษายนนี้ ส่วนจะขายจริงหรือไม่นั้นลุ้นกันกลางปีนี้
