ขี้นก ที่ตกลงบนรถยนต์ไม่เพียงแต่ทำให้รถดูสกปรก แต่ยังสามารถสร้างความเสียหายให้กับสีรถได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี เพราะขี้นกประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิดที่อาจทำให้สีรถด่างหรือเกิดรอยขูดขีดได้ในบางกรณี วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหานี้ และวิธีการกำจัดขี้นกที่ตกบนรถอย่างถูกต้องเพื่อรักษาความสวยงามของรถคุณ
สาเหตุที่ทำให้ “ขี้นก” ส่งผลกระทบต่อสีรถ
ขี้นก มักประกอบด้วยสารเคมีจากอาหารที่นกกิน เช่น กรด uric acid ซึ่งเป็นกรดที่สามารถทำลายสีรถได้หากทิ้งไว้เป็นเวลานาน เมื่อขี้นกสัมผัสกับสีรถและแห้งตัวมันจะเกิดการยึดเกาะอย่างแน่นหนา ทำให้การล้างออกยากขึ้น นอกจากนี้ ความร้อนจากแสงแดดจะทำให้ขี้นกแห้งเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถทำให้สารเคมีในขี้นกซึมเข้าสู่สีรถและเกิดความเสียหาย ทำให้เกิดรอยด่างหรือรอยขีดข่วนได้
วิธีการกำจัดขี้นกบนรถ
- ทำความสะอาดทันที หากคุณเห็นขี้นกบนรถ ควรทำความสะอาดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีจากขี้นกทำลายสีรถ การขจัดขี้นกให้เร็วที่สุดจะช่วยลดโอกาสที่มันจะฝังตัวลงในผิวรถและทำให้เกิดรอยด่างได้
- ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น ให้เตรียมน้ำอุ่นใส่ในขวดสเปรย์แล้วฉีดลงบนบริเวณที่มีขี้นก ทิ้งไว้นาน 2-3 นาที เพื่อให้น้ำอุ่นช่วยอ่อนตัวขี้นก ทำให้การขจัดง่ายขึ้น จากนั้นใช้ผ้าหรือฟองน้ำที่นุ่มเช็ดออกอย่างเบามือ
- ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างขี้นกโดยเฉพาะ มีผลิตภัณฑ์ล้างขี้นกที่วางขายในท้องตลาด ซึ่งสามารถใช้เพื่อทำความสะอาดขี้นกโดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณสมบัติช่วยละลายขี้นกได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยต่อสีรถ
- หลีกเลี่ยงการขัดสีรถ ควรหลีกเลี่ยงการใช้แปรงขัดที่มีขนแข็งหรือการใช้ผ้าสากๆ เพราะอาจทำให้เกิดรอยขูดขีดได้ ควรใช้ผ้านุ่มหรือฟองน้ำที่ไม่ทำลายผิวสีของรถ
- เคลือบสีรถเป็นประจำ การเคลือบสีรถด้วยน้ำยาเคลือบสีรถอย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างชั้นป้องกันที่สามารถช่วยปกป้องสีรถจากสารเคมีที่อาจซึมเข้าสู่พื้นผิวสี ทำให้ขี้นกหรือละอองจากมลภาวะไม่สามารถทำอันตรายได้ง่าย
การรักษารถให้สวยงามจากปัญหาขี้นก
การขจัดขี้นกอย่างรวดเร็วและมีระเบียบจะช่วยรักษาสภาพสีรถให้ดูใหม่อยู่เสมอ นอกจากนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบสีรถยังช่วยให้รถของคุณมีผิวเงางามและป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกหรือขี้นกทำลายสีรถในระยะยาว
ขี้นกสามารถส่งผลทำให้สีรถด่างได้หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป โดยเฉพาะเมื่อสารเคมีจากขี้นกซึมลงสู่สีรถและแห้งตัว การทำความสะอาดขี้นกอย่างรวดเร็วด้วยวิธีที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหาย และรักษาสภาพรถให้ดูดีอยู่เสมอ
บทความที่น่าสนใจ
ทำความรู้จักกับ “ล้อแม็ก” เพิ่มความเท่ให้รถของคุณ
มือใหม่หัดขับ ทำความรู้จัก “เกียร์ออโต้” แต่ละเกียร์คืออะไร ใช้ตอนไหน