Porsche Taycan Turbo S Celestial Jade รุ่นพิเศษหนึ่งเดียวในโลก ออกแบบโดยแผนก Sonderwunsch เพื่อเป็นเกียรติแก่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การเปิดตัวครั้งแรกในโลกของ Taycan Turbo S Celestial Jade รถยนต์พิเศษที่ออกแบบโดยแผนก (Sonderwunsch) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง Porsche Exclusive Manufaktur และ Porsche Asia Pacific เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดในการปรับแต่ง Taycan สะท้อนความมีชีวิตชีวาและแสดงถึงนวัตกรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านฝีมือของพวกเขา ที่สำคัญยังมีการตกแต่งพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ และยังสะท้อนถึงสัญลักษณ์ในตำนาน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อภูมิภาคนี้อีกด้วย
Alexander Fabig รองประธานบริหารฝ่าย Individualisation and Classic ของโรงงานปอร์เช่ เอจี กล่าวว่า “ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา นับเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดรถไทคานน์ รุ่นสุดพิเศษที่สุดอย่าง ไทคานน์ เทอร์โบ เอส รุ่น เซเลสเชียล เจด รถยนต์สุดเอ็กคลูซีฟที่เต็มไปด้วยความพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย สีสัน รวมถึงเอกลักษณ์เฉพาะมากมาย อันสะท้อนถึงวัฒนธรรมเอเชีย ต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมงานของเราจากทีม Porsche Asia Pacific ที่สร้างสรรค์ผลงานอันน่าทึ่งนี้ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่ไม่เหมือนใครที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา”
เป็นครั้งแรกในไทคานน์ รุ่นพิเศษ ที่ปอร์เช่ได้ผสมสีที่มีเอฟเฟกต์ ChromaFlair สองชนิดเข้าด้วยกัน โดยมีขั้นตอนการเตรียมและดำเนินการที่มีความซับซ้อนและใช้เวลามาก โดยใช้เวลาในการพัฒนานานถึง 1 ปี สำหรับการทาสีนั้นต้องทำด้วยมือโดยเฉพาะและใช้เวลาประมาณ 80 ชั่วโมง
เทคโนโลยี Chromaflair ประกอบด้วย “เกล็ด” ที่บางมาก ซึ่งดูเหมือนจะเปลี่ยนสีได้ขึ้นอยู่กับมุมที่มองของแต่ละคน เกล็ดเหล่านี้ประกอบด้วยแกนกลางที่ทึบแสงและสะท้อนแสงของอลูมิเนียม ซึ่งล้อมรอบด้วยชั้นที่มีลักษณะคล้ายแก้ว ชั้นที่โปร่งใสนั้นมีสีที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความหนา
โดยรวมแล้ว เกล็ดเหล่านี้มีความหนาเพียง 1 ไมโครเมตร (µm) เท่านั้น เทียบกับเส้นผมของมนุษย์ซึ่งหนากว่า 50 เท่า สีแบบไล่เฉดนี้ไม่เพียงแต่พบในตัวถังของไทคานน์ Sonderwunsch เท่านั้น แต่ยังพบได้บนป้ายกำกับรุ่นด้านหลัง โลโก้ “Electric” ที่ด้านข้าง และฝาครอบกุญแจอีกด้วย
สี “Urban Bamboo” เป็นสีเขียวสดใสที่มีโทนสีเหลืองและทอง และสี “Shifting Carbon” เป็นสีเทาดำที่มีโทนสีดำและน้ำเงิน ทั้ง 2 สีนี้ ได้รับการเลือกผสมสีในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกนี้
การผสมผสานของทั้ง 2 สีส่งผลให้เกิดชื่อที่เลิศล้ำของรถยนต์คือ “Celestial Jade” ซึ่งโดยเฉพาะในเอเชีย หยกเป็นอัญมณีอันล้ำค่าที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเกี่ยวข้องกับความสุขและความยั่งยืน ส่วนคาร์บอน “Carbon” เป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของปอร์เช่ ซึ่งเป็นสีที่เป็นนวัตกรรมและทรงพลัง มักพบเห็นได้ในโลกของการแข่งรถ วัสดุนี้มีความแข็งแรง เบา และทนทาน
นอกจากสีภายนอกด้วยเทคนิค Chromaflair แล้ว รถยนต์ที่เป็นหนึ่งเดียวคันนี้ยังมีโลโก้ ‘LongMa’ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษในหลายตำแหน่ง เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่วัฒนธรรมเอเชีย ‘LongMa’ เป็นสัญลักษณ์ของพลัง ความแข็งแกร่ง และความเป็นสิริมงคล ซึ่งมีหัวของมังกร (‘long’) และลำตัวของม้า (‘ma’) และมีความหมายยิ่งขึ้นเมื่อมันตรงกับปีมังกรในปี 2024
ส่วนไทคานน์ (Taycan) ซึ่งมีที่มาจากคำตุรกี 2 คำที่หมายถึง ‘จิตวิญญาณของม้าหนุ่มที่มีชีวิตชีวา’ สามารถเห็นโลโก้ได้ที่การ์ดป้องกันขอบประตูหน้าและหลัง ที่โปรเจคเตอร์ประตู และที่หมอนรองศีรษะทั้งหมด
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับสี Chromaflair คือส่วนประกอบที่ตกแต่งด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนทอแบบเคลือบเงา ซึ่งแทนที่แผ่นตกแต่งสี Turbonite แบบมาตรฐานที่กันชนหน้า สเกิร์ตข้าง และดิฟฟิวเซอร์หลัง แผ่นดันอากาศบนล้อก็ทำจากวัสดุพิเศษที่ทำด้วยมือ การเคลือบเงาช่วยให้สารประกอบคาร์บอนไฟเบอร์เปล่งประกายออกมาเป็นสีต่างๆ อย่างสวยงาม
นอกจากสีหนัง 10 สีและสีตะเข็บ 15 สีที่ปอร์เช่ เสนอเป็นมาตรฐานสำหรับไทคานน์ แล้ว ยังมีบริการ “Leather to Sample” ให้เลือกผ่านโปรแกรม Sonderwunsch อีกด้วย
เพื่อฉลองการเปิดตัวครั้งแรกของรุ่นพิเศษนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งภายในของ ปอร์เช่ เอ็กคลูซีฟ เมนูแฟคทัวร์ ได้ลองผสมสี Slate Gray กับสี Englishgreen สีเขียวเข้มอันหรูหรา ทำใหได้สีสุดพิเศษ ที่เห็นได้ทั้งในประตู คอนโซลกลาง เบาะนั่งหน้า – หลัง และมีสีให้เลือกมากถึง 150 สี
สำหรับ Taycan Turbo S Celestial Jade จะเริ่มทัวร์ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะไปที่ประเทศมาเลเซียและประเทศไทยเร็วๆ นี้
Source : newsroom.porsche.com
