SUV สัญชาติเอเชีย หน้าตายุโรป Haval H6 คันนี้ เปิดตัวมาสักพัก เทสไดฟ์กันมาสักระยะแล้ว แต่ก็ยังไม่เปิดเผยราคาสักที ซึ่งหลายคนก็ลุ้นกันพอสมควรเลยว่า ทั้งระบบอัจฉริยะ เทคโนโลยีใหม่จัดเต็มขนาดนี้ ราคาจะออกมาเท่าไร เพราะเป็นกระแสได้รับความสนใจเป็นอย่างมากหลังเปิดตัวไปเมื่อต้นปี กับรถ SUV HYBRID โมเดลคันแรกในไทยที่ GWM ผลิตออกมา ซึ่ง Haval H6 นี้ประสบความสำเร็จมากในจีน ด้วยยอดขายพุ่งไปถึง 3 ล้านคัน และคาดว่าบ้านเราก็จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน
ลองมาดูดีไซน์รถทั้งภายในและภายนอก และสเปค สมรรถนะต่างๆ ของกันรถกันก่อนดีกว่า ว่าน่าสนใจขนาดไหน ยิ่งถ้าเปิดราคามาแล้วคุ้มค่ากว่ารถคลาสเดียวกัน รับรอบต้องมีขายคันเก่ามาถอยคันใหม่กันเพียบ
ดีไซน์ภายนอก
รูปลักษณ์ดูดี หรูหรา ทันสมัยสไตล์ยุโรป ขนาดใหญ่บึกบึน เด่นมาตั้งแต่กระจังหน้าที่ดีไซน์ให้ใหญ่ระบายลมเพื่อให้รถทรงตัวได้ดียิ่งขึ้น บวกกับไฟหน้า Full LED ที่สวยเฉียบคม มองไปด้านข้างก็จะเห็นว่าคันใหญ่ยักษ์มาก รับกับล้อขนาด 19 นิ้ว ตัวแม็กมีตรา Haval ทำให้ดูทันสมัยขึ้น กระจกมองข้างใหญ่ ด้านไฟท้าย LED แบบ Cross Sectional ลากยาวขนาบกระโปรงท้ายคล้ายกับ Porsche Cayenne ซึ่งในเวลากลางคืนจะทำให้เห็นไฟเบรคชัดเจน และทำให้รถดูสวยมากขึ้น ในรุ่นตัวท๊อปของ Haval นี้จะมี Panolamic Sun Loop ขนาดยาวตั้งแต่ด้านหน้าไปจนด้านหลัง ซึ่งดีไซน์ได้สวยมาก
ดีไซน์ภายใน
โดยรวมการตกแต่งภายในดูเรียบหรู ทันสมัยมาก ด้านในตกแต่งด้วยเบาะหนังสีดำทูโทนตัดครีม ตัวผนังสีครีมขาวตัดดำเหมือนทั่วไป ในส่วนการตกแต่งคอนโซลด้านหน้าดูเหมือนรถยนต์ไฟฟ้าและบีเอ็มดับเบิ้ลยูผสมผสานกัน เพราะทาง GMW ในประเทศจีนประกอบรถให้กับ BMW เลยอาจจะได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากตรงนั้น คือตัวรถนี่เปิดรถเข้าไปจะเห็นหน้าจอทัชกรีนสองจอ พวงมาลัยแบบ Multi-Function และหน้าจอแสดงผลแบบ Digital ขนาด 10 นิ้ว (ในรุ่น Pro) หน้าจอคอนโซลกลางเป็นแบบสัมผัส ขนาด 12 นิ้ว(ในรุ่น Ultra) ควบคุมและสั่งการทุกอย่างของตัวรถ ส่วนหน้าปัดเป็นแบบดิจิตอล ดูล้ำสมัย พร้อม HUD ที่แสดงผลบนกระจกหน้า และระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย แสดงผลเป็นดิจิตอลทั้งหมด ไฮเทคมาก ส่วนจอตรงกลางจะใช้เป็นจอแสดงผลจับวัตถุที่เข้าใกล้รถรอบคันทุกรูปแบบ แบบเรียลไทม์ ความละเอียด 4 ล้านพิกเซลล์ ซึ่งสามารถตั้งค่าทุกสิ่งทุกอย่างภายในรถ ควบคุมรถทั้งหมด หัวเกียร์แบบ High-Gloss ไฟตกแต่งแบบ Ambient Light
สมรรถนะเครื่องยนต์
ให้ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับและเพลิดเพลินไปกับความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัดและสนุกสนาน รองรับทุกสถานการณ์การขับขี่เต็มรูปแบบ ประกอบด้วยโหมดการขับขี่ 4 แบบ คือโหมดมาตรฐาน/ โหมดสปอร์ต/ โหมดประหยัด/ โหมดสภาพถนนลื่น ตอบสนองการขับขี่ในสภาพถนนที่แตกต่างกัน เพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบมัลติโหมด DHT รองรับการขับขี่ตามความต้องการ ช่วยประหยัดน้ำมันและคลายความกังวล ระบบเกียร์ไฮบริดรุ่นแรกที่มี 2 เกียร์ ที่ด้านเครื่องยนต์และอีก 1 เกียร์ที่ด้านมอเตอร์ขับเคลื่อน รองรับการขับเคลื่อนที่หลากหลาย ต้องบอกเลยว่าช่วงล่างดีมากๆ ขับนิ่ม เสียงเงียบ
ลองมาชมคลิป Test Drive กับ 5 จุดเด่น จุดด้อยกันดูครับ
