Daniel Ricciardo กล่าวว่า เขายังไม่แน่ใจว่าในปีหน้าเขาจะไปอยู่ที่ไหน หลังจากประกาศแยกทางกับ McLaren สิ้นปีนี้
นักแข่งออสเตรเลียนได้ประกาศการแยกทางกับต้นสังกัด McLaren เร็วกว่ากำหนดของสัญญา 1 ปี หลังจากที่เจ้าตัวไม่สามารถเค้นฟอร์มออกมาจากรถ MCL36 ได้อย่างที่ตั้งใจ และถูก Lando Norris เพื่อนร่วมทีมทั้งเอาท์ควอลิฟายและเข้าเส้นชัยด้วยอันดับที่เหนือกว่าอยู่บ่อยครั้ง
แน่นอนว่าการแยกทางระหว่าง Ricciardo และ McLaren เป็นสิ่งที่แฟน ๆ รู้สึกเจ็บปวดที่ได้เห็น แล้วด้วยเหตุใดพวกเขาถึงต้องแยกทางกัน?
F1 นั้นไม่ใช่สถานที่ซึ่งข้อเสนอที่ดีจะได้รับผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อกลับมา มันเต็มไปด้วยความโหดร้ายที่ซึ่งความสำเร็จและความล้มเหลวถูกขีดเส้นกั้นห่างกันเพียงเศษเสี้ยวของวินาที และเมื่อองค์ประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งของแพ็กเกจของคุณไม่ได้ทำงานอย่างที่ควรจะเป็น มันก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไข เพราะหากคุณยืนนิ่งอยู่แม้เพียงสักครู่เดียว คุณก็จะพบว่าตัวเองกำลังถอยหลัง
ในเคสของ McLaren นั้น มันชัดเจนมากว่าความห่างระหว่าง Norris และ Ricciardo ตลอดทั้งปี 2022 นี้ ไม่ได้ถูกลดทอนลงมาเลย นักแข่งออสซีมักจะควอลิฟายตามหลังนักแข่งรุ่นน้องในทีมอยู่ประมาณ 0.3 วินาที
โอเค ถ้าหากว่า McLaren เป็นรถที่ดี มีผลงานเหนือกว่าคู่แข่งเป็นอย่างมาก ความห่างของพวกเขา 0.2 – 0.3 วินาที อาจไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจอะไร ประเด็นคือ McLaren กำลังมีการต่อสู้ที่ดุเดือดเข้มข้นในการแย่งความเป็นหนึ่งในกลุ่มกลาง ที่ซึ่ง 0.3 วินาที อาจเป็นช่วงห่างระหว่าง “การเข้า Q3 อย่างฮีโร่” หรือ “การหลุด Q1 แบบสิ้นลาย”
การหลุด Q1 มันจะทำให้คุณต้องตะเกียกตะกายขึ้นมาและได้คะแนนไม่เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น และเมื่อคุณทำอย่างนั้นซ้ำไปซ้ำมา มันก็จะเกิดช่องว่างที่มีระยะห่างขึ้น อย่างเช่นที่ McLaren ในขณะนี้ซึ่ง Norris เก็บแต้มไปได้ 76 คะแนน ในขณะที่ Ricciardo นั้นมีเพียง 19 คะแนน
ช่องระยะห่างนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในระยะห่างที่มากที่สุดของทีมเมทบนกริดปัจจุบัน และกับทีมที่มีความทะเยอทะยานจะกลับสู่หัวแถวอย่าง McLaren พวกเขากังวลว่าสิ่งนี้จะถูกส่งต่อไปยังปี 2023 ที่ซึ่งกริดอาจจะมีการแข่งขันที่เบียดบี้ยิ่งขึ้น
ระยะห่างเกือบ 60 แต้ม ระหว่างคู่หู McLaren นี้ ทำให้พวกเขาต้องดิ้นรนในการต่อสู้แย่งชิงอันดับ 4 กับ Alpine ในปีนี้ และมันอาจจะทำให้พวกเขาเสียอันดับไปมากกว่านี้ในปีหน้าก็เป็นได้ สิ่งที่ตามมาก็คือ เงินส่วนแบ่งกำไรจากทางรายการที่ลดลง สปอนเซอร์ที่ให้ความสนใจที่ลดลง หรือแม้กระทั่งโบนัสของทีมงานที่ลดลง
Andreas Seidl ทีมบอส McLaren กล่าวว่า มันสำคัญมากที่จะต้องมีนักแข่งทั้ง 2 คน ที่ดึงประสิทธิภาพรถออกมาได้สูงสุด
“เป้าหมายนั้นชัดเจน แต่ละทีมบนกริดนั้นต้องการนักแข่งทั้ง 2 คน ให้อยู่ในตำแหน่งที่เสมอกันในแต่ละสุดสัปดาห์การแข่งขันเพื่อดึงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาจากตัวรถ ด้วยวิธีนั้นเราถึงจะได้ใช้ศักยภาพสูงสุดของตัวรถ” Seidl กล่าว
“อาจจะใช่ที่สถานการณ์ในตอนนี้ที่เราเจอกับ Daniel นั้นไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีสักเท่าไร เขากำลังมีปัญหากับตัวรถ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็มีความท้าทายร่วมกัน และมีความรับผิดชอบร่วมกันที่ทำให้มันไม่เกิดผล”
“ผมอยากจะหลีกหนีให้ห่างจากการกล่าวโทษ Daniel ที่ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งนี้บนตารางคะแนนสะสม อันนี้ยกตัวอย่างนะ”
ที่สุดแล้ว ปัญหาของ Ricciardo ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีทักษะและความสามารถที่จะประสบความสำเร็จ แต่เป็นบางสิ่งที่ไม่เข้ากันระหว่างตัวเขากับคอนเซปต์รถของ McLaren
นักแข่งออสซีเคยกล่าวไว้เมื่อตอนต้นปีว่า นักแข่งกับรถก็เหมือนคู่เต้นรำ พวกเขาต้องรวมกันเป็นหนึ่ง และนั่นเป็นสิ่งที่ McLaren และตัวเขาเองทุ่มเทเป็นอย่างมาก แต่กับ 18 เดือนที่ผ่านมา ความคืบหน้านั้นปรากฏให้เห็นน้อยมาก จนถึงจุดที่พวกเขาต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันนั้นไม่เวิร์ค
“เราทุ่มเทลงไปเป็นอย่างมากเพื่อดูว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างกับรถเพื่อช่วยเขา เขาเองก็ทุ่มเทเป็นอย่างมากเช่นกัน ทั้งการทำงานร่วมกับวิศวกร การทดสอบจำลองการขับ แต่เราไม่สามารถปลดล็อกเปอร์เซ็นต์ที่เราขาดหายไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อเทียบกับ Lando และน่าเสียดายที่เราไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์นั้นได้”
ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง McLaren และ Ricciardo จะไม่เวิร์ค แต่ทางทีมก็ยังชื่นชมในสิ่งที่นักแข่งออสซีทุ่มเทให้กับทีม
“เมื่อผมมองย้อนกลับไป 18 เดือนที่ผ่านมา มันไม่ใช่ว่า Daniel ต้องการบางสิ่งจากรถที่แตกต่างจาก Lando อันที่จริงทั้งคู่มีความต้องการที่ค่อนข้างจะสอดคล้องกันเกี่ยวกับจุดอ่อนของรถ”
“ผมต้องการที่จะทำให้มันชัดเจน ในช่วงเวลาที่เราได้ใช้ร่วมกัน เราซาบซึ้งในทุกอย่างที่เขานำมาสู่ทีม ตลอดจนประสบการณ์ทั้งหมดของเขา ผมคิดว่ามันช่วยให้เราก้าวไปอีกขั้นในฐานะทีม”
“เขายอดเยี่ยมเสมอถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับรถที่ดีอย่างที่เขาควรจะได้รับ เขาคิดบวกและช่วยผมผลักดันทีมไปข้างหน้าเสมอมา”
“เรายังไม่ลืม เช่น การเริ่มต้นที่ยากลำบากในปีนี้ และนั่นสำคัญมาก มันเป็นสิ่งที่ดีมากที่ได้เห็น และไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรในแง่ของความเคารพที่ผมมีต่อเขา”
“มันเป็นเพียงแค่ความจริงที่น่าเสียดายว่า เราไม่สามารถทำให้มันเวิร์คร่วมกันได้ที่ McLaren และอย่างที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ สุดท้ายแล้วมันคือความพยายามของทีมงานระหว่างทีมกับนักแข่ง และผมคิดว่ามันเป็นความรับผิดชอบร่วมกันที่โชคไม่ดีที่เราไม่อาจทำให้มันเห็นผล”
อ้างอิง : motorsport.com