Suzuki e VITARA เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายเตรียมทำตลาดที่ญี่ปุ่นเวอร์ชันพวงมาลัยขวาอย่างเป็นทางการหลังเผยสเปกให้ชาวญี่ปุ่นได้รู้จัก
Suzuki e VITARA เอสยูวีไฟฟ้าออกขายเพื่อมาต่อกรกับคู่แข่งจากจีนและยุโรปด้วยดีไซน์ที่ไม่แตกต่างจากต้นแบบรุ่น e VX
ภายนอก
ตั้งแต่กระจังหน้าทรงทึบติดตรา S ส่วนบนของโลโก้เป็นเส้นสีเงินโครเมียมไฟหน้า Matrix LED สองข้างทรงดุรับกับกันชนหน้าทูโทนพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ทรงกลมดวงเล็กล้อมด้วยกรอบสีเงินโครเมียม ด้านข้างดุดันด้วยหลังคาสีดำพร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟกระจกมองข้างทรงสปูนติดตั้งไฟเลี้ยว คิ้วขอบล้อสีดำทรงเท่ลากยาวเรียบเนียนกับกาบข้างประตูสีดำขนาดใหญ่
ที่เปิดประตูดึงก้านสำหรับประตูคู่หน้าส่วนที่จับประตูหลังอยู่บนตำแหน่งเดียวกับเสา C ด้านท้ายมาเท่ด้วยสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ไฟท้าย LED แนวยาวติดตรา S และชื่อรุ่น e VITARA ขนาดใหญ่รับกับกันชนหลังทูโทนเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังและล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วรัดด้วยางขนาด 225/55 R18
ทรงกล่องไซซ์ซับคอมแพ็คคันนี้พัฒนามาจากแพลตฟอร์มเพื่อรถไฟฟ้าเท่านั้นกับ “HEARTECT-e” มีขนาดใหญ่ว่ารุ่น VITARA เครื่องสันดาปเล็กน้อยเมื่อเทียบกันพบว่ายาวกว่าเดิม 100 มิลลิเมตร กว้างกว่า 25 มิลลิเมตร สูงกว่า 25 มิลลิเมตรและฐานล้อยาวกว่า 200 มิลลิเมตร ตั้งแต่
- ความยาว 4,275 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,800 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,640 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 185 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,700-1,890 กิโลกรัม
ภายใน
เริ่มที่แผงคอนโซลหน้าดีไซน์โหดจอคู่ขนาดใหญ่แบบลอยตัวประกอบด้วยจอมาตรวัดความเร็วดิจิทัล 10.25 นิ้วเป็นจอสีและจอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาด 10.1 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อต่างๆ ถัดลงมาเป็นช่องแอร์แนวตั้ง 4 ช่องติดตั้งกรอบสีเงินและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน ถัดลงมาเป็นคอนโซลเกียร์โดยเป็นแป้นเกียร์หมุนทรงกลมมีที่ชาร์จมือถือไร้สาย มีปุ่มโหมดการทำงานของรถที่วางแก้วเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold
ที่ท้าวแขนหุ้มหนังสัมผัส โดยโทนสีภายในมีให้เลือกทั้งสีดำเข้มและทูโทนดำน้ำตาล ภายในแน่นอนว่าคันนี้ให้ความสบายแบบ 5 ที่นั่งพร้อมเบาะนั่งหลังพับได้แบบ 40/20/40 แถมปรับเลื่อนได้ เพิ่มพื้นที่ในการขนของโดยความจุด้านท้ายตอนไม่พับเบาะมีพื้นที่ 306 ลิตร
ขุมพลัง
ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (LFP) ขนาด 49 kWh ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิด 189 นิวตันเมตรในรุ่น Standard 2WD วิ่งไกล 433 กิโลเมตร (WLTC) อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้าต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTC ได้ 124 วัตต์ชั่วโมงต่อกิโลเมตร (Wh/km)
ขยับมาที่รุ่น Extended 2WD ขยับความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 61 kWh ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า แรงบิด 189 นิวตันเมตร โดยวิ่งไกลต่อการชาร์จ 520 กิโลเมตร (WLTC) อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้าต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTC ได้ 131 วัตต์ชั่วโมงต่อกิโลเมตร (Wh/km)
รุ่น Performance 4WD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 61 kWh ให้กำลังรวมสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดรวม 307 นิวตันเมตรแบ่งเป็นมอเตอร์ล้อหน้า 174 แรงม้า แรงบิด 193 นิวตันเมตร และมอเตอร์ล้อหลัง 65 แรงม้า แรงบิด 114 นิวตันเมตร วิ่งไกล 472 กิโลเมตร (WLTC) อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้าต่อกิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTC ได้ 144 วัตต์ชั่วโมงต่อกิโลเมตร (Wh/km)
พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ “ALLGRIP-e” ทีมี eAxles คู่ทั้งล้อหน้าและล้อหลังพร้อมล็อกเฟืองท้าย Limited Slip Differential พร้อมโหมด TRAIL และ Auto เฉพาะรุ่น Z 4WD ทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมดทั้ง Eco, Normal และ Sport
สามารถชาร์จได้ทั้ง ชาร์จเร็วกระแสตรง DC CHAdeMO สูงสุด 90 kW 10-65% ภายใน 45 นาทีในรุ่น Z 2WD และ Z 4WD และ 55 นาที ในรุ่น X 2WD ส่วนชาร์จช้ากระแสสลับ AC 10-100% สูงสุด 6 kW ภายใน 8.5 ชั่วโมงในรุ่น X 2WD และ 10.5 ชั่วโมง ในรุ่น Z 2WD และ Z 4WD
ทุกขนาดความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single speed electric drive มีระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) มีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ พร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าที่ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร กับช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบ MacPherson และด้านหลังแบบ Multi-Link
ความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Suzuki Safety Support
- ป้องกันการชนคันหน้า Dual Sensor Brake Support II
- เตือนออกนอกเลน Departure Notification Function
- จดจำป้ายจราจร Sign Recognition Function
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist (LKA)
- ป้องกันการออกนอกเลน Lane Departure Prevention (LDP)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Monitoring (BSD)
- แจ้งเตือนออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- เตือนเมื่อรถส่าย Sway Warning
- ตรวจจับพฤติกรรมผู้ขับขี่ Driver Monitoring System (DMS)
- ป้องกันการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจขณะออกตัว False Start Prevention
- ป้องกันการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจขณะถอยหลัง Rearward False Start Prevention
- ควบคุมการเบรกความเร็วต่ำทั้งออกตัวและถอยหลัง Low Speed Brake Support (forward/reverse)
- ช่วยเตือนขณะถอย Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive High Beam (AHB)
กล้องมองรอบคัน 360 องศา ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเบรก ABS ตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS) ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด เซนเซอร์ช่วยจอด ด้านหน้าและด้านหลัง ตรวจสอบแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS)
เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold Electronic Parking Brake (EPB) with Brake Hold ปุ่มโทรฉุกเฉิน Emergency Call with SOS และตัวรถทำจากเหล็กกล้า High Tensile Steel Strength และระบบเสียงรถวิ่งเพื่อให้คนเดินถนนได้ยิน The Acoustic Vehicle Alarm System (AVAS) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill descent control (HDC) เฉพาะรุ่น Z 4WD
Suzuki e VITARA ประกอบที่โรงงาน Suzuki Motor ที่รัฐคุชราตประเทศอินเดีย ขายที่ญี่ปุ่นขายจริง 16 มกราคม 2026 มีทั้งหมด 4 สีทูโทนหร้อมหลังคาดำ black roof ทั้งสีเขียว Land Breeze Green Pearl Metallic, สีบรอนซ์เงิน Splendid Silver Pearl Metallic, สีขาวมุก Arctic White Pearl, สีแดง Opulent Red Pearl Metallic และสีดำโมโนโทน Bluish Black Pearl รวมทั้งหมด 5 สี โดยขาย 3 รุ่นย่อยดังนี้
- รุ่น X 2WD 3,993,000 YEN หรือราว 865,000 บาท
- รุ่น Z 2WD 4,488,000 YEN หรือราว 975,000 บาท
- รุ่น Z 4WD 4,928,000 YEN หรือราว 1,065,000 บาท
ที่มา CarWatch