More

    Tesla เผชิญปัญหาหนักในตลาดรถเมืองจีน

    เจ้าพ่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเบอร์หนึ่งของโลกอย่าง Elon musk เจ้าของค่ายรถ Tesla กำลังเผชิญปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นกับผลผลิตจากรถยนต์ในค่ายที่ได้พัฒนามาเป็นรถยนต์ไร้คนขับ (Auto Pilot ) จนทำให้เสียเครดิตอย่างมากในประเทศจีน โดยสถานการณ์ล่าสุดพบว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นเกิดปัญหากับผู้ใช้ชาวจีนรายหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้วยอดจำหน่ายของทาง Tesla กำลังไปได้สวย แต่กลับต้องมาล้มไม่เป็นท่าด้วยเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับคุณภาพของแบรนด์ระดับโลกเช่นนี้ 

    ตลาดรถยนต์ในประเทศจีนนั้นนับว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ด้วยจำนวนประชากรที่มาก และอัตราการใช้จ่ายที่สูง ไม่ว่าสินค้าไหนเจ๋งๆ ได้เข้าไปเปิดตัวที่นี่ ก็จะเติบโตยอดขายพุ่งอย่างรวดเร็ว ซึ่งจากการสำรวจตลาดรถยนต์ในประเทศจีนของ Tesla ในเดือนมกราคมจนถึงมีนาคม ปี 2021 นี้ เพียงระยะเวลา 3 เดือน ได้มีการผลิตใน 69,000 คัน ซึ่งนับว่าเป็นการจำหน่ายที่สูงเป็น 3.7 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันจากปี 2020 ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่ารถของแบรนด์ Tesla ไปได้ดีขนาดไหนในประเทศจีน

    แต่ปัญหาจากยอดการจำหน่ายที่สูงมากขนาดนี้ ก็คือการควบคุมคุณภาพของผลผลิต โดยภายในงานใหญ่ระดับโลกอย่าง Shanghai Motor Show 2021 ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่ามีผู้ใช้รถยนต์ของ Tesla หนึ่งคน พยายามกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถที่จอดโชว์อยู่ภายในงาน และพูดเสียงดังว่า “Tesla เกือบจะทำให้เค้าต้องตาย” โดยเมื่อมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงก็พบว่า หญิงสาวรายนี้ ได้ซื้อตัวรถยนต์ของทาง Tesla ไปใช้งาน แล้วปรากฎว่า ระบบเบรกอัตโนมัติ ในการขับขี่แบบ Auto Pilot ไม่ทำงาน จนทำให้เจ้าตัวเกือบชนกับรถที่สัญจรไปมาบนท้องถนน และได้ทำการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว แต่ทางผู้ผลิตกลับไม่ตอบสนองใดๆ จึงได้ตัดสินใจแสดงพฤติกรรมดังกล่าวภายในงานใหญ่ระดับโลก

    ต่อมาทางกองทัพของประเทศจีน ได้ประกาศสั่งห้ามให้บุคลากรทางการทหารในสังกัดที่มียศสูง ใช้ยานพาหนะของ Tesla สืบเนื่องมาจากการตรวจสอบได้ว่าตัวรถมีการบันทึกประวัติการขับขี่ เส้นทาง รวมไปถึงการบันทึกบทสนทนาผ่านการโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับตัวรถ ซึ่งมีผลต่อความมั่นคงทางการทหาร และถูกแบนจากกองทัพโดยปริยาย

    ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยจำนวนการจำหน่ายที่มากมาย ก็จะตามมาด้วยภาษี ซึ่งทางโรงงาน Tesla เป็นแบรนด์ผู้ผลิตยานยนต์จากต่างชาติเพียงเจ้าเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานได้โดยไม่ต้องใช้ชื่อของพลเมืองชาวจีนเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งจะแตกต่างจากแบรนด์ยานยนต์อื่นๆ ที่จะต้องมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นพลเมืองของประเทศ ซึ่งเรื่องนี้เคยถูกนำไปถกปัญหากันในงานประชุมโดยคณะทูตระดับสูงระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่จัดขึ้นใน Alaska เมื่อวันที่ 18-19 มีนาคมที่ผ่านมา

    ต่อมา Reuters สำนักข่าวระดับโลกก็ได้รายงานเกี่ยวการล้มแผนในการขยายโรงงานในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งถ้าไม่ล้มแผนการ โรงงานแห่งนี้ในประเทศจีนจะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของบริษัท รองจากโรงงานใน Fremont ในสหรัฐฯ เลยทีเดียว

    ดูเหมือนว่าชนวนของการขัดขวาง Tesla ไม่ให้เติบโตในประเทศจีนนั้น จะมีเหตุผลมาจากการเมืองเป็นหลัก ทั้งการแบนสินค้าต่างๆ จากประเทศจีนในสหรัฐฯ รวมไปถึงการพยายามผลักดันผู้หลี้ภัยและผู้หนีเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายด้วยมาตรการที่เด็ดขาด ซึ่งตรงนี้ก็เป็นหน้าที่ของประธานาธิบดีคนใหม่อย่าง Joe Biden ที่ต้องเข้ามารักษารอยร้าวนี้

    Tesla จะรับมือกับวิกฤตนี้ได้อย่างไร จะผ่านพ้นไปได้เมื่อไหร่ ทางเราจะกลับมาอัพเดทข่าวนี้กันอีกครั้ง


     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts