ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน 2568 เป็นต้นมา ซึ่งสร้างความตึงเครียดต่อทางการทหารอย่างมาก ประเด็นเกี่ยวกับการลักลอบ ส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชา ก็ยังคงได้รับความสนใจและเกิดข้อสงสัย เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
ล่าสุด กระทรวงพลังงาน ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการส่งออกน้ำมัน พร้อมผลการตรวจสอบที่ดำเนินการอย่างเข้มงวด เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติและลดผลกระทบต่อประชาชน
นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศกัมพูชาว่า นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบระหว่าง ไทย – กัมพูชา ที่เริ่มต้นเมื่อกลางเดือนมิถุนายน 68 ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ค้าน้ำมันทุกรายให้ระงับการ ส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชา
ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันภายในประเทศทุกราย นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้พลังงานจังหวัดในพื้นที่ ที่ติดชายแดนดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบส่งออกน้ำมัน ทั้งจากไทยโดยตรง และการลักลอบส่งผ่านทาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
ผลจากการคุมเข้ม ทำให้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 เป็นต้นมา ไม่มีการส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชา 100% และจากการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ก็ไม่มีผู้ค้ารายใดส่งออกน้ำมันให้กับกัมพูชา
กระทรวงพลังงานตระหนักถึงความจำเป็นในการดูแล ความมั่นคงของชาติและประชาชน เป็นสำคัญ ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานมีกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ประกอบการค้าน้ำมันทุกรายต้องรายงานข้อมูลการส่งออกน้ำมันต่อ กรมธุรกิจพลังงาน อย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการกำกับดูแลและตรวจสอบปริมาณการส่งออกน้ำมัน
“ขอยืนยันว่ารัฐบาลและกระทรวงพลังงานให้ความสำคัญสูงสุดกับความมั่นคงของชาติ หลังเกิดเหตุความไม่สงบ กระทรวงพลังงานขอความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันทุกรายไม่ส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูช ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันทุกราย และมีการรายงานให้กรมธุรกิจพลังงานทราบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพลังงานจังหวัดในพื้นที่ติดชายแดนกัมพูชาและลาวก็มีการตรวจสอบการลักลอบอย่างเข้มงวด ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีการส่งน้ำมันจากไทยไปยังกัมพูชาตามที่เป็นข่าว”
ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้ที่: car2day.com
