สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิตรถยนต์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 ภาพรวมการผลิตลดลง แต่เมื่อแบ่งเป็นประเภท BEV PHEV และ HEV มียอดการผลิตเพิ่มขึ้น ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 724,715 คัน ลดลง 4.80%
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 มีจำนวน 264,668 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาในเวลาเดียวกัน 6.55% โดยแบ่งเป็น
ประเภท |
จำนวน |
เปลี่ยนแปลง YOY |
รถยนต์นั่ง ICE |
118,730 คัน |
ลดลง 33.04% |
รถยนต์นั่ง BEV |
23,798 คัน |
เพิ่มขึ้น 380.48% |
รถยนต์นั่ง PHEV |
9,937 คัน |
เพิ่มขึ้น 211.60% |
รถยนต์นั่ง HEV |
112,203 คัน |
เพิ่มขึ้น 14.77% |
ยอดผลิตรถยนต์บรรทุก ตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 460,047 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาในเวลาเดียวกัน 3.76% โดยแบ่งเป็น
ยอดผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน ตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 ผลิตได้ทั้งสิ้น 455,678 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาในเวลาเดียวกัน 2.37% โดยแบ่งเป็น
ประเภท |
จำนวน |
เปลี่ยนแปลง YOY |
รถกระบะบรรทุก |
73,057 คัน |
ลดลง 6.29% |
รถกระบะดับเบิลแค็บ |
293,028 คัน |
ลดลง 5.24% |
รถกระบะดับเบิลแค็บ BEV |
90 คัน |
เพิ่มขึ้น 100% |
รถกระบะ PPV |
89,503 คัน |
เพิ่มขึ้น 12.51% |
ยอดผลิตรถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน รวมเดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 ผลิตได้ 4,369 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาในเวลาเดียวกัน 61.23%
นอกจากนี้ ส.อ.ท. ได้มีการปรับเป้าการผลิตรถยนต์ปี 2568 จาก 1,500,000 คัน เป็น 1,450,000 คัน ลดลง 50,000 คัน โดยปรับเป้าเฉพาะผลิตเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 5 จาก 1,000,000 คันเป็น 950,000 คัน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับลดเป้าหมายการผลิตเพื่อการส่งออก ดังนี้
- มาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่อาจกระทบต่อมูลค่าการค้าโลกภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อและยอดจำหน่ายรถยนต์ลดลง
- การเพิ่มความเข้มงวดด้านข้อกำหนดการปล่อยคาร์บอน
- การยุติการผลิตรถยนต์บางรุ่นเพื่อปรับไลน์การผลิตสู่รุ่นใหม่
- ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคของโลก
- การรุกตลาดของรถยนต์ในประเทศคู่ค้า ซึ่งเพิ่มการแข่งขันและกดดันยอดขาย