ทำตลาดมา 3 ปี สำหรับ Toyota AYGO X ซิตี้คาร์เจนที่ 3 โดดเด่นด้วยความสะดวกสบายความคล่องตัวในการใช้งานในเมืองเป็นอย่างดีจนเป็นที่นิยมของชาวยุโรป
ล่าสุด Toyota ยุโรปจัดการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปีของ Toyota AYGO X นอกจากปรับหน้าตาแล้วยังได้พลังใหม่เข้ามาตอบโจทย์คนเมือง
ภายนอกปรับใหม่เริ่มที่ กระจังหน้าแบบ Hammerhead กริตเตอร์ทึบสีเดียวกับตัวรถดีไซน์เอกลักษณ์พร้อมตราโลโก้สามห่วงบนฝากระโปรง ไฟหน้าโคมใหม่ LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights LED แบบ Light Guiding ลากยาวตั้งแต่ซ้ายกลางทรงแนวนอนไปจนถึงขวา พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ออกแบบช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ในชุดกันชนหน้าสีทูโทน
ด้านข้างเสา C กับ D ที่ดีไซน์เสาไม่ใหญ่มากนักตัดด้วยเส้นสีดำบ่งบอกถึงความเท่ล้ำ พร้อมเสาอากาศแบบเสาสั้น มีหลังคาผ้าใบให้เลือก กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูดึงก้าน ด้านท้ายคงเดิม ไฟท้าย LED ขนาบข้างกับฝาท้าย พร้อมล้ออัลลยลายใหม่ล้เลือกได้สองขนาดทั้งแบบ 17 นิ้ว พร้อมยาง 175/65R17 และขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 175/60R18
นอกจากนี้ยังแนะนำรุ่น GR Sport ด้วยหน้าตาคล้ายรุ่นปกติแต่ปรับบุคลิกให้มาในแนวสปอร์ตเรสซิ่งด้วยชุดกันชนหน้าออกแบบคล้ายกับ Toyota GR Corolla ด้วยช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมลายรังผึ้งติดตรา GR Sport พร้อมฝากระโปรงหน้าสีดำติดตราสามห่วง คิ้วชายล่างสีดำขลิบสีเดียวกับตัวรถและล้ออัลลอยลายพิเศษขนาด 18 นิ้ว
จากแพลต์ฟอร์ม TNGA-B platform ทำให้ตัวรถถูกวางหมากให้เป็นรถไซส์เล็กกว่า Yaris Cross CH-R และ Corolla Cross ตัวรถคล่องตัวด้วยความยาว 3,700 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,740 มิลลิเมตร ความสูง 1,525 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,430 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 940-1,015 กิโลกรัม
ภายในห้องโดยสารคงเดิมงานนี้ปรับเปลี่ยนตั้งแต่มาตรวัดดิจิทัลพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ใหม่ขนาด 7 นิ้ว ปรับดีไซน์สวิตช์แอร์ ปรับจอจอสัมผัสขนาดใหญ่ 7 กับ 9 นิ้ว ระบบ Toyota Smart Connect รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay เล่นได้ลื่นไหลขึ้นกว่าเดิม
ที่ชาร์จมือถือไร้สายออกแบบใหม่ให้วางแนวตั้งจากเดิมแนวนอนตัดที่วางแก้วน้ำในคอนโซลเกียร์ออกไปแทนที่ด้วย เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold จากเดิมเป็นเบรกมือคันโยก กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า ระบบฟอกอากาศ nanoeX ของ Panasonic และ พอร์ต USB-C คู่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านไฟส่องสว่างภายใน ลำโพงคุณภาพจาก JBL 4 จุด พร้อม amplifier 300 วัตต์ ซับวูปเฟอร์ขนาด 200 มิลลิเมตร
วัสดุหุ้มเบาะและชุดคอนโซลทำมาจากวัสดุพลาสติคกับผ้ารีไซลเคิล เบาะนั่งคนขับปรับสูงขึ้น 55 มิลลิเมตรเพื่อการขับขี่ที่ชัดเจนขึ้น เบาะนั่งหลังมีพื้นที่สัมภาระท้าย 231 ลิตร มาในโทนเข้ม ตกแต่งขลิบสี กระจกที่ประตูหลังไม่สามารถปรับขึ้น-ลงด้วยระบบไฟฟ้าได้
ไฮไลต์เด่นนั่นคือถอดขุมพลังเบนซินรหัส 1KR-B52 3 สูบขนาด 1.0 ลิตร 73 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 93 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า
มาเป็นขุมพลังใหม่ฟลูไฮบริด Dynamic Force Hybrid รหัส M15A-FXE ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 120 นิวตันเมตรที่ 3,600 ถึง 4,800 รอบต่อนาที
พัฒนากำลังให้แรงขึ้นกว่าเดิมจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า Toyota Hybrid System II (THS II) คู่หน้าแบบ 1NM 80 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร กับ คู่หลัง 1MM 5.3 แรงม้า แรงบิด 52 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ Lithium-ion 4.3 Ah ให้กำลัง 116 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
รุ่นฟูลไฮบริด ติดตั้งชุดแบตเตอรี่อยู่ที่ช่วงใต้เบาะนั่งของผู้โดยสารแถวหลังและย้ายจุดติดตั้งแบตเตอรี่ 12 V ด้านหน้าไว้ที่ตำแหน่งไว้ใต้ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังได้อย่างเรียบเนียน และยังปรับปรุงการเก็บเสียงภายในรถให้เงียบยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มแผ่นบุซับเสียงรอบห้องโดยสาร ปรับปรุงระบบท่อไอเสียใหม่ และยังติดตั้งกระจกหน้าอาคูสติกกลาสในรุ่นท็อป ลดเสียงลมวนอีก เพื่อสุนทรียภาพของผู้โดยสารภายในขณะขับขี่
สำหรับรุ่น GR Sport ปรับปรุงการควบคุมที่คมชัดขึ้นผ่านพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าที่ตอบสนองเร็วขึ้นและการปรับแต่งสปริงขดและโช้คอัพใหม่เพื่อการเกาะถนนที่ดีขึ้นพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ตั้งแต่
- ระบบป้องกันการชน Pre-Collision System (PCS) ตรวจจับยานพาหนะ การตรวจจับคนเดินถนนทั้งกลางวันและกลางคืน การตรวจจับผู้ปั่นจักรยานในเวลากลางวัน
- เตือนการชน Collision Mitigation Support
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Adaptive Cruise Control
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Trace Assist
- หักหลบพวงมาลัยอัตโนมัติ Emergency Steering Assist
Toyota ARGO X รุ่นปรับโฉมทั้งรุ่นปกติและรุ่น GR Sport เตรียมขายยุโรปปลายปี 2025 ผลิตที่โรงงาน Toyota Motor Manufacturing Czech Republic (TPCA) ที่เมือง Kolín สาธารณรัฐ Czech
ที่มา Toyota
