ทำตลาดทั่วโลกนานได้รับการตอบรับอย่างดีจากสาวกที่ชื่นชอบและอยากเป็นเจ้าของ Toyota bZ4X โดยล่าสุดเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ปรับครั้งแรกในรอบ 3 ปี
ไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ของ Toyota bZ4X ปรั้บด้านหน้าด้านหลังภายในขุมพลังไฟฟ้าที่พัฒนาใหม่ให้แรงขึ้นปรับแบตเตอรี่ใหม่เริ่มที่
ภายนอกหล่อด้วยไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกันแนวใหม่รูปตัว C กระจังหน้าแบบ Hammerhead กริตเตอร์ขอบใหญ่ทึบสีดำมีปีกซ้ายขวาดีไซน์เอกลักษณ์สีเดียวกับตัวรถพร้อมตราโลโก้สามห่วงกันชนหน้าดีไซน์ใหม่แปลกตากว่าเดิมพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ช่องระบายอากาศออกแบบใหม่ทรงหกเหลี่ยมในชุดกันชนหน้า คิ้วขอบล้อดีไซน์ทันสมัยเข้ากับตัวถังแบบสีดำเงา
ด้านข้างเดิมๆทั้งหลังคารถลาดลงพร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟคู่แบบตายตัว กระจกมองข้างสีดำ ที่เปิดประตูดึงก้าน ด้านท้ายดีไซน์เดิมทั้งไฟท้าย LED รูปตัว C พร้อมสปอยเลอร์หลังออกแบบ 2 จุดด้วยกันทั้งบนหลังคา ขอบไฟท้ายที่สวยและดูสปอร์ตมากค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ 0.279 เท่ถึงใจพร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 235/50R20 และขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/60R18
ตัวรถมาในร่างเอสยูวีจากพื้นฐาน พื้นฐาน e-TNGA ด้วยความยาว 4,690 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,860 มิลลิเมตร ความสูง 1,650 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 2,275 กิโลกรัม
ภายในใหม่ตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าดีไซน์เดียวกันกับ Toyota C-HR+ เรียบง่ายขึ้นช่องแอร์ออกแบบใหม่แนวนอนทั้งหมด มาตรวัดดิจิทัลพร้อมจอ MID 7 นิ้ว ในส่วนคอนโซลกลางตั้งแต่จอสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว แยกจากช่องแอร์ออกแบบให้มีช่องชาร์จมือถือไร้สาย 2 ช่อง ไปอยูข้างบนและย้ายสวิตช์ควบคุมการทำงานของหน้าจอมาอยู่ข้างล่างรวมถึงคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่และไฟสร้างบรรยากาศภายในใหม่ Ambient Light
พวงมาลัยสามก้านที่ดูหนากว่าปกติ ตำแหน่งของแผงหน้าปัดและตำแหน่งของมาตรวัดอยู่เหนือพวงมาลัย ช่วยเพิ่มการมองเห็นและมีความปลอดภัยมากขึ้น จอสัมผัสรองรับ Apple Car Play และ Android Auto เพลิดเพลินตลอดทางกับลำโพง JBL 9 จุด มีพอร์ต USB มากถึง 5 จุด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง
เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางและเบาะหลังพับได้แบบ 60:40 ปรับเอนได้หนึ่งระดับหุ้มวัสดุหนังสังเคราะห์ เบาะคู่หน้าที่มาพร้อมระบบ Ventilator สามารถสั่งการเปิดแอร์ผ่านรีโมทคอนโทรลได้ในระยะกว่า 30 เมตร นอกจากนี้ ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยส่วนประกอบวัสดุรีไซเคิลของคอนโซลภายใน โดยมาในโทนสีดำเข้ม
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนพัฒนาใหม่เร้าใจมากขึ้นเริ่มที่ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าที่มีด้วยกันถึง 2 ทางเลือกด้วยรุ่น Standard Range พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 57.7 kWh ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 8.6 วินาที วิ่งไกล 445 กิโลเมตร (WLTP) หรือ 524 กิโลเมตร (NEDC)
รุ่น Long Range ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 73.1 kWh ให้กำลังสูงสุด 224 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 7.1 วินาที วิ่งไกล 573 กิโลเมตร (WLTP) หรือ 674 กิโลเมตร (NEDC)
ปิดท้ายด้วยรุ่น AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ X-MODE ให้กำลังรวม 343 แรงม้า จากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 73.1 kWh อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 5.1 วินาที วิ่งไกล 520 กิโลเมตร (WLTP) หรือ 612 กิโลเมตร (NEDC)
ด้านการชาร์จถ้าชาร์จเร็วกระแสตรง DC ชาร์จเต็ม 80% ภายใน 30 นาที โดยกำลังไฟสูงสุด 150 kW และชาร์จแกระแสสลับ AC เพิ่มกำลังการชาร์จสูงสุด 22 kW มีระบบ Regenerative Braking Mode ที่จะช่วยนำพลังงานไฟฟ้ากลับมาทุกครั้งที่ยกคันเร่ง สำหรับแบตเตอรี่ผ่านการทดสอบหลายรูปแบบ ทั้งมีขบวนการกำจัดสิ่งแปลกปลอมตลอดกระบวนการผลิต
ที่สำคัญยังได้รับการปกป้องภายใต้โครงสร้างตัวรถที่ออกแบบมาอย่างแข็งแกร่ง พร้อมแผ่นรองรับกันกระแทกที่มีน็อตยึดเพิ่มความแข็งแรงมากถึง 56 จุด พร้อมฉนวนหุ้มระบบไฟฟ้าแรงดันสูงกันน้ำถึง 3 ชั้น และระบบล็อคที่ข้อต่อสายไฟ 2 ชั้น ป้องกันอย่างแน่นหนาไม่ให้น้ำรั่วซึมเข้าถึงระบบไฟฟ้าแรงดันสูงได้
ใหม่!!ระบบปรับสภาพแบตเตอรี่ช่วยการชาร์จแต่ละครั้งจะรักษาอุณหภูมิแบตเตอรี่ให้เหมาะสมที่สุดสำหรับการชาร์จ และได้รับการพัฒนาขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อชาร์จอย่างรวดเร็วในเวลาประมาณ 30 นาทีเมื่ออากาศเย็น สามารถเปิด-ปิดเองได้หรือเปิด-ปิดอัตโนมัติ
พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่ เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่เกาะถนน ดีเยี่ยม นอกจากนี้ในรุ่นท็อปขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถลากจูงเพิ่มเป็น 2 เท่าเป็น 1,500 กิโลกรัม
และความปลอดภัย Toyota Safety Sense มีประสิทธิภาพตรวจจับวัตถุแม่นยำขึ้น อาทิเช่น จักรยาน มอเตอร์ไซต์ และรถที่ตัดหน้า ให้การขับขี่ที่ปลอดภัย และช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน มีระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Intelligent Parking Assist ประกอบด้วยกล้อง 4 ตัว และเซ็นเซอร์ 12 จุด ช่วยการจอดเทียบ และเข้าช่องจอดได้ง่ายขึ้น โดย Toyota bZ4X ไมเนอร์เชนจ์เตรียมขายยุโรปช่วงครึ่งปีหลังของปี 2025
ที่มา Toyota