เปิดตัวรุ่นพิเศษมาแล้วสองรอบสำหรับ Toyota C-HR Mode-Nero Safety Plus เอสยูวีที่ตกแต่งจากเดิมเพื่อให้ชาวญี่ปุ่นได้ใช้รถที่แตกต่าง
ล่าสุดกลับมาอีกครั้งกับ Toyota C-HR Mode-Nero Safety Plus III เวอร์ชันสาม โดยนำรุ่น G และ GT มาตกแต่งด้วยสีพิเศษสีดำ Inazuma parking black glass flake พร้อมล้ออัลลอยสีดำด้านขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/50 R18 และนอตล้อชุบด้วยสีดำ พร้อมไฟหน้าและไฟหลังรมดำแบบ Bi-Beam LED ในโคมหน้า พร้อมไฟ DRL LED อยู่ข้างบนโคม และ Full LED ในโคมหลัง ในหน้าตาปรับโฉมตั้งแต่ปี 2019 กับกระจังหน้าดีไซน์เด่นรับกับกันชนหน้าสปอร์ตกว่าพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED อยู่ข้างบน และกันชนหลังดีไซน์ที่ต่างจากสเปกไทย
ภายในมาพร้อมเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีน้ำตาลเดินด้ายสีเบจ พร้อมกล้องรอบคัน 360 องศา panoramic view monitor และระบบเบรกช่วยจอด parking support brake เมื่อใกล้วัตถุทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมออปชันเดิมทั้ง พวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน , ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start ช่องปรับอากาศเย็นทั่วคันแบบ Dual-zone พร้อม กรองอากาศภายในห้องโดยสาร nanoe ช่วยขจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อโรค หน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB / Bluetooth พร้อม T-Connect เชื่อมการขับเคลื่อนแห่งอนาคต และลำโพง 6 จุดมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูล 4.2 นิ้ว เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 ขนของได้จุใจ
ขุมพลังมีทั้งเบนซิน Hybrid 1.8 ลิตร 2ZR-FXE 98 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร ได้แรงม้ารวมถึง 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า และเบนซินเทอร์โบ 1.2 ลิตร 8NR-FTS 116 แรงม้า ที่ 5,200-5,600 รอบ/นาที แรงบิด 185 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Dynamic torque control 4WD
และความปลอดภัย Toyota Safety Sense ทั้งระบบควบคุมและปรับลดระดับความเร็วได้ถึง 0 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้เมื่อไม่มีรถขวางหน้าพร้อมระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (All-speed Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist), ช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist) ความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-collision system) พร้อมตรวจจับคนเดินเท้าในเวลากลางคืน ตรวจจับนักปั่นจักรยานในเวลากลางวัน, ตรวจจับรถที่วิ่งตัดขวาในทางแยกและตรวจจับคนข้ามถนนทั้งซ้าย-ขวา ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams), ตรวจจับสัญลักษณ์จราจรและถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด
Toyota C-HR Mode-Nero Safety Plus III มากันสองรุ่นย่อย ในราคาเริ่มต้น 2,725,000-3,055,000 yen หรือราว 723,000- 811,000 บาท แต่ถ้าขายในไทยราคารวมภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ 2,079,000-2,332,000 บาท
ที่มา Carwatch