ออสเตรเลียเป็นรายล่าสุดที่แนะนำเจ้าหน้าบึ้งหรือ Toyota Corolla Cross ออกจำหน่ายหลังจากที่เปิดตัวในไทยมาสองปีจนกวาดยอดขายมหาศาล
สำหรับสเปกออสเตรเลียยังใช้หน้าตาหน้าบึ้งแบบเดียวกับไทยไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม ประกบกับไฟหน้า LED ที่งานนี้มาแบบ Full LEDพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL LED เท่กับกันชนหน้าทรงสปอร์ตติดตั้ง ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยว ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding พร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ราวหลังคาสีดำ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/50 R18 และ 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R17 ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick activated และพิเศษเหนือกว่าตรงที่หลังคารถมาแบบพาโนรามิกซันรูฟแบบเต็ม
ภายในนั้นคล้ายกันแต่อาจทำให้ชาวไทยคงอิจฉากันเป็นแถบเพราะสเปกออสเตรเลียมีออปชันที่เหนือกว่าทั้ง มาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว จอสัมผัสลอยตัวแบบ 10.5 และ 8 นิ้ว รองรับ Apple Car Play Bluetooth และ USB ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone และ Single Zone พร้อมช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ปุ่ม Push Start พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา เบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40 พนักวางแขนด้านหลัง เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมที่วางแก้วน้ำ กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุมากถึง 487 ลิตร แต่แบรกมือให้เป็นเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อม Auto Brake Hold ชาร์จมือถือไร้สาย และช่องเสียบ USB-C ด้านหลังสองจุด
สเปกออสเตรเลียลาทีกับขุมพลังเดิมๆ โบราณๆ ที่ไทยและบางประเทศยังจำหน่ายกับขุมพลังใหม่ Dynamic Force 2.0 ลิตรที่มีทั้งแบบ เบนซินล้วน รหัส M20A-FKS 171 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาทีแรงบิด 202 นิวตันเมตรที่ 4,400- 4,800 รอบ/นาที ฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาลว์ไอดี VVT-iE electric variable valve timing จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift 10 สปีด พร้อม paddle shift ขับเคลื่อนล้อหน้า นอกจากนี้ขุมพลัง Hybrid เจเนอเรชันที่5 ด้วยรหัส M20A-FXS 2.0 ลิตร 152 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาทีแรงบิด 190 นิวตันเมตรที่ 4,400- 5,200 รอบ/นาที พร้อมระบบฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาลว์ไอดี VVT-iE electric variable valve timing จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า กำลัง 65 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตรและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยทำงานร่วมกันให้พลังมากสุด 199 แรงม้า ขณะที่แบตเตอรี่มีแรงดันไฟ 216 โวลต์ 6.5 แอมป์ชั่วโมง เพิ่มเซลส์ไฟฟ้าขึ้นเป็น 180 เซลส์ และความจุแบต 6.5 Ah คาดว่าทางยุโรปจะได้ใช้ระบบ Hybrid เจน 5 จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVTเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four พิเศษตรงที่เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังมาด้วยให้กำลังมากถึง 41 แรงม้า
ระบบความปลอดภัยขั้นเทพ Toyota Safety Sense (TSS) ก็มาด้วย มีทั้งระบบเตือนผู้ขับขี่พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติก่อนจะเกิดการชน Pre-Collision System with Acceleration Suppression and Intersection Cut-In Traffic Assist ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Full Speed Range Adaptive Cruise Control, ควบคุมรถบนเส้นทางไร้เส้นแบ่งเลนถนน Lane Tracing Assist (LTA), จดจำป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA), ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitor ป้องกันการออกจากรถเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safety Exit Assist เตือนการถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert และกล้องรอบคัน 360 องศา
Toyota Corolla Cross มีทั้งหมด 8 รุ่นย่อย 3 เกรดความหรู ตั้งแต่รุ่น GX, GXL และรุ่นท็อป Atmos ในราคา $33,000- $49,050 ราคาดังกล่าวไม่รวมค่า on-road ของออสเตรเลีย หรือราว 826,000-1,226,000 บาท ราคาดังกล่าวไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย
ที่มา Drive