เรียกว่าสวนกระแสการเปิดจองหลังเพื่อนร่วมชาติปิดรับจองเพราะยอดล้นหลามโดย Toyota ประกาศเปิดรับจอง Toyota GR Corolla ตัวแรงไมเนอร์เชนจ์
ล่าสุด Toyota เปิดรับจอง Toyota GR Corolla รุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ตั้งแต่ 4 กุมภาพันธ์ก่อนเปิดขายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 3 มีนาคม
ภายนอกปรับใหม่เริ่มที่ชุดกันชนหน้าออกแบบช่องระบายอากาศดีไซน์ใหม่ให้กรอบด้านข้างซ้าย-ขวาช่องใหญ่ขึ้นเป็นแนวตั้งถึงสองช่อง ช่องระบายอากาศส่วนกลางบนและล่างออกแบบหลอมรวมกับกรอบด้านข้างให้เป็นหนึ่งเดียวพร้อมตราสามห่วงในชุดกระจังหน้าทรงปีก Unified Design ประกบกับไฟหน้า LED รูปตัว L สุดเข้มด้วยสีดำแปะตราโลโก้ GR หลังคารถแบบตกแต่งด้วยคาร์บอนสีดำ Carbon Fiber Reinforced Plastic (CFRP) และเสาอากาศครีบฉลาม
ด้านข้างมีซุ้มล้อทรงโต กระจกมองข้างทรงสปูนสีดำ ด้านท้ายเท่ด้วยไฟท้าย LED เติมเต็มความโดดเด่นให้สมบูรณ์ด้วยสปอยเลอร์หลัง กันชนหลังพร้อมลิ้นสปอยเลอร์สุดโหด และล้ออัลลอยสีเข้ม 15 ก้านขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง Michelin Pilot Sport 4 ขนาด 235/40R18 ตัวรถมาในร่าง 5 ประตูท้ายตัดขนาดเท่าเดิมจากพื้นฐาน TNGA-C เริ่มที่
- ความยาว 4,410 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,480 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,640 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,520 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร
ลุคใหม่กับภายในทรงสปอร์ตพร้อมออปชันมาตรฐานทั้งคอนโซลหน้าตกแต่งบุนุ่มด้วยหนังสัมผัส ตกแต่งด้วยตะเข็บ และสีเทาเมทัลลิก ตกแต่งโทนสีดำ-เทาเมทัลลิก มาตรวัดดิจิทัลแบบจอสี TFT ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อจอแสดงข้อมูลเหนือแผงคอนโซลหน้า Head-Up Display
ระบบจอสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว เชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto เชื่อมต่อด้วย Bluetooth พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB ด้านหน้า 2 จุด แบบ Type A และ Type C และด้านหลัง 1 จุดแบบ Type-C พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12V 1 จุดที่คอนโซลกลาง
ลำโพงคุณภาพมากสุด 6 ตัว ที่ชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charger ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ปรับอิสระแยกซ้าย-ขวา มีกรองอากาศภายในห้องโดยสาร เบรกมือคันโยก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านยกชุดจาก Toyota GR Yaris ปรับได้ 4 ทิศทาง ชุดแป้นคันแร่งและเบรกแบบอะลูมิเนียมสีเงิน
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง BRIN NAUB® และหนังสังเคราะห์ พร้อมสัญลักษณ์ GR บริเวณพนักพิงศีรษะ และเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารอัตโนมัติแบบ LED และ Smart Entry และ Push Start พร้อมสัญลักษณ์ GR
พิเศษมีรุ่น Sport Package ตกแต่งภายในเพิ่มเติมด้วยดเบาะนั่งสปอร์ตแบบ semi-bucket front seats พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน หัวเกียร์ ด้ามจับเบรกมือ ทั้งหมดหุ้มหนังกลับ Ultrasuede® และเข็มขัดนิรภัย 3 จุดตกแต่งสีแดงทั้งเส้น
ขุมพลังยกมาจาก Toyota GR Yaris เร้าใจทุกเส้นทางกับพลังเบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร รหัส G16E-GTS 3 สูบ 12 วาล์ว ระบบจ่ายน้ำมัน D-4ST ให้กำลังมากสุด 304 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 3,250-4,600 รอบต่อนาที
จับคู่กับใหม่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด GR-DAT หรือ GAZOO Racing Direct Automatic Transmission จาก ZF พร้อม Paddle Shift โดยพัฒนากล่องสมองกลเกียร์เวอร์ชันใหม่ประมวลผลจากการใช้คันเร่งและเบรกเพื่อให้สัมพันธ์กับการใช้เกียร์ที่เหมาะสมในแต่ละช่วงความเร็วโดยใช้ความเร็วและแรง G-Force ในการประมวลผลและยังมีเกียร์ธรรมดา 6 สปีด iMT (Intelligent Manual Transmission) ให้เลือก
พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ GR-Four AWD เลือกการขับขี่ได้ 3 รูปแบบคือ Normal (60/40) Sport (30/70) และ Track (50/50) ให้เหมาะสมกับสภาพถนนแยกแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง กับ Torsen® LSD (Limited Slip Differential) กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและหลังช่วยให้ตัวรถมีความสมดุลตลอดเวลาทั้งล้อหน้าและล้อหลัง
พิเศษสำหรับสเปกญี่ปุ่นกับแพ็คเกจ Circuit Mode สำหรับการขับขี่ในสนามสามารถดึงศักยภาพของรถออกมาได้เช่นการเพิ่มระบบควบคุมการหน่วงเวลาและการปรับความเร็วสูงสุด Top Speed ได้ตามต้องการ ณ สนามแข่งและสถานที่ปิดเฉพาะ โดยสั่งฟังก์ชันต่างๆได้จากทางแอป “Circuit Mode” ที่ต้องระบุตำแหน่งโดยใช้ GPS จะพร้อมใช้งานได้โดยการสลับไปยังจอแสดงผลมาตรวัดเฉพาะที่แสดงเวลาการเปลี่ยนเกียร์และความเร็วรอบเครื่องยนต์อย่างชาญฉลาด
ช่วงล่างหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงและคอยล์สปริงช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงก์พร้อมเหล็กกันโคลงแบบ GR พัฒนาใหม่โช๊คอัพใหม่ให้มีจังหวะยืดหยุ่นหรือ Rebound คืนตัวอย่างแม่นยำ ลดอาการลอยตัวของล้อฝั่งในโค้งแถมปรับจุดยึด Trailing Arm สูงขึ้นลดการยุบตัวของช่วงล่างด้านหลังขณะเหยียบคันเร่งเต็มสตรีมทรงตัวและยึดเกาะได้อย่างมั่นคงด้วยความเร็วสูง
พร้อมน็อตยึดช่วงล่างหน้าและชุดเกียร์ในชุดชิ้นส่วนของแชสซีสมีการใช้น็อตยึดหกเหลี่ยมที่ขนาดแข็งแรงขึ้นและในส่วนช่วงล่างหลังชุดน็อตยึดช่วงล่างมีการปรับขนาดน็อตยึดหกเหลี่ยมให้ใหญ่ขึ้นเป็น 24 มิลลิเมตร เพื่อเสถียรภาพในการควบคุมการขับขี่ความคมในการเข้าโค้ง การวิ่งในทางตรงและการสนองต่อการควบคุมพวงมาลัยให้ดีขึ้นและรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถในการขับขี่
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) จานดิสก์เบรกหน้า 4 Pot ขนาด 356 มิลลิเมตร และด้านหลัง 2 Pot ขนาด 297 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์สีแดงสปอร์ต และสัญลักษณ์ GR และความปลอดภัย Safety ด้วย Toyota Safety Sense
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ควบคุมความเร็วรถให้คงที่พร้อมตรวจจับรถที่อยู่ด้านหน้าด้วยเรดาร์และลดความเร็วอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่าง Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-speed
- ป้องกันการชนด้านหน้า Pre-Collision System (PCS)
- เตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ Lane Departure Alert (LDA) with Steering Assist
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Tracing Assist (LTA)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam (AHB)
- ช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ Parking Support Brake (PKSB)
- ช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Vehicle Sway Warning (VSW)
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง กล้องมองภาพขณะถอยหลัง สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า 4 จุดและด้านหลัง 4 จุด สัญญาณไฟกระพริบเมื่อเบรกกะทันหัน Emergency Stop Signal (ESS) ป้องกันล้อล็อก Anti-lock Brake System (ABS) เสริมแรงเบรก BA กระจายแรงเบรก EBD ควบคุมการทรงตัว VSC
ป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด (คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง / หัวเข่าฝั่งคนขับ) จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX) เตือนการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System) กุญแจนิรภัย Immobilizer ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน ไฟเบรกดวงที่สาม LED เข็มขัดนิรภัย 3 จุด แบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ พร้อมเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย
Toyota GR Corolla รุ่นปรับโฉมมีสีภายนอก 5 สี สีขาว Super White II สีเทา Precious Metal สีดำ Precious Black Pearl สีแดง Emotional Red II และสีขาวมุก Platinum White Pearl ขายรุ่น RZ ในราคาเริ่มต้น 5,680,000-5,980,000 YEN หรือราว 1,245,000-1,309,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้านำเข้ามาขายราคารวมภาษีจะอยู่ที่ 2,335,000-2,455,000 บาท
ที่มา CARWATCH