ขายออสเตรเลียมา 3 ปีจนได้รับการตอบรับอย่างดีสำหรับ Toyota Land Cruiser 300 ฟูลไซซ์เอสยูวีรุ่นใหญ่ เจเนอเรชันที่ 9
ล่าสุดแนะนำรุ่นปี 2025 สำหรับ Toyota Land Cruiser 300 ปรับออปชันด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยีสมัยใหม่ตามหลังตลาดญี่ปุ่น
หน้าตาคงเดิมตั้งแต่ชุดกระจังหน้าพร้อมโลโก้สามห่วงขนาดใหญ่ขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED 3 ดวง พร้อมไฟ LED DRL ขนาดใหญ่รูปตัว L นอนอยู่ในโคมเดียวกัน รับกับชุดกันชนหน้าที่ดุดันถึงใจคอลุยขนานแท้พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED
ด้านข้างตัวรถใหญ่โตด้วยเส้นสายการออกแบบดุดันแฝงด้วยความหรูตั้งแต่ ราวหลังคาพร้อมหลังคาซันรูฟและเสาอากาศครีบแลาม กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูดึงก้าน กรอบกระจกตกแต่งตามความแตกต่างของแต่ละรุ่นรวมถึงเสา D ขนาดใหญ่
ด้านท้ายทะมัดทะแมงด้วยไฟท้าย LED และฝาท้ายที่ยังเปิดได้ 2 ส่วน พร้อมไฟเลี้ยววิ่งด้านหน้าและหลัง Sequential Turn Signal ตั้งแต่รุ่น Sahara ล้อมีให้เลือกทั้งแบบกระทะล้อขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 245/75 R17 ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง Dunlop Grand Trek AT30 ขนาด 265/65R18 และยางขนาด 265/55R20 Dunlop Grand Trek AT30 พร้อมล้ออัลลอยลายหรู 20 นิ้ว
พร้อมการตกแต่งในแต่ละรุ่นด้วยชุดแต่งโครเมียมทั้งในรุ่น Sahara ZX ตั้งแต่กระจังหน้าพร้อมตราสามห่วง กรอบกระจก กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตู ล้ออัลลอยลายหรู 20 นิ้ว รุ่น GR Sport เด่นด้วยล้ออัลลอยสีเทาด้าน 18 นิ้ว ขอบล้อภายนอกสีดำสนิท ออกแบบส่วนหน้าสุดเข้มพร้อมโลโก้ตัวอักษร Toyota ตัวรถสร้างขึ้นจากพื้นฐาน TNGA-F body-on-frame มีความแกร่งขึ้นพร้อมตัวรถที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่
- ความยาว 4,980-5,015 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,980-2,000 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,950 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 235 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 2 ถังรวม 110 ลิตร (ถังหลัก 80 ลิตรและถังสำรอง 30 ลิตร)
ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยการเพิ่มลดออปชันในแต่ละรุ่นเริ่มที่ GX กับ GXL ได้มาตรวัดความเร็วเรืองแสงดิจิทัลพร้อมจอแสดงข้อมูล MID ขนาดใหม่ 7 นิ้วแทนขนาดเดิม 4.2 นิ้วส่วนรุ่นอื่นๆตั้งแต่ VX, Sahara, Sahara ZX และ GR Sport ได้มาตรวัดความเร็วเรืองแสงแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบพร้อมจอแสดงข้อมูล MID ขนาดใหม่ 12.3 นิ้วแทนขนาดเดิม 7 นิ้ว
ด้านจอสัมผัสระบบความบันเทิงในรุ่น GX กับ GXL ลดขนาดจอเหลือ 8 นิ้วจากเดิม 9 นิ้ว ส่วนรุ่น VX ขึ้นไปได้จอขนาดเดิม 12.3 นิ้วตัดช่องใส่ DVD/CD Player มาเป็นนำพอร์ต HMDI กับ MicroSD แทนทั้ง 2 จอรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย รวมถึงระบบนำทางในจอและอัปเดตซอฟต์แวร์แบบไร้สาย
ลำโพงตั้งแต่ 6 จุด ตั้งแต่รุ่น GX กับ GXL 10 จุดในรุ่น VX และลำโพงพรีเมียม 14 จุดจาก JBL ในรุ่น Sahara, Sahara ZX และ GR Sport ที่ชาร์จมือถือไร้สายตั้งแต่รุ่น GXL แต่ละรุ่นได้ออปชันใหม่ในแต่ละรุ่นเริ่มที่
- รุ่น GX ได้พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านปรับระดับได้ 4 ทิศทางปรับด้วยระบบไฟฟ้าเดิมมีให้ในรุ่น GXL เป็นต้นไป ไฟภายในแบบ LED ในส่วนแถวที่ 1 ฝั่งคนขับคนนั่งและแนวเส้นในจอของระบบกล้องมองหลัง
- รุ่น GXL ได้เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกลับผสมผ้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางด้านคนขับพร้อม lumbar support ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิแบบ 4 โซน กล่องเก็บความเย็นคอนโซลกลาง และเบาะแถวที่ 2 แบบพับแยก 40/20/40 พร้อมที่วางแขนตรงกลาง
- รุ่น VX ได้เบาะคนนั่งมาแบบปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางและประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- รุ่น GR Sport เพิ่มไฟส่องพื้นท้ายรถ
รุ่น GR Sport, Sahara และ Sahara ZX ออปชันเดิมทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านปรับระดับได้ 4 ทิศทางปรับด้วยระบบไฟฟ้า เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังปรับไฟฟ้าคู่หน้า 8 ทิศทางด้านคนขับพร้อม lumbar support ความจำตำแหน่งเบาะคนขับ 3 ตำแหน่ง พร้อมอุ่นเบาะคู่หน้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิแบบ 4 โซน กล่องเก็บความเย็นคอนโซลกลาง และเบาะแถวที่ 2 แบบพับแยก 40/20/40 พร้อมที่วางแขนตรงกลาง ไฟภายในแบบ LED ทุกจุด
ให้ความหรูความสบายแบบ 3 ตอน 7 ที่นั่งในรุ่น GXL, VX และ Sahara กับ 2 ตอน 5 ที่นั่งในรุ่น GX, Sahara ZX และ GR Sport สามารถปรับและพับได้ตามความต้องการขนของได้อย่างจุใจโดยเบาะตอนที่สองพับได้แบบ 40:60 และตอนที่สามพับได้แบบ 50:50 ที่เสียบชาร์จ USB-C และ USB-A
ที่วางแก้ว 6 จุด ในรุ่น GX กับ GXL และ 8 จุด ตั้งแต่รุ่น VX เป็นต้นไป หัวเกียร์ดีไซน์กะทัดรัดจับกระชับพร้อมเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold และจอ Head Up Display ในรุ่น Sahara, Sahara ZX และ GR Sport พรมปูพื้นทั้งแผงพื้นตั้งแตรุ่น GXL เป็นต้นไปและไวนิลปูพื้นตอนแรกกับตอนที่ 2 ในรุ่น GX
ด้านแอปพลิเคชัน my Toyota Connect บนสมาร์ทโฟนเพิ่มฟังก์ชันสั่งการทำงานของเครื่องปรับอากาศแบบระยะไกลจากตัวรถ เพิ่มข้อมูลรถยนต์และการเดินทางและเพิ่มการแจ้งเตือน
ออสเตรเลียใช้ขุมพลังเดียวนั่นคือเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 3.3 ลิตร V6 รหัส F33A-FTV 309 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 700 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาทีพร้อมตัวกรองอนุภาคดีเซล Diesel Particulate Filter (DPF) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด Direct Shift-10AT
พร้อมโหมดการขับขี่ทางเรียบ 3 โหมดทุกรุ่นทั้ง Eco, Comfort, Normal ส่วนรุ่น Sahara ZX กับ GR Sport เพิ่มมาอีก 2 โหมดได้แก่ Sport S และ Sport S+ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time ที่มีระบบ Multi-Terrain Select (ยกเว้นรุ่น GX) โดยระบบจะตรวจพื้นถนนโดยมีโหมดลุยประกอบด้วย Auto, Dirt, Sand, Mud, Deep Snow และ Rock และ Crawl Control
ทุกรุ่นได้โหมด Crawl Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนเส้นทางโหด ลากจูงรถพ่วงท้ายหรือเทรลเลอร์ที่มีระบบเบรกได้ถึง 3,500 กิโลกรัม ในรุ่น GR Sport ได้ช่วงล่าง Electronic Kinetic Dynamic Suspension System หรือ E-KDSS บนพื้นฐานของช่วงล่างหน้าและหลังเพิ่อการลุยการเกาะถนนที่ดีขึ้น พร้อมระบบควบคุมเฟืองท้ายหน้าและหลัง Differential Lock
ด้านรุ่น Sahara ZX กับ GR Sport ได้ระบบ Adaptive Variable Suspension (AVS) ช่วยในการดูดซับแรงกระแทกระหว่างการขับขี่ มอบการขับขี่ที่ไหลลื่นและนุ่มนวล และระบบควบคุมเฟืองหลัง Differential Lock ในรุ่น Sahara ZX
พวงมาลัยพาวเวอร์ลดการกระตุกเมื่อขับบนถนนขรุขระบังคับเลี้ยวแบบคมขึ้นเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีขึ้นรวมถึงการลุยทุกรูปแบบตั้งแต่มุมไต่หรือมุมเงย Approach Angle 32 องศา มุมจาก Departure Angle 24 องศา และมุมคร่อม break-over angle 23 องศา ลุยน้ำได้ 700 มิลลเมตร
พร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ปรับปรุงใหม่ประกอบด้วยกล้องมองหน้าความละเอียดสูงขึ้น และเซนเซอร์เรดาร์ และให้ทุกรุ่นทั้ง
- เตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติแบบตรวจจับคนข้ามถนนได้ Pre-Collision System (PCS) with Pedestrian Detection and daytime cyclist detection ใหม่!!เพิ่มฟังก์ชันช่วยตรวจจับรถยนต์ นักปั่นจักรยาน คนเดินถนน และผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์
- ควบคุมระยะห่างและความเร็วแปรผันตามทุกช่วงความเร็วด้วยเรดาร์ DRCC (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-speed
- ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Centering พัฒนาใหม่ (ออปชันใหม่ในรุ่น GX กับ GXL)
- หักหลบพวงมาลัยอัตโนมัติกันคนเดินทางเท้าเดินข้ามถนนแบบทะเล่อทะล่า Emergency Steering Assist (ESA) (ออปชันใหม่ในรุ่น GX กับ GXL)
- ช่วยหยุดรถฉุกเฉินอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง Emergency Driving Stop System (EDSS)
- ไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะและช่วยบังคับเลี้ยวฉุกเฉิน Auto High Beam (AHB)
- ตรวจจับรถออกนอกเลน Lane Departure System (LDS)
- ช่วยอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA)
- ช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA)
- เตือนมุมอับสายตา Blind Spot Monitor (BSD)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
ออปชันความปลอดภัยพื้นฐานทั้งกล้องมองภาพรอบทิศทางพร้อมมุมมอง (Panoramic view monitor) และกล้องมองหลัง สัญญาณกะระยะการจอดรถหน้าและหลังอย่างละ 4 จุด ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน Hill-Start Assist Control ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Downhill Assist Control
ป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control System) ควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Brake System) กระจายแรงเบรก EBD เสริมแรงเบรก BA พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ
สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน Emergency Brake Signal สัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS กุญแจนิรภัย Immobilizer ถุงลมเสริมความปลอดภัยรอบคัน SRS 10 จุด แจ้งเตือนลมยาง TPMS และกระจกมองข้างด้านซ้ายปรับมุมมองขณะถอยหลัง Reverse Link
ตั้งแต่รุ่น VX เป็นต่นไปได้ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ Vehicle Dynamics Integrated Management (VDIM) ที่ได้รวมระบบต่างๆในการขับขี่ เบรก และทรงตัวเข้าไว้ด้วยกันหลายระบบเช่น ABS, TRC, VSC และระบบพวงมาลัย
Toyota Land Cruiser 300 MY2025 มีทั้งหมด 6 เกรดความหรูตั้งแต่รุ่น GX, GXL, VX, SAHARA, GR Sport และรุ่นท็อป SAHARA ZX ในราคาจำหน่ายเริ่มต้น $96,991-$145,791 หรือราว 2,119,000-3,175,000 บาท โดยรถมาถึงออสเตรเลียไตรมาสที่ 2 ของปี 2025
ที่มา Carexpert