More

    รีวิว! Toyota Veloz เจนใหม่เอ็มพีวีเล็กออพชั่นเพียบเซฟตี้ล้นคัน

    Toyota Avanza ได้เข้ามาทำตลาดในฐานะเอ็มพีวีเล็กตอบโจทย์พ่อบ้านที่อยากได้รถเล็กคล่องตัวแถมสบายในแบบ 7 ที่นั่งในราคาที่ย่อมเยาจับต้องได้

    Toyota

    และยังเป็นผู้นำในกลุ่มฯที่ได้รับการตอบรับอย่างดีมาเกือบ 20 ปีและความนิยมนี่เองกลายเป็นต้นแบบให้เจนเนอเรชั่นหลังๆได้เจริญรอยตามเป็นเอ็มพีวีเจเนอเรชั่นที่ 3 เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่รวมถึงเปลี่ยนชื่อใหม่ฉีกตัวตนเดิมๆของ Toyota Avanza ออกไปในชื่อ Toyota Veloz เปิดตัวที่อินโดนีเซียไปตั้งแต่ปีกลายและข้ามน้ำข้ามทะเลมายังแผ่นดินสยามโดยเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยรุ่นที่ทางเรานำมาทดสอบขับครั้งนี้เป็นรุ่นท็อปสุด Premium

    Design & Exterior

    Toyota

    การเปลี่ยนแปลงหน้ามือเป็นหลังมือจาก Toyota Avanza เป็น Toyota Veloz เปลี่ยนไม่เหลือความเป็นรถครอบครัวเดิมๆอีกต่อไปหล่อใหม่ถอดด้ามด้วยกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูสีดำเงาขอบบนโครเมี่ยมพร้อมโลโก้สามห่วงคล้ายกับเอสยูวีรุ่นพี่ Toyota Corolla Cross ขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED พร้อมด้วย LED Light Guiding มาพร้อมระบบ Follow Me Home และ Leaving Home Lamp ไฟเลี้ยวแบบวิ่งหรือ Sequential รับกับชุดกันชนหน้าขนาดใหญ่ข้างล่างมาพร้อมคิ้วเสริมกันชนหน้าสีเงิน ตกแต่งเสริมไฟตัดหมอกสีดำโดยตัวไฟเป็นแบบทรงกลมและขอบโครเมี่ยม

    Toyota

    ด้านข้างแปะเส้นโครเมี่ยมลากยาวมาตั้งแต่ด้านหน้าครอบกระจกประตูหน้าหลังจนมาถึงเสา C และ D ดุจรถยนต์หรูยุโรป และมีกระจกหูช้างเล็กๆตรงเสา A กระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยวทรงสปูนพร้อมไฟส่องสว่างบริเวณพื้น ที่เปิดประตูสีเดียวกับตัวรถและปุ่มเส้นๆสำหรับล็อกปลดล็อกประตูด้วยกุญแจรีโมท ติดตั้งคิ้วกันกระแทกชายล่างประตูสีเข้มบ่งบอกถึงความลงตัวคู่กับคิ้วขอบล้อขึ้นรูปในชุดบังโคลนหน้าแต่ว่าล้อหลังนั้นติดตั้งคิ้วขอบล้อเสริมเข้ามาช่วยให้ดูกลมกลืนกับด้านหน้าโดยมาเป็นล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 205/70 R17 จากค่าย Bridgestone รุ่น Turanza T005 A สเกิร์ตข้างสีดำติดตั้งมาเสริมให้รถดูดีขึ้น

    บนหลังคามีเสาอากาศครีบฉลามติดมามีราวหลังคามาให้ไว้โชว์เท่แต่สายแขวนคงเสียใจกันมิใช่น้อย เพราะมันคงจะแขวนอะไรมิได้ ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED Light Guiding โดยสังเกตว่าไฟเลี้ยวออกแบบให้เล็กลงแต่ก็ยังดีที่อยู่ในตำแหน่งที่สายตามองเห็นได้ชัดเจนโดยชุดไฟท้ายออกแบบยาวพาดฝาท้ายเต็มๆตรงกลางติดตราสามห่วงพร้อมโลโก้ Veloz มากับกันชนท้ายสีเดียวกับตัวรถเสริมคิ้วชายล่างกันชนแบบสีเงินมาให้กลมกลืนดูดี ฝังสัญญาณกะระยะการจอดมาให้แต่ไม่มีด้านหน้ามาให้ แต่ชดเชยกับกล้องมองภาพรอบคันสี่จุดมาถือว่าได้อย่างเสียอย่าง

    Toyota ยังเหนียวแน่นกับพันธมิตรในเครืออย่าง Daihatsu พัฒนารถรุ่นนี้ภายใต้แพลตฟอร์มใหม่หมด Daihatsu New Global Architecture หรือ DNGA-B ทำให้ตัวรถมีขนาดที่ใหญ่โตทุกมิติเมื่อเทียบกับ Avanza เจนที่แล้ว ตั้งแต่ความยาว 4,475 มม. ความกว้าง 1,750 มม. ความสูง 1,700 มม. ฐานล้อ 2,750 มม.  ความสูงจากใต้ท้องรถ 205 มม. น้ำหนักรถ 1,185 กก. และความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร

    Interior & Convenience

    Toyota

    ภายในเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมกับเบาะนั่ง 7 ที่นั่ง โดยคนขับปรับระดับสูงต่ำได้แบบใช้ก้านยกซึ่งทันสมัยกว่าคู่แข่งรายสำคัญที่ยังใช้ปุ่มกลมๆ แต่โดยโครงสร้างของตัวเบาะแล้วกลับให้ความสบายกว่าคู่แข่งด้วยซ้ำไม่เมื่อยไม่ปวดหลังแน่นอนกับแผ่นหลังที่ออกแบบไม่หนาพอดีๆทางด้านเบาะตอนสองออกแบบนั่งสบายใหญ่โตและยังสามารถพับแบบ 60:40 โดยมีที่พักแขนเพียวๆไร้ที่วางแก้วมาให้และปรับเลื่อนได้ โดยถ้าจะขึ้นไปนั่งเบาะตอนสามนั้นต้องไปฝั่งเดียวกับคนนั่งโดยฝั่ง 40 นั้นพับแบบม้วนดียวจบ เบาะนั่งตอนสามพับได้แบบ 50:50 โดยมีพื้นที่นั่งอยู่บ้างนิดนึงแต่ก็อย่างว่าแหละครับว่าเบาะตอนสามเหมาะสำหรับเด็กเล็กๆจริงๆ โดยมีพื้นที่วางของหลังพับเบาะตอนสองกับสามมากขึ้นและมีกล่องเก็บของด้านท้ายหลังเบาะตอนสามมาให้ ส่วนวัสดุหุ้มเบาะ 7 ที่นั่ง เป็นแบบหุ้มหนังสังเคราะห์กึ่งผ้าสีดำเทาเดินด้ายสีเทาแต่ตอนสามหุ้มด้วยผ้าสีดำเทาทั้งชิ้น ความจริงน่าจะหุ้มแบบเดียวกับสองตอนหน้าก็ยังดีและยังมีช่องใส่ของกระจุกกระจิกหลังเบาะคนขับกับคนนั่ง

    Toyota

    คอนโซลหน้าออกแบบใหม่หมดตกแต่งโทนสีดำเทาพร้อมมาตรวัดดิจิตอลแบบเรืองแสง โดยแบ่งสองส่วนโดยฝั่งขวามือเป็นมาตรวัดความเร็วแบบตัวเลขส่วนฝั่งซ้ายมือบอกทั้งรอบเครื่องยนต์และจอ MID 7 นิ้ว ที่สามรถปรับลูกเล่นได้ถึง 4 แบบ มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามก้านปรับสูงต่ำใกล้ไกลได้ถึง 4 ระดับ เสียดายที่ว่าน่าจะมี Cruise Control มาให้ก็ดี บนคอนโซลหน้าติดตั้งจอสัมผัสลอยตัวขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อได้หลายอย่างทั้ง Apple Car Play และ Android Auto ลำโพงติดตั้งมา 6 จุด ถัดลงมาเป็นช่องแอร์ขอบสีเงินลงมาอีกคือ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติให้ความเย็นทั่วคันแต่เสียดายไม่มีปุ่ม Max Cool และไลฝ้ากระจกหน้าให้มาพร้อมช่องแอร์บนหลังคาออกแบบเรียบเนียนทันสมัยกลมกลืนกับหลังคารถที่ไม่ยื่นเหมือนคู่แข่ง ถัดลงมาเป็นปุ่ม Push Start และไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยแต่ครอบทับฝาปิดทึบสีดำเงาขอบสีเงินสองฝั่งไว้ ตามความจริงควรวางตำแหน่งปุ่ม Push Start ใหม่ ให้ห่างไกลมือเด็กและออกแบบช่องใต้สวิตช์ควบคุมแอร์ให้เป็นที่ชาร์จมือถือกับช่องเสียบ USB (ช่องเสียบ USB ไปอยู่ข้างชุดคอนโซลเกียร์ฝั่งคนนั่งต้องเอี้ยวตัวไปเสียบ ด้านชุดคอนโซลเกียร์ออกแบบเป็นชุดเดียวกันสวยงามหัวเกียร์กะทัดรัดหุ้มด้วยวัสดุหนังแถบสีเงินพร้อมถุงเกียร์สีดำ ทันสมัยด้วยเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold แต่จะไม่มีที่วางแก้วเพราะตำแหน่งถูกยึดพื้นที่โดยที่ชาร์จมือถือไร้สายแค่วางและก็ปล่อยให้ระบบจัดการชาร์จเต็มรูปแบบ และกล่องคอนโซลกลางใส่ของได้เล็กน้อยข้างหลังกล่องคอนโซลมีช่องเสียบ USB ที่วางแก้วด้านหลัง ข่องแอร์บนหลังคาทำงานแยกส่วนกับด้านหน้าที่ดีไซน์เรียบเนียนไม่ยืนออกมาเหมือนคู่แข่ง และจุดหนึ่งที่ชื่นชอบนั่นคือไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารหรือ Ambient Light ให้มาสองจุดในชุดคอนโซลหน้าและแผงประตูเรียกว่าหรูแบบเดียวกับรถยุโรปราคาแพงนั่นเอง และช่องจ่ายกระแส ไฟ DC 12 โวลต์ แถวตอนสาม ส่วนที่บังแดดเกิดความลำเอียงตรงที่ฝั่งคนขับไม่มีกระจกแต่งหน้าพร้อมไฟส่องแต่กลับไปให้ในฝั่งคนนั่งแทนซึ่งจริงๆควรต้องมีทั้งสองฝั่งผิดกลับคู่แข่งที่มีกระจกแต่งหน้าสองฝั่ง(ถึงไม่มีไฟส่องให้สองฝั่งก็ตาม)

    Engine & Transmission

    Toyota

    ขุมพลังยกมาจาก Toyota Avanza เจนที่แล้วกับเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-i 2NR-VE 1.5 ลิตร พัฒนาใหม่เพิ่มกำลังมากขึ้นเป็น 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 138 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบ/นาที ความกว้างกระบอกสูบ X ช่วงชัก 72.5 X 90.6 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 11.5:1  ค่า CO2 132 กรัม/กม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Sequential Shift พร้อมโหมดการขับขี่ทัั้ง ECO, Normal และ Power ขับเคลื่อนล้อหน้า (เดิม 102 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 134 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง)

    Handling & Ride

    Toyota

     

    Toyota

    การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Toyota Veloz ที่เปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อนล้อหลังมีแชสซีส์ขั้นบันไดหลอมรวมมาเป็นรถยนต์ยุคใหม่ขับเคลื่อนล้อหน้าตัวถังแบบโมโนค็อกด้วยกำลัง 1.5 ลิตรที่เพิ่มม้าไป 4 ตัวและเพิ่มแรงบิดไปอีก 4 นิวตันเมตร นำพาร่างหนักตันต้นๆขับโฉบขับฉิวได้สบายๆไร้กังวลไม่รอรอบ อารมณ์เดียวกันกับคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Mitsubishi Xpander รุ่นปรับโฉมใหญ่สำหรับรอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ความเร็ว 90-120 กม./ชม. จับรอบเครื่องได้ตั้งแต่ 1,450 1,750 1,950 และ 2,100 รอบ/นาทีโดยประมาณซึ่งใกล้เคียงกับคู่แข่งเป็นอย่างมาก ด้านอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ประมาณ 12-13 วินาทีซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับคู่แข่งด้านอัตราสิ้นเปลืองเริ่มที่ในเมืองทำได้ 9.19 กม./ลิตร และสูตรเฉพาะ Save Mode ทำได้  15.46 กม./ลิตร จากระยะทางรวม 62 กม.จัดน้ำมันเบนซินแก็สโซฮอล์ 95 เต็มถังจากปั๊มแห่งหนึ่ง ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ 4.01 ลิตร ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ตามสภาพการใช้งานจริงทาง

    ด้านระบบเกียร์ที่เป็น CVT ได้เปรียบกว่าคู่แข่งตรงที่มี Sequential Shift บวก/ลบ เข้ามาช่วยเพิ่มพลังในการเร่งแซงมากขึ้นในรอบต่ำความต่อเนื่องของแต่ละช่วงเกียร์นั้นไม่สะดุด รวมถึงโหมดการขับขี่สามโหมดทั้ง ECO, Normal และ Power เข้ามาเติมอรรถรสในการขับขี่ให้กลมกล่อมการเก็บเสียงความเงียบทำผลงานได้น่าพอใจ ถึงการบุวัสดุซับเสียงอาจไม่ดีเท่าคู่แข่งยิ่งช่วงความเร็วกกลางและสูงแทบอาจเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาบ้างแต่ก็ถือว่ายังพอฟังเพลงพูดคุยสนทนาได้พอสมควร

    Toyota

    Toyota

    ช่วงล่างเหมือนกันกับคู่แข่งทั้ง Mitsubishi Xpander และ Suzuki XL7 ด้านหน้ามาในแบบแมคเฟอร์สันสตรัทอิสระพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ที่เซ็ตมาออกไปทางนุ่มนวลแต่กระด้าง ซึ่งถ้าพ่อบ้านสายนุ่มคันนี้ถือว่าตอบโจทย์ถึงอาจจะสู้คู่แข่งเพื่อนร่วมชาติสองค่ายไม่ได้ ระบบพวงมาลัยเป็นแบบพาวเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.9 เมตร น้ำหนักดี ควบคุมง่ายวงเลี้ยววงแคบมั่นใจในช่วงเลี้ยวกลับยูเทิร์น ระบบห้ามล้อที่เหนือกว่าชาวบ้านที่เป็นดิสก์เบรกสีล้อ แต่ประสิทธฺภาพในการเบรกนั้นถือเป็นเรื่องปกติของรถที่มีดิสก์สี่ล้อที่การหยุดอาจไม่จึกทันใจแถมต้องกะระยะการเบรกให้พอดี

    Safety & Feature

    Toyota

    ความปลอดภัยของรถคันนี้จัดเต็มตั้งแต่ความปลอดภัยพื้นฐานยันความปลอดภัยสุดไฮเทคตามสมัยนิยมและเป็นเจ้าเดียวที่ให้มาจัดหนักเทหน้าตักกันเลยทีเดียวเริ่มที่ ความปลอดภัยพื้นฐานที่มีทั้ง ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ออกตัวบนทางลาดชัน HAC สัญญาณไฟฉุกฉินขณะเบรกกะทันหัน Emergency Brake Signal บรก ABS กระจายแรงแบรก EBD เสริมแรงเบรก BA กล้องมองภาพรอบคัน สัญญาณกะระยะการจอดด้านหลัง ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Monitoring, ช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear Crossing Traffic Alert

    Best in Class กับความปลอดภัยไฮเทค Toyota Safety Sense ที่รถระดับเดียวกันไม่มีแต่รุ่นนี้มีให้ทั้ง ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-Collision System, ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam, เตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ Lane Departure Alert, เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว Front Departure Alert และป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี Pedal Misoperation Control

    Verdict

    Toyota

    การมาของเอ็มพีวีเล็กเจนใหม่ค่ายสามห่วงครั้งนี้วางเดิมพันหวังที่จะกลับมาเป็นที่หนึ่ง โดยเอาเทคโนโลยี วิศวกกรรม การดีไซน์ เข้าข่มคู่แข่งด้วยความสบาย 7 ที่นั่ง หรูด้วยไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light มาตรวัดที่เปลี่ยนลูกเล่นสีสัน ถ้าไม่สนใจว่าที่บังแดดให้มาแค่ฝั่งคนนั่งด้านเดียว(ด้วยกระจกพร้อมไฟแต่ง)กับวัสดุหุ้มเบาะที่หุ้มไม่เต็มร้อย (หุ้มหนังที่สองตอนหน้าและหุ้มผ้ากำมะหยี่ที่ตอนสาม) รวมถึงขุมพลังที่พอเพียงแต่เร้าใจด้วยเกียร์ CVT ความปลอดภัยเต็มคันให้แบบเกินหน้าคู่แข่ง ช่วงล่างเน้นนุ่มกระด้าง ก็ถือว่าพอเพียงแล้วสำหรับ Toyota Veloz รุ่นท็อป Premium ในราคา 875,000 บาท

    Toyota

    ขอขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้ความอนุเคราะห์รถยนต์ Toyota Veloz รุ่นท็อป Premium มารีวิวทดสอบครั้งนี้

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts