Max Verstappen นักแข่งสังกัด Red Bull เก็บแต้มได้เต็มพิกัดในการแข่งขันรายการ Emilia Romagna Grand Prix ในขณะที่เจ้าบ้านอย่าง Ferrari พลาดหมุนเสียอันดับ 1 คัน และไม่จบการแข่งขันอีก 1 คัน
การแข่งขันนั้นเริ่มต้นจากพื้นสนามที่เปียกแฉะ ซึ่งก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับ Verstappen แต่อย่างใด เขานำสบายๆ ตลอด 63 รอบการแข่งขัน โดยที่มี Sergio Perez เพื่อนร่วมสังกัดตามเข้าเส้นมาเป็นอันดับ 2 ในขณะที่ Charles Leclerc ซึ่งกำลังไล่เอาอันดับจาก Perez พลาดหมุนที่ชิเคน ส่งผลให้ Lando Norris จาก McLaren ขึ้นมารับโพเดียมแทน
รถแข่งทั้ง 20 คันนั้นเริ่มต้นการแข่งขันด้วยยางกึ่งเปียกกึ่งแห้ง ในรอบการแข่งขันนี้ Verstappen นั้นสตาร์ทได้ดีกว่ารอบการแข่งขันสปรินท์มาก เขาขึ้นมานำก่อนในโค้ง Tamburello ตามมาด้วยเพื่อนร่วมทีมอย่าง Perez และ Norris เบียด Leclerc ขึ้นมาได้อันดับ 3
กลุ่มกลางเกิดการชนกันระหว่างเจ้าถิ่น รถ Ferrari อีกคันของ Carlos Sainz ถูกสะกิดท้ายจาก Daniel Ricciardo จาก McLaren ทำให้รถแข่งสีแดงเพลิงหมุนลงไปจมบ่อกรวด
Beached in the rain 😖
Carlos Sainz's race ended before it got started ❌#ImolaGP #F1 pic.twitter.com/mESDZ5yOYm
— Formula 1 (@F1) April 24, 2022
Fernando Alonso เองก็มีการสะกิดกับ Mick Schumacher รถแข่ง Haas นั้นหมุนไปสะกิดไซด์พอดรถ Alpine ทำให้เมื่อแข่งขันไปสักพัก บอดี้ส่วนไซด์พอดก็หลุดปลิวออกมา ส่งผลให้ Alonso ต้องรีไทร์จากการแข่งขัน
ในรอบที่ 8 Leclerc แซง Norris ขึ้นมาได้และพยายามขึ้นไปไล่ Red Bull ข้างหน้า 2 คัน ส่วน George Russell ในสังกัด Mercedes พยายามแซง Kevin Magnussen ในรถ Haas อยู่หลายครั้ง และก็ทำได้สำเร็จ โดย Valtteri Bottas ในสังกัด Alfa Romeo ตามแซง Magnussen ขึ้นมาหลังจากนั้นไม่นานเช่นกัน
เมื่อไม่มีฝนตกลงมา แทร็คก็ค่อยๆ แห้ง และเป็น McLaren ที่เรียก Ricciardo เข้ามาเปลี่ยนเป็นยางมีเดียมสลิคคันแรก ซึ่งนักแข่งออสซีก็ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดหลังจากนั้น ส่งผลให้หลายทีมต้องรีแอ็คเรียกนักแข่งของพวกเขาเข้ามาเปลี่ยนยางด้วยเช่นกัน
Red Bull นั้นได้เรียก Perez เข้ามาเปลี่ยนยางก่อน จากนั้นจึงเรียก Verstappen เข้าพิทมาในรอบถัดไป ซึ่ง Leclerc เองก็เข้าพิทมาในรอบเดียวกันกับ Verstappen นักแข่งโมเนแกสออกจากพิทไปและอยู่หน้า Perez แต่ด้วยความที่ยางของนักแข่งเม็กซิกันได้มีการวอร์มมาแล้ว 1 รอบ ทำให้เขาแซง Leclerc ที่ออกจากพิทมาอยู่ข้างหน้าได้เพียงไม่กี่โค้งหลังจากนั้น
ในพิทเลนมีเหตุ Near Miss เกิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อ Alpine ปล่อยรถของ Esteban Ocon ออกไปเกือบชนกับรถ Mercedes ของ Lewis Hamilton ซึ่งสจ๊วตตัดสินบวกเวลา 5 วินาทีให้กับนักแข่งเฟรนช์ไปในจังหวะนี้
กับยางมีเดียมนั้น Leclerc ในตอนแรกดูจะมีเพซที่ดีกว่า Perez แต่นักแข่งเม็กซิกันก็ตอบสนองต่อเวลาที่นักแข่งโมเนแกสกดเข้ามาทุกครั้งไป จนถึงรอบที่ 49 Ferrari ก็ลองเสี่ยงเปลี่ยนกลยุทธ์โดยการให้ Leclerc เข้าพิทมาเปลี่ยนเป็นยางซอฟต์
Red Bull ได้เรียกทั้ง Perez และ Verstappen เข้าพิทมาเปลี่ยนยางซอฟต์ตอบสนองต่อกลยุทธ์ของ Ferrari ซึ่งในตอนนี้ระยะห่างระหว่าง Perez กับ Leclerc ได้ถูกลดทอนหายไป
Leclerc พยายามกดดัน Perez อย่างหนัก แต่กลายเป็นว่านั่นทำให้เขาพลาดเองที่ชิเคน Variante Alta ซึ่งเขาหมุนไปชนกำแพง ส่งผลให้ปีกหน้ารถของเขาเสียหายและต้องเข้าพิทไปอีกครั้งเพื่อทำการเปลี่ยนชิ้นส่วน และดรอปเขาลงไปอยู่ในอันดับ 9
A podium finish slides away from Charles Leclerc 😖#ImolaGP #F1 pic.twitter.com/Y55Wplnb3V
— Formula 1 (@F1) April 24, 2022
Leclerc พยายามไล่ทำอันดับคืนมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งสุดท้ายแล้วเขาแซง Magnussen, Vettel, และ Tsunoda ขึ้นมาจบการแข่งขันในอันดับ 6
ที่ด้านหน้าต่อจากอันดับบนโพเดียม Russell นั้นลาก Mercedes ขึ้นมาจบการแข่งขันได้ในอันดับ 4 โดยนักแข่งสหราชอาณาจักรฯ ทนรับแรงกดดันจาก Bottas ที่หายใจรดต้นคอตามเข้าเส้นชัยในอันดับ 5
อันดับ 7 นั้นตกเป็นของ Yuki Tsunoda ที่วันนี้ไม่สร้างความผิดพลาดให้เห็น ตามมาด้วย Sebastian Vettel ที่เก็บแต้มสำคัญให้กับ Aston Martin, Magnussen ตามเข้ามาเป็นอันดับ 9 ส่วนอันดับ 10 เป็นของ Aston Martin อีกคันอย่าง Lance Stroll
Ocon จบการแข่งขันในอันดับ 11 แต่เจ้าตัวโดนพ่วงโทษบวก 5 วินาที ทำให้ Alex Albon นักแข่งไทยถูกขยับขึ้นมาจบการแข่งขันในอันดับ 11 แทน ตามมาด้วย Pierre Gasly ซึ่งทำตัวเป็นกำแพงสูงขวางท่านเซอร์ Hamilton ตลอดครึ่งหลังของการแข่งขัน และ Ocon ผลการแข่งขันสุดท้ายอยู่หลัง Hamilton ในอันดับ 14
อ้างอิง : racefans.net
