ลองขับ MG ZS EV ใหม่ รุ่นปรับโฉม แบบเบา ๆ ในสนามทดสอบของงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งสมรรถนะจะเป็นอย่างไร มีออฟชั่นอะไรที่น่าสนใจเพิ่มมาบ้างขับแล้วจะเป็นอย่างไร มาชมคลิปกันเลย
MG ZS EV 2022 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ถูกเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในไทย โดยมีการเพิ่มแบตเตอรี่ให้วิ่งไกลขึ้นเป็นระยะทาง 403 กิโลเมตร และมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ทั้ง D และ X
MG ZS EV 2022 ไมเนอร์เชนจ์ เปิดราคาจำหน่ายภายหลังจากเข้าร่วมมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล ส่งผลให้มีราคาจำหน่ายลดลง 240,000 บาท ในรุ่น D และ 246,000 บาท ในรุ่น X โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้
- รุ่น D ราคา 949,000 บาท (ราคาปกติ 1,189,000 บาท)
- รุ่น X ราคา 1,023,000 บาท (ราคาปกติ 1,269,000 บาท)
สมรรถนะ
MG ZS EV 2022 รุ่นปรับโฉมนี้ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 22 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ลดลงจากเดิม 70 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.6 วินาที พร้อมระบบ KERS – Kinetic Energy Recovery System ปรับได้ 3 ระดับเช่นเคย รวมถึงมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Normal และ Sport
จุดเด่นในรุ่นนี้คือตัวแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 50.3 kWh เทียบกับรุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ที่มีขนาด 44.5 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางไกลขึ้นอยู่ที่ 403 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง ซึ่งจากเดิมมีระยะทางขับขี่ 337 กิโลเมตร รองรับการชาร์จแบบเร็ว 30-80% ในเวลาประมาณ 30 นาที และชาร์จแบบปกติผ่าน MG Home Charger จาก 0-100% ในเวลาประมาณ 7 ชั่วโมง และยังได้มีการเสริมระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) เพื่อจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ของตัวรถกลับไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ อีกด้วย
ดีไซน์ภายนอก
มีการปรับโฉมจะดูใกล้เคียงกับ MG ZS รุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน คือ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, กระจังหน้าแบบ Grille-less Design พร้อมช่องชาร์จไฟ, ไฟท้ายแบบ LED, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า, สปอยเลอร์หลัง และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ Aero Wheel Cover
ดีไซน์ภายใน
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ มีการดีไซน์คอนโซลหน้าใหม่ ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังปรับระดับ 6 ทิศทางฝั่งผู้ขับขี่, หน้าจอมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว, ระบบกุญแจ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกรองอากาศ PM 2.5, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Vehicle Hold, หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดียสมาร์ทโฟนระบบ Android และระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART รองรับฟังก์ชัน Digital Key ได้
ส่วนในรุ่น X เพิ่มเติมด้วยหลังคา Panoramic Sunroof, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, ราวหลังคา, เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, ที่พักแขนด้านหลัง, ระบบ Wireless Charger และเพิ่มจำนวนลำโพงจาก 4 จุด เป็น 6 จุด
ระบบความปลอดภัย
มีการติดตั้งระบบความปลอดภัย Advanced Synchronized Protection System ทั้งหมด 20 ระบบ คือ
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK ที่รวมเอาระบบ LDP (Lane Departure Prevention) และ LKA (Lane Keep Assist) เข้าไว้ด้วยกัน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (เฉพาะรุ่น X)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (เฉพาะรุ่น X)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (เฉพาะรุ่น X)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC และอื่นๆ
ในด้านของระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ได้แก่
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและลื่นไถล TCS
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อเบรกฉุกเฉิน ESS
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติลมยาง TPMS
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
- สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
MG ZS EV รุ่นปรับโฉม มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Como Blue, สีเงิน Cosmic Silver, สีแดง Scarlet Red, สีดำ Black Knight และสีขาว Arctic White
บทความอื่น ๆ