Volvo car Thailand ประกาศความสําเร็จยอดจําหน่ายรถไฟฟ้า พร้อมการดําเนินธุรกิจปี 2025 โดยมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งในกลุ่มรถไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดและการบริการใหม่ๆ
นายคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย และ ประเทศมาเลเชีย (Volvo) กล่าวว่า ความสําเร็จของยอดจําหน่ายรถไฟฟ้าวอลโว่คิดเป็นสัดส่วนถึง 80% ของยอดขายรถทั้งหมด หรือเติบโตกว่า 24% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงสุดที่เคยมีมาตั้งแต่เริ่มจําหน่ายรถไฟฟ้า fully electric ในปี 2022 แต่ละรุ่นมียอดขายแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ดังนี้
| EX30 | 40% |
| EC40 และ EX40 | 20% |
| รถยนต์ Plug-in Hybrid ประกอบไปด้วยรุ่น S60 V60 S90 XC60 และ XC90 | 20% |
ขณะที่ในปี 2025 วอลโว่ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 0 – 5% เนื่องจากภาพรวมของตลาดยังไม่เห็นอะไรแน่ชัด แต่คาดว่าไม่น่าต่างจากปีที่แล้ว และเชื่อว่าด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่วอลโว่มี ทั้งในส่วนของรถไฟฟ้า fully electric และรถปลั๊กอินไฮบริด จะยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภคต่อเนื่องไปในอนาคต
เริ่มในไตรมาสแรกของปี 2025 วอลโว่ได้วางแผนการส่งมอบรถไฟฟ้าขนาด 7 ที่นั่ง สไตล์เอสยูวี รุ่นเรือธงอย่าง EX90 ให้แก่ลูกค้า
นอกจากนี้ Volvo Car ยังวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ทั้งในกลุ่มรถไฟฟ้า fully electric อย่างวอลโว่ EX 30 Cross Country และ วอลโว่ ES 90 ในปีนี้รวมถึงรถกลุ่ม ปลั๊กอินไฮบริดอย่าง XC90 เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นบริษัทผู้จําหน่ายรถไฟฟ้าเท่านั้นในอนาคต
ในแง่ของการบริการเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า วอลโว่ได้วางแผนในการเปิดโชว์รูม ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานครบวงจร Certified Damage Repair Centre (VCDR) แห่ง ใหม่ พร้อมวางแผนการขยายบริการ Mobile Service ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
รวมถึงเปิดบริการ SMART Repair Service ซึ่งเป็น การบริการซ่อมความเสียหายขนาดเล็ก และขนาดกลาง ที่เกิดขึ้นกับตัวรถด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ วอลโว่ แทนที่การเปลี่ยนอุปกรณ์ยกชิ้น ซึ่งการซ่อมดังกล่าวใช้เวลาไม่นาน และมีราคาประหยัด จึงช่วย ลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดช่วงอายุการใช้รถ เพิ่มมูลค่าในการเป็นเจ้าของซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ต้องการนําเสนอให้แก่ผู้เป็นเจ้าของรถวอลโว่ทุกคน
