Volvo จะพัฒนารถ SUV PHEV รุ่นใหม่ที่มีรหัสว่า V446 สำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะ โดยรถไฮบริดรุ่นใหม่นี้ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Meizu และ Geely และจะเริ่มผลิตจำนวนมากในช่วงต้นปี 2025 ที่โรงงานของ Volvo ในไถโจว ตามรายงานของสื่อในประเทศ
Volvo V446 จะใช้โมเดลรถ SUV PHEV ของ Lynk & Co ที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นพื้นฐาน และการพัฒนาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์นั้นนำโดยทีมวิจัยและพัฒนาของ Volvo China เป็นหลัก Autopix ระบุ
แม้จะไม่ได้ระบุว่าจะใช้โมเดลใดเป็นพื้นฐาน แต่สื่ออย่าง CarNewsChina คาดว่าจะเป็น Lynk & Co รุ่น 08 และจะใช้เทคโนโลยี EM-P PHEV บนแพลตฟอร์ม CMA 2 ซึ่ง Volvo คุ้นเคยดีเนื่องจากเวอร์ชันเก่ารองรับรุ่น XC40 ต่างจากแพลตฟอร์ม SPA 2 ที่ใช้เฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า และ CMA 2 ยังรองรับระบบส่งกำลังแบบปลั๊กอินไฮบริดอีกด้วย
Meizu และ EcarX จะพัฒนาซอฟต์แวร์ห้องโดยสารสำหรับ Volvo V446 รุ่นใหม่ Meizu เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ Geely เข้าซื้อกิจการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2022 และ EcarX เป็นบริษัทเทคโนโลยียานยนต์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Geely
Meizu จะใช้ซอฟต์แวร์ Flyme Auto ในห้องโดยสารที่ถูกใช้ในรถยนต์ 17 รุ่นจาก Geely Group รวมถึง Lynk & Co 08, Geely Galaxy series และ Polestar โดย Meizu อ้างว่ารถยนต์ที่ติดตั้ง Flyme ถูกขายไป 62,000 คันในเดือนตุลาคม โดย Lynk & Co เป็นผู้มีส่วนสนับสนุนหลัก
นี่จะเป็นความร่วมมือครั้งแรกของ Volvo กับ Meizu รายงานระบุว่าแม้ทั้งสองบริษัทจะอยู่ใน Geely Group แต่ความร่วมมือก็ไม่ได้ราบรื่นนัก
อีกด้านหนึ่ง Volvo ไม่ต้องการใช้ Flyme Auto โดยตรงเหมือนกับ Lynk & Co หรือ Geely Galaxy แต่ยืนกรานที่จะปรับเปลี่ยนและดัดแปลงบางอย่างเพื่อให้ “รู้สึกเหมือนกับ Volvo มากขึ้น” Volvo Asia Pacific (หน่วยงานของ Volvo ในจีน) ทุ่มเทนักออกแบบซอฟต์แวร์ห้องโดยสารจำนวนมากให้กับการร่วมมือกับ EcarX เพื่อทำให้ Flyme Auto เสร็จสมบูรณ์
Autopix อ้างแหล่งข่าวภายใน Volvo China ที่กล่าวว่า “เราน่าจะไม่เห็นโลโก้ Flyme Auto บนรถยนต์ Volvo รุ่นใหม่แล้ว แม้ว่าจะขับเคลื่อนด้วยโลโก้นี้ก็ตาม” อย่างไรก็ตาม Meizu หวังว่าโลโก้นี้จะเปิดโอกาสให้นำระบบนำทางในห้องโดยสารมาใช้กับรถยนต์ Volvo รุ่นใหม่ๆ ในจีนได้มากขึ้น
การพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Volvo ยังคงดำเนินการโดยทีมงานยุโรปในสวีเดน ซึ่งสร้างความท้าทายมากขึ้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากระบบ R&D ของ Volvo Asia Pacific เปิดเผยว่าทีมงานซอฟต์แวร์ยุโรปมักจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการส่งมอบเวอร์ชันแก้ไขหลังจากได้รับคำติชม “นี่ช้ากว่าเวลาตอบสนองของทีมซอฟต์แวร์ในประเทศอย่างเห็นได้ชัด” เขากล่าวกับ Autopix นอกจากนี้ ความแตกต่างของเวลาเกือบเจ็ดชั่วโมงระหว่างจีนและสวีเดนยังทำให้ประสิทธิภาพการสื่อสารลดลงอีกด้วย
Source: Carnewschina