ZEEKR เปิดตัวและราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ ZEEKR 007 GT สเตชันแวกอนทรงสปอร์ตประเดิมที่เมืองจีนก่อนที่จะส่งขายไปยังต่างประเทศ
ZEEKR 007 GT หรือชื่อใหม่ ZEEKR 7 GT สำหรับต่างประเทศเป็นการนำเวอร์ชันซีดานหั่นด้านท้ายต่อเติมเสริมหรูในร่างสเตชันแวกอนทรงสปอร์ต
โดยด้านท้ายในส่วนเสา D ออกแบบเสา D ให้หนาขึ้นออกแบบกระจกท้ายโค้งมนขึ้นพร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING ให้กลมกลืนสปอร์ตสไตล์แวกอน
หน้าตาคล้ายซีดานเริ่มที่กระจังหน้าทรงทึบติดตรา ZEEKR รวมในชุดกระจังหน้าถัดลงมาเป็นชุดไฟหน้า LED ขนาดใหญ่แนวนอน 90 นิ้ว กว่า 1,711 เม็ด รวมอยู่ในชุดเดียวกันพร้อมแสดงข้อความในชุดกระจังหน้า ลงตัวในชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ต่างจากซีดานอย่างชัดเจนด้วยช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ พร้อมคิ้วระบายอากศแนวตั้ง Air Curtain ลดแรงต้านอากาศ
ด้านข้างมาพร้อมกระจกมองข้างดีไซน์เอกลักษณ์ ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียน พร้อมกระจกแบบโอเปร่าไร้กรอบ Frameless ราวหลังคาสีดำบิ๊วอินน์กลมกลืนรับน้ำหนักได้ 150 กิโลกรัม ลงตัวหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่และระบบ LiDAR บนขอบหลังคารถด้านท้ายเด่นด้วยไฟท้าย LED สีแดงคาดยาว เล่นเกล็ดสวยๆใต้ไฟท้าย รับกับกันชนหลังทรงตัวยูคว่ำสีเดียวกับตัวรถ
พร้อมล้ออัลลอยให้เลือกตั้งแต่ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 245/45 R19 และขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/40R20 จากยาง Michelin Pilot Sport EV ตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม PMA2+ (Platform Modular Architecture 2+) ของ GEELY ทำร่วมกันกับ Volvo เดียวกับรุ่น 007 ซีดาน โดยมีมิติตัวรถดังนี้
- ความยาว 4,864 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,900 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,445 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,925 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 114-169 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,350 กิโลกรัม
ภายในยกมาจากเวอร์ชันซีดานมาทั้งหมดด้วยห้องโดยสารหรูหราทันสมัยประกอบด้วยคอนโซลหน้าทูโทนเล่นระดับ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัด ติดตั้งมาตรวัด LCD ทรงวงรีหลังพวงมาลัย จอสัมผัสขนาดใหญ่สามารถหมุนได้ชัดแบบ OLED 2.5K ขนาด 15.4 นิ้ว พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ HUD แบบ AR 35.5 นิ้ว รองรับผู้ช่วยเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งรองรับฟังก์ชันมากกว่า 200 ฟังก์ชัน นอกจากนี้ยังมีแผนที่ 3 มิติในตัวอีกด้วย
พร้อมระบบปฎิบัติการ ZEEKR OS 6.0 ติดตั้งลำโพงคุณภาพ Dolby Atmos 21 ตัวรวมจุดฝังที่พนักพิงศีรษะฝั่งคนขับ ประมวลผลโดยชิป Snapdragon 8295 ของ Qualcomm ไฟสร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light คันเกียร์ที่คอพวงมาลัย ช่องเก็บของที่กว้างขวางพร้อมที่วางแก้วสองช่อง และแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายกำลัง 50W 2 ช่อง ในชุดคอนโซลกลาง จุดยึดแท็บเล็ตหลังเบาะคู่หน้า 2 จุด
หลังคาหุ้มไมโครไฟเบอร์พร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ซึ่งป้องกันรังสี UV ได้ 99.99% รองรับการปรับ 10 ระดับ เข็มขัดนิรภัยสีแดงเสริม พร้อมเบาะนั่งหนังแท้ NAPPA เลือกโทนภายในได้ 4 สี เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาพร้อมอุ่นเบาะ เบาะเย็นและนวด เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่ตอนพับเบาะถึง 1,737 ลิตร จุใจด้วยพื้นที่เก็บของภายในมากถึง 36 จุด นอกจากนี้ยังมีตู้เย็นเสริมขนาด 10.2 ลิตรใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระ
ความแรงจากสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไฟฟ้าแรงสูง 800V ที่ให้ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยชุดแบตเตอรี่ที่มีด้วยกันถึง 2 ทางเลือกตั้งแต่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตแบบ LFP Golden Battery จากทาง ZEEKR ความจุแบต 75 kWh วิ่งไกลสุด 650 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC หรือ 627 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ในรุ่น RWD และ 585 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC หรือ 564 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ในรุ่น AWD
ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 5.5C ชาร์จเร็วสุดในโลก 0-80% ภายในเวลา 10.5 นาทีสามารถพิ่มระยะทางได้อีก 500 กิโลเมตรจากการชาร์จเร็ว DC ด้วยกำลังการชาร์จสูงสุด 500 kW
อีกความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ NMC 100 kWh QILIN จาก CATL วิ่งไกลสุด 825 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC หรือ 796 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ในรุ่น Long Range RWD สามารถพิ่มระยะทางได้อีก 610 กิโลเมตรจากการชาร์จเร็ว DC 0-80% ภายใน 15 นาที
พร้อม 2 ทางเลือกระบบขับเคลื่อนเริ่มที่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ให้พลัง 422 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.3 วินาทีในรุ่น RWD 75 kWh และ 5.2 วินาทีในรุ่น RWD Long Range 100 kWh
รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ให้พลังรวม 646 แรงม้า แรงบิด 710 นิวตันเมตร จากมอเตอร์หน้า 224 แรงม้า และมอเตอร์หลัง 422 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.8 วินาทีในรุ่น AWD 75 kWh
ทุกขนาดความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1-speed direct-drive โหมดการขับขี่ทั้ง Comfort, Economy, Sports, Personalized, Snow และ One Pedal ชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ในขณะชะลอตัว Braking Energy Regeneration และรองรับ V2L สูงสุด 3.3 kW แบบ AC และ V2V สูงสุด 60 kW แบบ DC พร้อมระบบกันสะเทือนถุงลม
พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS ติดตั้งมาพร้อมกับระบบ Navigation Zeekr Pilot (NZP) ให้เลือก มีเซนเซอร์รอบคันตั้งแต่ระบบ NZP รวมถึง LiDAR, กล้องความละเอียดสูง 12 ตัว, เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัว เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว ทั้งหมดนี้ทำงานผ่านชิปประมวลผล NVIDIA Orin X 2ตัว ที่มีพลังการประมวลผลสูงถึง 508 TOPS (trillion operations per second) รองรับฟังก์ชันต่างๆ เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบหลบหลีกอัตโนมัติทั่วไป (G-AES) และฟังก์ชันนำทางอัตโนมัติแบบไม่ใช้แผนที่ (NOA)
ZEEKR 007 GT โดยมีสีตัวถังให้เลือก 9 สี ได้แก่ ม่วงอ่อน ม่วงเข้ม น้ำเงิน เขียว เบจ เทา และเฉดสีอื่นๆเปิดราคาในจีนเริ่มต้น 202,900-232,900 Yuan หรือราว 925,000-1,059,000 บาท 3 รุ่นย่อย
ที่มา CarNewsChina
