เข้าสู่หน้าฝนเต็มตัวแล้ว สถิติการใช้รถใช้ถนนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ยังไม่สามารถลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงฤดูฝนได้เลย เพราะการขับรถในเมืองที่มีรถเยอะๆ ยิ่งเจอถนนพังๆ นี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้ทาง Car2Day มีคำแนะนำมาฝาก เพื่อช่วยเพิ่มความระมัดระวัง เดินทางอย่างปลอดภัย กันมากขึ้นในหน้าฝนกันนี้
- เปิดไฟหน้ารถ เพื่อทำให้มองเห็นทางชัดขึ้น กรณีที่ฝนตกหนักมากจนมองแทบไม่เห็นทาง แต่ในกรณีที่ตกไม่แรง ก็ควรเปิดเช่นกัน เพื่อให้รถคันอื่นมองเราเห็นได้ชัดขึ้นด้วย
- เปิดที่ปัดน้ำฝน เร่งความเร็วตามปริมาณฝนที่ตก
- ลดความเร็ว เพื่อการควบคุมรถได้ง่ายและป้องกันรถเบรคไม่อยู่หรือลื่น หากเกิดขับไปบนถนนที่มีน้ำขังหรือหลุมบ่อ ขึ้นมา เพื่อป้องกันรถเหวี่ยง หรือเสียหลักได้
- เว้นระยะห่าง หากต้องขับรถในช่วงรถติดและฝนตก ควรเว้นระยะให้ห่างจากคันหน้า 4-5 เมตร เพราะถ้าหากคันหน้าเบรคกระทันหัน เราก็จะสามารถเบรคได้ทัน
- ห้ามเหยียบเบรคจนล้อหยุดหมุนในทันที หมายถึงการเหยียบกระทันหันหรือเบรคลึกสุด เพราะอาจทำให้รถเสียหลัก พลิกคว่ำได้ หรือรถคันหลังอาจไม่ทันระวังและชนท้ายเอาได้
- อย่าเปิดไฟสูงหรือไฟสปอตไลท์ หลายคนมักเข้าใจผิดเสมอมาว่าฝนตกแล้วต้องเปิดไฟสูง จริงๆแล้วเมื่อฝนตกจะยิ่งทำให้แสงจากไฟสูงหรือสปอทไลท์ส่องไปเจอสายฝนจะทำให้เกิดม่านละอองสีขาวเป็นวงกว้าง ส่งผลให้การมองไปข้างหน้าแย่ลงกว่าการเปิดไฟต่ำ
- ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินหรือไฟกระพริบ นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังทำให้ผู้อื่นสับสนได้ กรณีที่จะต้องเลี้ยวไปทางไหนทางนึง
- ไม่ควรฝืน หากเกิดฝนตกหนักมากหรือเจอพายุ ควรหาที่จอดพัก ไม่ควรฝืนไปต่อ
- ไม่ควรจอดใกล้เสาไฟฟ้าแรงสูงหรือต้นไม้สูงๆ เพราะเป็นชนวนจุดกระแสไฟฟ้า อาจทำให้ฟ้าผ่าได้
ทั้งนี้ ควรตรวจเช็คสภาพรถในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะสภาพยางที่ปัดน้ำฝน เช็คลมยาง ให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดี เพราะหากเสื่อมสภาพขึ้นมา อาจทำให้เกิดอันตรายในการใช้รถช่วงฤดูฝนนี้ได้นะคะ