หลังเผยโฉมจริงไปแล้วที่งาน Guangzhou Auto Show 2024 สำหรับ Nissan N7 เก๋งซาลูนรุ่นใหม่พลังอีวีที่ชาวจีนและทั่วโลกต่างสนใจอยากพบตัวจริง
ล่าสุด Nissan พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวและพร้อมขายด้วยสำหรับ Nissan N7 เก๋งไซซ์เดียวกับ Nissan TEANA หรือ Nissan ALTIMA
Nissan N7 EV พัฒนาจากต้นแบบ Nissan Epoch เพื่อคนที่ใช้ชีวิตในเมือง ชานเมือง ทีมีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบสินค้าที่มีดีไซน์และเทคโนโลยี มาพร้อมแนวคิดของการใช้ AI และ Internet of Things (IOT) รวมถึงผู้ช่วยส่วนตัวเสมือนจริงที่ช่วยทำให้ชีวิตง่าย และสะดวกสบายยิ่งขึ้นผ่านการสื่อสารที่คำนึงถึงอารมณ์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
หน้าตาหรูด้วยกระจังหน้าทรงรูปตัววีแบบทึบหรือ V-Motion พร้อมกันชนหน้าทรงสปอร์ตชิ้นเดียวกับกระจังหน้า ส่วนบนจะเป็นแถบไฟ DRL แบบ LED เส้นสีขาวแนวนอนคาดยาวพร้อมชุดไฟหน้า LED รูปตัววีที่ให้ความสว่างชัดมากขึ้นด้านล่างเป็นช่องระบายอากาศสีดำ
ด้านข้างมาในแนวกระจกโอเปร่าแบบไร้กรอบ Frameless หลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ 1.82 ตารางเมตร กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถังรถ ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย OLED แนวยาว ติดตราตัวอักษร Nissan สีแดงสลับสีดำทั้งแผง ชุดกันชนหลังออกแบบเรียบง่ายดูดีกลมกลืนกับตัวรถและล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 225/55R17 และขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/45R19
เป็นการพัฒนาร่วมกันกับ Dongfeng จากพื้นฐานแพลตฟอร์ม Dongfeng Nissan’s new energy architecture โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ Cd 0.208 มิติตัวรถใหญ่ตามสูตรรถเก๋งตั้งแต่ความยาว 4,930 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,895 มิลลิเมตร ความสูง 1,487 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,915 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 1,837-1,875 กิโลกรัม พื้นฐานเดียวกับ Dongfeng eπ 007
ภายในยังไม่มีการเปิดเผยอะไรมากเพียงแต่เผยว่าการทำงานฟังก์ชันต่างๆภายในจอสัมผัสระบบความบันเทิงที่รวดเร็วแม่นยำด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295P พร้อมหน่วยความจำ 32GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB จากความร่วมมือของ Momenta ได้ฟังก์ชันระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงในชื่อ Navigate on Autopilot พร้อมเบาะนั่งแบบ Zero Gravity ออกแบบตามสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ด้านออปชันภายในอาจยกมาจาก Dongfeng eπ 007 ทั้งมาตรวัดความเร็ว LCD สี 8.8 นิ้ว และจอสัมผัสกลางขนาดใหญ่ 15.6 นิ้วและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านทรงหัวตัดท้ายตัด ลำโพงรอบคัน 20 จุด ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 64 สีและที่ชาร์จมือถือไร้สายคู่กำลัง 50W
ด้านขุมพลังไฟฟ้าคาดว่ายกมาจาก Dongfeng eπ 007 ชาร์จได้ทั้ง DC 30-80% ภายใน 26 นาที และชาร์จ AC ได้มีกัน 2 ทางเลือก เริ่มที่รุ่นเริ่มต้นด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน LFP 56.83 kWh ให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง TZ200XS3JD วิ่งไกล 530 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 511 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.8 วินาที
รุ่นท็อปด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน LFP 70.26 kWh ให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง TZ200XS3JD วิ่งไกล 620 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 598 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.8 วินาที
โดย Nissan เตรียมขายจริงที่จีนช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2025 ตามแผนธุรกิจใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘The Arc’ กลยุทธ์ของตลาดในประเทศจีนของ Nissan พร้อมหลักการที่ว่า “ในประเทศจีน และสำหรับประเทศจีน” หรือ “In China, for China” และแว่วๆว่าเมืองไทยอาจพบกันในปี 2026 ในเวอร์ชันพวงมาลัยขวาที่แรกของโลก
ที่มา AUTOHOME