More

    Suzuki eVITARA/FRONX 2 รุ่นใหม่เผยไทยปีนี้หวังเป้าขายโตเพิ่ม 41%

    Suzuki เดินหน้าส่งรถใหม่บรรลุเป้าหมายยอดขายโตเพิ่มขึ้น 41% ภายในปีนี้รวมถึงงานหลังการขายที่จะยกระดับงานบริการเพื่อดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจ

    Suzuki

    จากยอดขายปีที่แล้วที่ทำได้ 5,654 คันแม้จะมีสถานการณ์การหดตัวของตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์และการแข่งขันที่รุนแรงในประเทศรวมถึงความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ารายใหม่ ก็ตาม

    ปีนี้ Suzuki ไม่ย้อท้อตั้งเป้ายอดขายปีนี้อยู่ที่ 8,000 คัน สำหรับรถใหม่ 2 รุ่นเริ่มที่ Suzuki eVITARA เอสยูวีไฟฟ้าออกขายเพื่อมาต่อกรกับคู่แข่งจากจีนและยุโรปด้วยดีไซน์ที่ไม่แตกต่างจากต้นแบบรุ่น e VX

    ด้านหน้าเริ่มหล่อตั้งแต่กระจังหน้าทรงทึบติดตรา S ส่วนบนของโลโก้เป็นเส้นสีเงินโครเมียมไฟหน้า Matrix LED สองข้างทรงดุรับกับกันชนหน้าทูโทนพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ทรงกลมดวงเล็กล้อมด้วยกรอบสีเงินโครเมียม

    ด้านข้างดุดันด้วยหลังคาสีดำพร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟกระจกมองข้างทรงสปูนติดตั้งไฟเลี้ยว คิ้วขอบล้อสีดำทรงเท่ลากยาวเรียบเนียนกับกาบข้างประตูสีดำขนาดใหญ่ ที่เปิดประตูดึงก้านสำหรับประตูคู่หน้าส่วนที่จับประตูหลังอยู่บนตำแหน่งเดียวกับเสา C

    ด้านท้ายมาเท่ด้วยสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ไฟท้าย LED แนวยาวติดตรา S และชื่อรุ่น e VITARA ขนาดใหญ่รับกับกันชนหลังทูโทนเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังและล้ออัลลอยมี 2 ขนาดตั้งแต่ขนาด 18 นิ้วรัดด้วยางขนาด 225/55 R18 ทรงกล่องไซซ์ซับคอมแพ็คคันนี้พัฒนามาจากแพลตฟอร์มเพื่อรถไฟฟ้าเท่านั้นกับ “HEARTECT-e”

    Suzukiพรั่งพร้อมด้วยออปชันจัดเต็มเริ่มที่แผงคอนโซลหน้าดีไซน์โหดจอคู่ขนาดใหญ่แบบลอยตัวประกอบด้วยจอมาตรวัดความเร็วดิจิทัล 10.25 นิ้วเป็นจอสีและจอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาด 10.1 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อต่างๆ ถัดลงมาเป็นช่องแอร์แนวตั้ง 4 ช่องติดตั้งกรอบสีเงินและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน

    Suzukiถัดลงมาเป็นคอนโซลเกียร์โดยเป็นแป้นเกียร์หมุนทรงกลมมีที่ชาร์จมือถือไร้สาย มีปุ่มโหมดการทำงานของรถที่วางแก้วเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold และที่ท้าวแขนหุ้มหนังสัมผัส โดยโทนสีภายในมีให้เลือกทั้งสีดำเข้มและทูโทนดำน้ำตาล

    ภายในแน่นอนว่าคันนี้ให้ความสบายแบบ 5 ที่นั่งพร้อมเบาะนั่งหลังพับได้แบบ 40/20/40 เพิ่มพื้นที่ในการขนของโดยความจุด้านท้ายตอนไม่พับเบาะมีพื้นที่ 306 ลิตร

    Suzuki

    ขุมพลังไฟฟ้าติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (LFP) ขนาด 49 kWh ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิด 189 นิวตันเมตรในรุ่น Standard 2WD ขยับมาที่รุ่น Extended 2WD ขยับความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 61 kWh ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า แรงบิด 189 นิวตันเมตร โดยวิ่งไกลต่อการชาร์จมากกว่า 500 กิโลเมตร แต่ไม่มีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Performance 4WD

    พร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมดทั้ง Eco, Normal และ Sport สามารถชาร์จได้ทั้ง ชาร์จเร็ว DC และชาร์จช้า AC ทุกขนาดความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single speed electric drive พร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าที่ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร

    มีระบบดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) มีระบบเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด ทำให้รถสามารถถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้ พร้อมความปลอดภัยรอบคันด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ระดับ 2

    • ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Adaptive Cruise Control (ACC)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist (LKA)
    • ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive High Beam (AHB)
    • ช่วยเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Monitoring (BSD)
    • เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ Multi-Collision Brake (MCB)
    • แจ้งเตือนออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
    • ช่วยเตือนขณะถอย Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
    • ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB)
    • ช่วยเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)

    Suzuki

    กล้องมองรอบคัน 360 องศา ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS) ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเบรก ABS ตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS) ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด เซนเซอร์ช่วยจอด ด้านหน้าและด้านหลัง  ตรวจสอบแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS)

    เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold Electronic Parking Brake (EPB) with Brake Hold ปุ่มโทรฉุกเฉิน Emergency Call with SOS และตัวรถทำจากเหล็กกล้า High Tensile Steel Strength และระบบเสียงรถวิ่งเพื่อให้คนเดินถนนได้ยิน The Acoustic Vehicle Alarm System (AVAS)

    Suzuki e VITARA ประกอบที่โรงงาน Suzuki Motor ที่รัฐคุชราตประเทศอินเดียเริ่มผลิตตั้งแต่มีนาคมปี 2025 ก่อนขายไปยังยุโรป อินเดีย และญี่ปุ่นรวมถึงเมืองไทยภายในปีนี้

    Suzuki

    อีกรุ่นกับ Suzuki FRONX เอสยูวีพื้นฐานของรุ่น Baleno มาปรับใหม่และตกแต่งคล้ายรุ่น Grand Vitara สไตล์เอสยูวียกสูง ตั้งแต่กระจังหน้าขนาดใหญ่ พร้อมปีกแนวนอนปักโลโก้ S โครเมียม ซ่อนกล้องมองภาพไว้ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED สามดวงข้างบน รองรับชุดกันชนหน้าดีไซน์แปลก พร้อมไฟหน้า LED

    คิ้วชายล่างกันชนสีเงิน คิ้วโครเมี่ยมขอบประตูหรู พร้อมกระจกมองข้างทรงสปูน ราวหลังคาตามสไตล์รถลุย ไฟท้าย LED เต็มวงครอบคลุมถึงฝาท้ายในชุดกันชนหลังทรงสปอร์ตและล้ออัลอลยลลายทูโทนขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 195/60R16 จาก Goodyear Assurance TripleMax 2 ตัวรถมีขนาดเล็กกว่ารุ่น Grand Vitara โดยตัวรถยังเป็นแพลตฟอร์ม Heartect

    Suzuki

    ภายในคล้ายกับรุ่น Suzuki Grand Vitara จอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว ลำโพง 6 จุดจาก Arkamys มาตรวัดเรืองแสง ในชุดคอนโซลหน้าสีดำน้ำตาลที่มีหนังสัมผัสให้ สีเบาะนั่งโทนสีน้ำตาล/ดำหุ้มหนัง ปรับพับได้แบบ 60:40 มีพื้นที่ด้านหลัง 308 ลิตร มีซันรูฟแบบพาโนรามา จอแสดงผลบนกระจกหน้า Head up Display กล้อง 360 องศา แท่นชาร์จไร้สาย เครื่องปรับอากาศด้านหลัง พอร์ตชาร์จ USB ด้านหลัง ทันสมัยด้วยระบบสตาร์ทเครื่องยนต์โดยใช้สมาร์ทโฟนหรือสมาร์ตวอทช์ สั่งการด้วยเสียงที่เข้ากันได้กับ Google Assistant และ Siri

    Suzuki

    ขุมพลังเป็นเบนซิน Mild Hybrid SHVS ขนาด 1.5 ลิตร รหัส K15C ให้กำลังสูงสุด 101 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วย เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พ่วงด้วยแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน 12V ครั้งนี้ขยายความจุใหญ่ขึ้นเป็น 10 Ah หรือ 0.12 kWh (เดิมเป็น 6 Ah หรือ 0.072 kWh)

    จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ISG WA06A ช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ถึง 3 แรงม้าที่ 800-1,500 รอบต่อนาที แรงบิด 60 นิวตันเมตรที่ 100 รอบต่อนาที เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ ประหยัดน้ำมัน 20.2-21.3 กิโลเมตรต่อลิตรตามมาตรฐาน JC08 ความปลอดภัย Safety มาแบบจัดเต็มด้วย Suzuki Safety Support ทั้ง

    • ป้องกันการชนด้านหน้า DSBS II (Dual Sensor Brake Support II)
    • ปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHS (Adaptive High Beam System)
    • ช่วยจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitoring System)
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับยานพาหนะ คนเดินถนน จักรยานและมอเตอร์ไซค์ Autonomous emergency braking (AEB) with vehicle, pedestrian, cyclist and motorcyclist detection
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอยหลัง Reverse AEB
    • ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop/Go และอยู่ในเลน Adaptive cruise control with stop/go and Lane Centring
    • ช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind-spot monitoring
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keep Assist
    • ช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear cross-traffic alert
    • กล้องมองภาพรอบคัน Surround-view camera
    • แสดงป้ายจราจร Traffic sign recognition

    Suzuki

    กับความปลอดภัยพื้นฐานทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา เบรก ABS  EBD ช่วยกระจายแรงเบรก รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Hold Control จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX และ Top tether และกุญแจนิรภัย Immobilizer โดยนำเข้ามาขายไทยจากอินโดนีเซียพบกันปีนี้

    Suzuki นอกจากรถใหม่ 2 รุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานในวงกว้างมากขึ้น คาดว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้าและสามารถแข่งขันได้ในอนาคตเรายังมีแผนที่จะยกระดับงานบริการในทุกด้าน เพื่อดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจ และสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้

    เดินหน้าแผนงานเพื่อยกระดับงานบริการและอะไหล่ในหลายด้าน ทั้งการแนะนำแคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE” ไปจนถึงการเร่งขยายเปิดศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานซึ่งในปีนี้ เรายังคงพัฒนาการยกระดับงานบริการแบบ S-Solution เพื่อสร้างความมั่นใจในงานบริการแก่ลูกค้าทุกขั้นตอน  อีกทั้งเรายังมี HELLO SUZUKI APPLICATION เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า

    Suzuki

    ทั้งการนัดหมายเข้ารับบริการ รายงานสถานะการซ่อม ตรวจสอบประวัติการบริการ หรือติดต่อสอบถามข้อมูล รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษมากมาย ด้วยการสะสมคะแนนจากค่าใช้จ่ายในการเข้าซ่อมบำรุงตามระยะอย่างต่อเนื่อง หรือซ่อมแซมที่ศูนย์บริการทั่วประเทศ เพื่อรองรับกับแผนงานในอนาคต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดรถยนต์ เน้นย้ำถึงการสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าว่าจะสามารถมอบบริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐานได้อย่างแท้จริง

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts