More

    พิษโควิดและน้ำท่วม!!ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไทยชะลอตัวต่อเนื่องรวม 64,122 คัน ลดลง 17.7% ในเดือนกันยายน

    รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2564 ชะลอตัวต่อเนื่องในทุกเซ็กเมนท์ โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 64,122 คัน ลดลง 17.7%ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 25,255 คัน ลดลง 13.5% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 38,867 คัน ลดลง 20.2% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 30,164 คัน ลดลง 21%

    ประเด็นสำคัญตลาดรถยนต์เดือนกันยายน 2564 มีปริมาณการขาย 64,122 คัน ลดลง 17.7% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 13.5% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 20.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากความวิตกกังวลต่อภาวะการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังคงเกิดขึ้นทั่วประเทศยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน การทำธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว และบริการต่างๆ ที่สำคัญสถานการณ์น้ำท่วมได้ลุกลามหลายจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตร ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจฐานราก และความสามารถในการซื้อของลูกค้าเป็นจำนวนมากตลาดรถยนต์ในเดือนตุลาคมมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อให้ธุรกิจและ

    ประชาชนสามารถดำเนินชีวิต และประกอบธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์เพื่อควบคุมโรคโดยอนุญาตให้สถานประกอบการบางแห่งเปิดบริการ หรือสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ตลอดจนการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยเริ่มทั่วถึงมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดียังมีความหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะฟื้นตัวดีขึ้นจากความพยายามอย่างเต็มที่ของภาครัฐ ในการส่งเสริมมาตรการทางเศรษฐกิจ และการสนับสนุนกำลังซื้อของผู้บริโภค ตลอดจนการเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวในโครงการนำร่องอย่าง Phuket sandbox Samui plus และ Pattaya move on จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ฟื้นคืนกลับมา รวมทั้งสถานการณ์น้ำท่วมที่คลี่คลายในหลายพื้นที่ และการเดินหน้าเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่เป็น Hi-season จะช่วยให้สถานการณ์ตลาดรถยนต์ดีขึ้นไปจนถึงสิ้นปี

    ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกันยายน 2564

    1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,122 คัน ลดลง 17.7%

       อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,971 คัน ลดลง 15.9% ส่วนแบ่งตลาด 31.1%

       อันดับที่ 2 อีซูซุ  13,649 คัน  ลดลง  11.6%  ส่วนแบ่งตลาด 21.3%

       อันดับที่ 3 ฮอนด้า  6,311 คัน ลดลง 30.5% ส่วนแบ่งตลาด   9.8%

    1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 25,255 คัน ลดลง 13.5%

        อันดับที่ 1 ฮอนด้า  5,849 คัน   ลดลง 23.0%   ส่วนแบ่งตลาด 23.2%

        อันดับที่ 2 โตโยต้า 5,237 คัน  ลดลง 3.6%  ส่วนแบ่งตลาด 20.7%

        อันดับที่ 3 มาสด้า  1,921 คัน  ลดลง 6.2% ส่วนแบ่งตลาด  7.6%

    3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 38,867 คัน ลดลง 20.2%

        อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,734 คัน ลดลง 19.6%  ส่วนแบ่งตลาด 37.9%

        อันดับที่ 2 อีซูซุ  13,649 คัน ลดลง 11.6%  ส่วนแบ่งตลาด 35.1%

        อันดับที่ 3 ฟอร์ด    2,101 คัน ลดลง 26.2%  ส่วนแบ่งตลาด  5.4%

    1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 30,164 คัน ลดลง 21%

    อันดับที่ 1 โตโยต้า  12,504 คัน ลดลง 18.4%     ส่วนแบ่งตลาด 41.5%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ     12,254 คัน ลดลง 13.4%     ส่วนแบ่งตลาด 40.6%

        อันดับที่ 3 ฟอร์ด  2,101 คัน  ลดลง 26.2%     ส่วนแบ่งตลาด  7.0%

    *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) 3,037 คัน โตโยต้า 1,461 คัน – อีซูซุ 804 คัน – ฟอร์ด 329 คัน – มิตซูบิชิ 328 คัน – นิสสัน 115 คัน

    1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 27,127 คัน ลดลง 20.9%

    อันดับที่ 1 อีซูซุ 11,450 คัน  ลดลง   17.5%  ส่วนแบ่งตลาด 42.2%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า 11,043 คัน ลดลง  16.2%  ส่วนแบ่งตลาด 40.7%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด   1,772 คัน   ลดลง  24.0%  ส่วนแบ่งตลาด  6.5%

    สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – กันยายน 2564

    1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 531,931 คัน ลดลง 0.5%

        อันดับที่ 1 โตโยต้า 166,560 คัน เพิ่มขึ้น 6.0% ส่วนแบ่งตลาด 31.3%

        อันดับที่ 2 อีซูซุ 131,529 คัน เพิ่มขึ้น 6.5%  ส่วนแบ่งตลาด  24.7%

        อันดับที่ 3 ฮอนด้า  61,329 คัน ลดลง  5.7%  ส่วนแบ่งตลาด 11.5%

    1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 176,140 คัน ลดลง 6.7%

    อันดับที่ 1 ฮอนด้า  53,406 คัน ลดลง 1.9%     ส่วนแบ่งตลาด 30.3%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า 43,101 คัน  ลดลง 5.6%    ส่วนแบ่งตลาด 24.5%

    อันดับที่ 3 มาสด้า  15,156 คัน  ลดลง  9.1%    ส่วนแบ่งตลาด  8.6%

    1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 355,791 คัน เพิ่มขึ้น 2.8%

    อันดับที่ 1 อีซูซุ  131,529 คัน  เพิ่มขึ้น  6.5%   ส่วนแบ่งตลาด 37.0%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า 123,459 คัน  เพิ่มขึ้น 10.8%  ส่วนแบ่งตลาด 34.7%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด 22,530 คัน เพิ่มขึ้น     16.7%  ส่วนแบ่งตลาด  6.3%

    1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 276,789 คัน เพิ่มขึ้น 0.9%

    อันดับที่ 1 อีซูซุ   119,314 คัน  เพิ่มขึ้น 4.4% ส่วนแบ่งตลาด 43.1%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า 104,962 คัน เพิ่มขึ้น 9.8% ส่วนแบ่งตลาด 37.9%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด     22,530 คัน เพิ่มขึ้น  16.7% ส่วนแบ่งตลาด  8.1%

    ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) 36,160 คัน โตโยต้า 15,986 คัน – อีซูซุ 11,826 คัน – มิตซูบิชิ 4,532 คัน – ฟอร์ด 3,344 คัน – นิสสัน 472 คัน

    1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 240,629 คัน ลดลง 2.5%

    อันดับที่ 1 อีซูซุ  107,488 คัน   ลดลง  2.4%  ส่วนแบ่งตลาด 44.7%

        อันดับที่ 2 โตโยต้า 88,976 คัน เพิ่มขึ้น 5.8% ส่วนแบ่งตลาด 37.0%

        อันดับที่ 3 ฟอร์ด    19,186 คัน  เพิ่มขึ้น 22.0% ส่วนแบ่งตลาด  8.0%

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts