ผ่านมาได้สักระยะแล้ว สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งอยู่บนถนนบ้านเรา บางคันก็ถึงเวลา การเสื่อมสภาพจากการใช้เงานต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และชิ้นส่วนสำคัญนั่นก็คือ แบตเตอรี่ ซึ่งอาการแบตเตอรี่เสื่อม เป็นอะไรที่หลาย ๆ ท่านเป็นกังวล และไม่อยากจะให้เกิดขึ้นกับรถอย่างแน่นอน ฉะนั้น เรามาดูกันดีกว่า ว่าอาการแบตรถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมเป็นอย่างไร? เพื่อที่จะได้เข้าใจและพร้อมเตรียมรับมือ
ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าของคุณเกิดอาการแบบนี้ ต้องรีบเช็คด่วน!
- ชาร์จเต็ม 100% แต่วิ่งระยะทางได้น้อยลง เพราะตัวเก็บประจุไฟเสื่อมคุณภาพ (เก็บไฟได้น้อยลง)
- ชาร์จนานขึ้น เพราะความสามารถในการเก็บไฟของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าลดลง
- ชาร์จเต็มเร็วเกินไป เพราะประสิทธิภาพความจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่เหลือน้อยลง
- ประสิทธิภาพรถแย่ลง เพราะความสามารถในการเก็บไฟของแหล่งพลังงานลดลง
3 วิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
- หลีกเลี่ยงการจอดรถยนต์ไฟฟ้าทิ้งไว้กลางแดดจัด ๆ เนื่องจากอาจทำให้ตัวรถ (โดยเฉพาะแบตเตอรี่) มีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้ระบบจัดการความร้อนของรถยนต์ทำงานอยู่ตลอดเวลา จึงเกิดการใช้งานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถ EV ไปเรื่อย ๆ ด้วยนั่นเอง
- ชาร์จแบตเตอรี่รถ EV ด้วยเปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% เพราะทำให้แบตเตอรี่มีอุณหภูมิสูง ช่วงการชาร์จแบตที่ดีที่สุด คือในช่วง 30% – 80% ไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% เพราะทำให้ Cycle time หมดไว เสี่ยงต่อการที่แบตเตอรี่ชาร์จไฟไม่เข้า
- ไม่ควรใช้การชาร์จแบบ DC บ่อยจนเกินไป เพราะถึงแม้การชาร์จแบบ DC จะช่วยให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มได้เร็วกว่าการชาร์จแบบ AC แต่เนื่องจากการชาร์จแบบ DC เป็นการอัดประจุไฟฟ้าเข้าไปจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น จึงทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนสะสมสูง ส่งผลทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้ไวมากขึ้น ดังนั้นการสลับชาร์จแบบ AC จึงเป็นการช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ดียิ่งขึ้น
มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมากสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ถ้ามีสิ่งสำคัญอื่นๆ อีก ทางทีมงาน Car2Day จะมาแจ้งแตือนผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันอีกอย่างแน่นอน ด้วยความเป็นห่วงและปรารถนาดี