เรียกได้ว่าดิ้นรนเต็มที่ในชั่วโมงนี้สำหรับ Mick Schumacher ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงเก้าอี้นักขับ F1 ในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ความฝันที่จะได้เป็นนักขับ Ferrari ของเขา ดูเหมือนจะถูกปิดตายลงไปเป็นที่เรียบร้อย
Schumacher นั้นกำลังอยู่ในสัญญาปีสุดท้ายของทีมแข่ง Haas และดูเหมือนว่าเขาจะล้มเหลวในการสร้างความประทับใจให้กับต้นสังกัด ในการที่จะต่อสัญญากับเขาออกไป ไม่เพียงเท่านั้น ดูเหมือนว่าลูกชายของตำนานแชมป์โลก F1 7 สมัย ผู้โด่งดัง จะหลุดจากการเป็นนักแข่งในโครงการของ Ferrari ในปีหน้าเสียด้วย
Schumacher ได้เข้าเป็นนักแข่งในโครงการของ Ferrari เมื่อปี 2019 แต่จากฟอร์มการขับที่ไม่แน่นอนของเขาทำให้ Ferrari กำลังพิจารณาที่จะถอดเขาออกจากโครงการ
“อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วเมื่อตอนเริ่มต้นฤดูกาล มันสำคัญมากสำหรับ Mick ในฤดูกาลนี้ที่จะต้องพัฒนาฝีมือขึ้นมา” Mattia Binotto ทีมบอส Ferrari กล่าวในระหว่างสุดสัปดาห์การแข่งขัน Italian Grand Prix “เราจะนั่งคุยกับเขาในอีกไม่กี่เรซข้างหน้า เพื่อตัดสินใจในอนาคตที่ดีที่สุดสำหรับเขา”
จากคำพูดของ Binotto นั้นมีความชัดเจนอยู่ในตัว หาก Mick ไม่สามารถปรับปรุงผลงานของตัวเองขึ้นมาได้ เขาก็จะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวของ Ferrari
Schumacher ได้แสดงให้เห็นความเร็วของเขาออกมาบางครั้ง เก็บแต้มได้บ้าง และมีผลการแข่งขันที่ดีในบางสนาม แต่ดูเหมือนว่านั่นจะไม่เพียงพอที่จะหักล้างต่ออุบัติเหตุที่มักจะเกิดขึ้นกับตัวเขา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมแข่งต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น
นอกจากนั้น เขายังจำเป็นต้องเอาชนะ Kevin Magnussen เพื่อนร่วมสังกัด Haas ของเขา เพื่อโน้มน้าว Ferrari ว่า เขาควรได้รับการปฏิบัติในฐานะของหนึ่งในผู้ที่ควรได้รับเลือกให้เข้าสังกัดม้าลำพองในอนาคต
Magnussen นั้นถือได้ว่าเป็นตัวชี้วัดสำหรับ Schumacher ที่ดีเยี่ยม เขาเป็นนักแข่งมืออาชีพที่ฝีมือดีคนหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงกับติดระดับท็อป คุณลองนึกภาพง่าย ๆ ว่า เมื่อนำ Charles Leclerc หรือ George Russell เข้ามาขับให้กับ Haas พวกเขาเหล่านั้นน่าจะทำผลงานเหนือกว่า Magnussen ได้ไม่ยากเย็น นั่นคือระดับฝีมือของนักแข่งชาวเดนมาร์ก และนั่นเป็นสิ่งที่ Schumacher ยังทำไม่ได้
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ นั่นจึงทำให้มีโอกาสน้อยมากที่ Haas จะต่อสัญญากับนักแข่งเยอรมันออกไปในปีหน้า และถ้าหากเป็นเช่นนั้น ทำไม Ferrari จึงต้องคิดต่างจาก Haas ด้วย?
อันที่จริง ค่ายผู้ผลิตจากมาราเนลโลก็พึ่งจะเซ็นสัญญากับ Mick ไปเมื่อปี 2019 ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่เขาแข่งขันรถแข่งล้อเปิดมาเป็นปีที่ 5 แล้ว
ถ้าหากว่า Ferrari ต้องการตัวนักแข่งเยอรมันจริง ๆ ตามที่ได้ให้เหตุผลในตอนที่เซ็นสัญญาว่า ‘เขามีความสามารถและมีความเป็นมืออาชีพสูง’ ทำไมพวกเขาจึงไม่เซ็นสัญญากับ Schumacher ให้เร็วกว่านั้น? คำตอบนั้นชัดเจน Ferrari พึ่งจะมีความมั่นใจกับความสามารถของนักแข่งเยอรมัน ก็ในตอนที่เขาล่วงเลยเข้ามาแข่งขันใน Formula 2 แล้ว
ในตอนนั้น Schumacher มีดีพอที่จะทำให้ Ferrari เซ็นสัญญากับเขา เขาพึ่งคว้าแชมป์ European Formula 3 และหลังจากเซ็นสัญญา ปีถัดมาเขาก็คว้าแชมป์โลก Formula 2 ได้ ทำให้เขาได้รับโอกาสให้ขึ้นมาขับใน Formula 1
แต่ถ้าหากเขายังต้องการที่จะอยู่ในแผนการระยะยาวของ Ferrari ต่อไป มันมีเงื่อนไข 2 อย่างที่ต้องพบ อย่างแรก เขาจะต้องปรับปรุงพัฒนาฝีมือขึ้นมาได้ ‘อย่างมาก’ และอีกอย่างคือ Ferrari มีความจำเป็นที่จะขาดเขาไปไม่ได้
ในตอนที่ Schumacher เซ็นสัญญาเป็นนักแข่งในโครงการของ Ferrari ในตอนนั้น Kimi Raikkonen ก็พึ่งจะย้ายออกจากทีม และเก้าอี้ตัวนั้นก็ถูกแทนที่ด้วย Charles Leclerc
ด้วยผลงานที่นักแข่งชาวโมนาโกทำไว้ในปี 2019 ประจวบเหมาะกับการที่ Schumacher ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานในปีแรกของ F2 นักแข่งโมเนแกสจึงได้รับสัญญาระยะยาวจาก Ferrari มันชัดเจนว่าพวกเขาเห็น Leclerc เป็นอนาคตให้กับค่ายม้าลำพอง
ตัดภาพกลับมาที่ Schumacher เราจะเห็นได้ว่าทางค่ายม้าลำพองนั้นไม่ได้มองนักแข่งเยอรมันในแบบเดียวกับที่นักแข่งโมเนแกสได้รับ และเมื่อ Carlos Sainz เข้ามาแทนที่ Sebastian Vettel และผนึกกำลังอย่างแข็งแกร่งกับ Leclerc จนพลิกผลงานของ Ferrari กลับขึ้นมาอีกครั้ง ชัดเจนว่านั่นทำให้ Schumacher ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
ดังนั้นข้อสรุปคือ Schumacher ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นอนาคตของ Ferrari ทางค่ายไม่ได้ต้องการตัวเขา และตัวเขาเองก็ไม่ได้มีผลงานที่ดีพอ
อ้างอิง : the-race.com