More

    10 ครั้งที่นักแข่ง F1 อยู่ไม่ครบสัญญาของตัวเอง

    ช่วงนี้ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันตัวนักแข่งกับต้นสังกัดใดก็ตาม แต่ยังคงมีกระแสข่าวลือเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการย้ายทีมหรือใครที่จะเข้าวงการมาใหม่ อย่าง Daniel Ricciardo กับ McLaren และ Oscar Piastri นักแข่ง F2 กับ Williams

    Ricciardo นั้นมีสัญญากับ McLaren ถึงปี 2023 แต่นั่นดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยให้ข่าวลือการย้ายทีมของเขาเบาบางลงแต่อย่างใด นักแข่งออสซียังคงมีฟอร์มการขับที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ อีกทั้งยังมีการเปิดเผยออกมาจาก Zak Brown, CEO ของทีมอีกว่า ในสัญญาของ Ricciardo นั้นมี “กลไก” ที่ช่วยให้พวกเขาแยกทางกันก่อนหมดสัญญาได้อยู่

    สถานการณ์ที่ Azerbaijan Grand Prix น่าจะช่วยให้ Ricciardo นั้นหายใจได้ทั่วท้องมากกว่าเดิมเล็กน้อย อย่างไรก็ตามหากเขาไม่ได้ไปต่อกับ McLaren ในปี 2023 นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักแข่ง F1 อยู่กับต้นสังกัดได้ไม่ครบตามสัญญา มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และนี่คือ 10 ครั้ง ที่น่าจะเป็นที่โจษจันมากที่สุด

     

    Sergio Perez – Racing Point

    Sergio Perez

    Sergio Perez มีสัญญากับ Racing Point ถึงปี 2021 ฉะนั้นว่ากันตามทฤษฎี นักแข่งเม็กซิกันจะได้ลงแข่งขันให้กับ Aston Martin ในปีแรก แต่สิ่งนั้นก็ไม่เกิดขึ้น

    เมื่อฤดูกาล 2020 ที่ถูกดีเลย์จากโควิด เปิดฤดูกาลแข่งขันมาได้เพียง 2 สนาม ก็เกิดข่าวลือว่า Racing Point นั้นเล็งดึงตัว Sebastian Vettel แชมป์โลก 4 สมัย ที่ไม่ได้ไปต่อกับ Ferrari ในขณะที่ Lance Stroll นั้นการันตีที่นั่งในทีมตราบเท่าที่พ่อของเขา Lawrence Stroll ยังคงเป็นเจ้าของทีมอยู่ นั่นทำให้หวยไปตกอยู่กับ Perez ที่ถึงแม้ว่าจะมีสัญญาอยู่กับทีมถึงปี 2021 แต่ทางทีมกลับไม่ยอมยืนยันว่านักแข่งเม็กซิกันจะอยู่กับทีมต่อในปีถัดไป

    ในตอนนั้นก็ไม่มีใครคิดว่า Perez จะถูกปลดออกเช่นกัน นักแข่งเม็กซิกันมีฤดูกาลที่แข็งแกร่ง แต่ข่าวลือนั้นก็ยังถูกโหมให้ได้ยินอยู่เรื่อยมา จนในที่สุดต้นสังกัดก็ได้ยืนยันการมาของ Vettel คู่กับ Stroll ทำให้ Perez ต้องมองหาทีมแข่งอื่นในการขับแทน

    นับว่า Perez ยังมีโชคดีอยู่ Red Bull ที่ตอนนั้นตัดสินใจไม่ให้ Alex Albon ขับต่อในปีถัดไป ก็เลยมีตัวเลือกเป็น Perez ที่เป็นนักแข่งฝีมือดีมีประสบการณ์ และจากตอนนั้นที่อนาคตของเขาใน F1 เกือบจะหลุดลอยไป ในตอนนี้เขาได้กลายมาเป็นตัวเต็งแชมป์โลก แถมยังมีสัญญาการันตีที่นั่งกับ Red Bull ถึงปี 2024 อีกด้วย

     

    Ayrton Senna – Toleman

    Ayrton Senna

    ในตอนที่ Ayrton Senna เซ็นสัญญาขับให้ Toleman ตัวสัญญานั้นครอบคลุมการขับจากปี 1984 ถึงปี 1986 แต่ด้วยลีลาการขับอันน่าประทับใจของนักแข่งบราซิเลียน มันได้ไปเตะตาของเหล่าบรรดาทีมใหญ่ทั้งหลาย

    Senna บรรลุข้อตกลงออกจาก Toleman ก่อนกำหนดและย้ายไปร่วมทีมกับ Lotus แทนที่ Nigel Mansell ในปี 1985 ซึ่งเขาต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาเป็นมูลค่า 100,000 ปอนด์ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ Toleman โกรธและเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมาก็คือ Lotus ประกาศว่า Senna เป็นนักขับของทีมในปี 1985 ก่อนที่นักแข่งบราซิเลียนจะบรรลุข้อตกลงในการยกเลิกสัญญา ส่งผลให้ Senna ต้องนั่งเป็นตัวสำรองในการแข่งขันรายการ Italian Grand Prix

    ท้ายที่สุดเมื่อตกลงกันได้ Senna ได้กลับมาขับให้กับ Toleman อีกครั้งจนจบฤดูกาล ก่อนที่จะย้ายไปขับให้กับ Lotus ในปีถัดไป และคว้าชัยชนะอันมีชื่อเสียงท่ามกลางสายฝนในสนามที่ 2 กับ Lotus ที่โปรตุเกส

     

    Nikita Mazepin – Haas

    Nikita Mazepin

    Nikita Mazepin นั้นกำลังเตรียมที่จะลงแข่งขัน F1 เป็นฤดูกาลที่ 2 แต่มันดันเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่รัสเซียก่อสงครามบุกยูเครน ซึ่งถึงแม้ว่านักแข่งรัสเซียนนั้นจะได้ทดสอบรถกับต้นสังกัด Haas จนครบ แต่เป็นที่ชัดเจนว่าอนาคตของเขาในทีมนั้นไม่แน่นอนเสียแล้ว

    Haas นั้นเริ่มต้นจากการถอดเอาสปอนเซอร์หลักของทีมอย่าง Uralkali บริษัทสัญชาติรัสเซียนของ Dmitry Mazepin พ่อของ Nikita ออก ในระหว่างการทดสอบรถครั้งแรก และก่อนการทดสอบรถครั้งที่ 2 ทั้งนักแข่งและสปอนเซอร์ก็ถูกยกเลิกสัญญาทั้งหมดไปเป็นที่เรียบร้อย

    Mazepin และ Uralkali ได้ฟ้องร้องต่อศาลถึงความไม่ยุติธรรมที่พวกเขารู้สึกว่าโดนกระทำในครั้งนี้ และมันยังหาข้อสรุปไม่ได้มาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม Haas ได้ดึงตัว Kevin Magnussen กลับมา และนักแข่งเดนมาร์กคว้าอันดับ 5 ให้กับทีมทันทีในสนามเปิดฤดูกาลที่บาห์เรน

     

    Andrea de Cesaris – Ligier

    Andrea de Cesaris

    Andrea de Cesaris ได้รอดพ้นจากอุบัติเหตุที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรายการ Austrian Grand Prix 1985 หลังจากที่รถ Ligier ของเขากลิ้งไปหลายตลบ แต่เขากลับไม่รอดพ้นจากการถูกปลดออกจากทีม Guy Ligier ทีมบอสและเจ้าของทีมนั้นตัดสินใจได้ทันทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุว่า นักแข่งอิตาเลียนนั้นจะต้องถูกปลดออกจากทีม หลังจากที่เขาสะสมบิลค่าเสียหายจากอุบัติเหตุจนทีมบอสรับไม่ไหว

    “De Cesaris นั้นทำให้เราสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก” Ligier กล่าว “ผมบอกกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่าว่า เราต้องการนักขับที่ใจเย็น คนที่สามารถควบคุมแรงกระตุ้นของตัวเองได้”

    “Andrea นั้นเป็นคนที่ดีนะ แต่เราจ่ายให้เขาไม่ไหว”

    De Cesaris นั้นรู้สึกว่าเขาถูกปลดอย่างไม่ยุติธรรม โดยกล่าวว่านั่นเป็นความผิดพลาดครั้งแรกของเขาในฤดูกาลนั้น แต่เขาก็ชี้ให้เห็นว่า “ช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ F1 และ Ligier ก็แค่ต้องการเงิน”

    นักแข่งอิตาเลียนไปปรากฏตัวอยู่กับทีม Minardi ในฤดูกาลถัดไป และอยู่แข่งขันใน F1 ยาวนานจนน่าประหลาดใจถึงปี 1994

     

    Ralf Schumacher – Jordan

    Ralf Schumacher

    ในตอนที่ Ralf Schumacher เข้าวงการ F1 ครั้งแรกในปี 1997 มันเป็นปีแรกในสัญญา 3 ปี กับทีม Jordan เขาเริ่มต้นอาชีพได้ดี ซึ่งเขาได้ขึ้นโพเดียมตั้งแต่สนามที่ 3 เท่านั้น แต่เมื่อทีมผลงานดรอปลงในปี 1998 เขาก็เริ่มมองหาจุดหมายถัดไป

    จุดแตกหักนั้นดูเหมือนจะมาในการแข่งขันที่เบลเยียม ที่ซึ่งทางทีมเข้าเส้นชัยแบบ 1-2 แต่เป็น Ralf ที่ถูกสั่งจากทีมไม่ให้แซง Damon Hill เพื่อไม่ให้มีเหตุผิดพลาดเกิดขึ้น

    Michael Schumacher ที่ชายของ Ralf นั้นไม่แฮปปี้เช่นกัน เขาได้เข้าพูดคุยเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อ Eddie Jordan เจ้าของทีม

    ต่อมาผู้จัดการของ Ralf ได้แถลงข่าวว่านักแข่งเยอรมันจะออกจากทีม และพวกเขามีกำหนดการพิจารณาคดีในศาลจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญา แต่สิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เมื่อข้อยกเว้นในสัญญามูลค่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ได้ถูกจ่ายโดย Michael เพื่อพาน้องชายของเขาออกมาและย้ายไปอยู่กับ Williams แทน ที่ซึ่ง Ralf คว้าชัยชนะได้ 6 ครั้ง และเป็นชัยชนะทั้งหมดใน F1 ของเขา

     

    Alain Prost – Renault

    Alain Prost

    Alain Prost ถูกปลดจาก Ferrari ในปี 1991 นั้นเป็นตัวอย่างที่ดีของการอยู่ไม่ครบสัญญาเนื่องจากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แต่นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่นักแข่งเฟรนช์ถูกปลดก่อนหมดสัญญา สิ่งนี้เกิดขึ้นกับเขา 8 ปีก่อนที่จะถูก Ferrari ปลด โดยในครั้งนั้นเป็น Renault ทีมแข่งสัญชาติเดียวกันกับเขา

    Prost นั้นมีสัญญากับ Renault ในปี 1984 แต่เขาแยกทางกับทีมไปเข้าร่วมกับ McLaren ในปีนั้นแทน โดย Prost และต้นสังกัดมีการกระทบกระทั่งในการทำงานกันเบื้องหลังซึ่งเรื่องมันแดงออกมาในเบื้องหน้าอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งเจ้าตัวพลาดแชมป์โลกในปี 1983 ไปให้กับ Nelson Piquet ณ จุดนั้นทุกคนรู้ว่าเขาและต้นสังกัดจะต้องแยกทางกันถึงแม้ว่าจะยังคงมีสัญญาอยู่

    ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม Prost ได้ย้ายไปเข้าสังกัด McLaren ในปี 1984 โดยที่ยังคงมีสัญญาติดพันอยู่กับ Renault กลับกลายเป็นว่าทีมแข่งจากฝรั่งเศสยังต้องจ่ายค่าเหนื่อยให้กับนักแข่งเฟรนช์ในปี 1984 ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ขับให้กับทีมแล้ว

    “Renault ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ และพวกเขาลงเอยด้วยภาระผูกพันตามสัญญาที่ยังคงอยู่” Ron Dennnis ทีมบอส McLaren ในตอนนั้นกล่าว “ในตอนนี้ผมพูดได้แล้วว่า Renault คือผู้ที่จ่ายค่าเหนื่อยใก้กับ Alain ในปี 1984 ซึ่งมันเป็นการต่อรองที่น่าสนใจทีเดียว”

     

    Heinz-Harald Frentzen – Jordan

    Heinz-Harald Frentzen

    ในตอนที่ Heinz-Harald Frentzen เกือบมีโอกาสที่จะได้เป็นแชมป์โลกในปี 1999 ไม่มีใครคาดคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะจบลงในปี 2001 หลังจากที่ผ่านไปเพียง 11 เรซ เท่านั้น ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะมีออพชั่นสัญญาต่อในปี 2002 แต่เขากลับได้รับแฟกซ์ที่แจ้งว่าเขาถูกไล่ออกก่อนการแข่งขัน German Grand Prix รายการในบ้านเกิดของเขาเอง

    Jordan กล่าวว่า ความผิดหวังในผลงานของนักแข่งเยอรมันก็เป็นเหตุผลหนึ่ง แต่ในตอนหลังเขายอมรับว่า ถึงแม้ว่าผลงานของ Frentzen จะต่ำกว่ามาตรฐาน แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการที่จะไล่นักแข่งเยอรมันออก ที่เขาต้องทำเป็นเพราะเขาต้องการใช้เครื่องยนต์ Honda ซึ่งทางค่ายผู้ผลิตจากญี่ปุ่นต้องการให้ทางทีมเซ็นสัญญากับ Takuma Sato นักแข่งญี่ปุ่น

     

    Fernando Alonso – Ferrari

    Fernando Alonso

    เมื่อ Fernando Alonso เข้าร่วมทีม Ferrari ในปี 2010 ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่านี่คือการจับคู่ที่ดีที่สุดในตอนนั้น และชั่วเวลาหนึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อนักแข่งสแปนิชเกือบที่จะคว้าแชมป์โลกได้ในปี 2010 และ 2012 อย่างไรก็ตามการเริ่มต้นที่ย่ำแย่ของทีมในปี 2014 กับยุคใหม่ของเครื่องยนต์ไฮบริด ทำให้นักแข่งจากสเปนและทีมแข่งจากอิตาลีต้องหย่าขาดจากกัน

    Alonso นั้นมีสัญญากับทีมถึงปี 2016 แต่ด้วยความไม่ลงรอยกับทีมบอส Marco Mattiacci สัญญาดังกล่าวนั้นก็ไม่บรรลุผล

    ทางด้าน Mattiacci เองนั้นก็ไม่แฮปปี้เช่นกันที่เขารู้ว่า Alonso นั้นกำลังมองหาทีมอื่นอยู่ ถึงแม้ว่าทางทีมเองก็กำลังเล็ง Sebastian Vettel ไว้ก็ตาม

    เมื่อมีข่าวออกมาว่า Ferrari ได้บรรลุข้อตกลงในทางหลักการกับ Vettel, Alonso จึงเลือกที่จะเดินออกจากทีมไปเอง ก่อนที่เขาจะถูกประกาศตัวเป็นนักแข่งสังกัด McLaren ในปี 2015 ซึ่งเรารู้ดีกันว่ามันลงเอยเช่นไร

     

    Valtteri Bottas – Williams

    Valtteri Bottas

    Valtteri Bottas นั้นกำลังจะลงแข่งขันฤดูกาลที่ 5 กับ Williams แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกอย่างนั้นพลิกผันไปหมด จากการที่ Nico Rosberg นักแข่งสังกัด Mercedes ประกาศแขวนพวงมาลัยทันทีหลังจากคว้าแชมป์โลก

    Bottas นั้นมีผลงานที่ยอดเยี่ยมกับ Williams บวกกับการที่ Toto Wolff ทีมบอส Mercedes นั้นเป็นผู้จัดการของเขา นั่นทำให้นักแข่งฟินน์กลายเป็นตัวเลือกหมายเลข 1 ในการแทนที่ Rosberg ที่เดินจากไป ปัญหาก็คือ Bottas นั้นอยู่ภายใต้สัญญากับ Williams และทีมแข่งสหราชอาณาจักรฯ ไม่ต้องการที่จะปล่อยตัวนักแข่งฟินน์ออกไป โดยที่ไม่ได้รับการชดเชย

    ในท้ายที่สุด Williams ได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวน 10 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ส่งผลให้ Williams มีตัวเลขออกมาเป็นผลกำไรในปี 2016

     

    Kimi Raikkonen – Ferrari

    Kimi Raikkonen

    คนนี้น่าจะเป็นตัวจี๊ดสุดแล้วในลิสต์ของเรา Kimi Raikkonen เริ่มต้นอาชีพกับการเป็นนักแข่ง Ferrari ได้ดี เขาชนะได้ตั้งแต่สนามแรกที่ร่วมงานกับทีม และคว้าแชมป์โลกได้ตั้งแต่ปีแรกภายใต้เสื้อสีแดง อย่างไรก็ตามด้วยเหตุการณ์ดราม่าหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในปี 2008 และศักยภาพของทีมที่ดรอปลงในปี 2009 นักแข่งฟินน์ก็ได้ออกจากทีมไปหลังจบปีนั้น

    ประเด็นก็คือ Raikkonen นั้นพึ่งต่อสัญญากับทีมออกไปถึงปี 2010 ต้องขอบคุณชัยชนะในสปาที่ทำให้ออพชั่นการต่อสัญญาได้ถูกเปิดใช้งาน แต่ ณ จุดนั้น Ferrari ได้จ้องจะดึงตัว Fernando Alonso มาเข้าทีมอย่างเป็นจริงเป็นจัง

    ด้วยความช่วยเหลือจาก Santander สปอนเซอร์ส่วนตัวของ Alonso ค่ายม้าลำพองก็ได้เซ็นสัญญาให้นักแข่งสแปนิชลงแข่งให้กับทีมในปี 2010 และจ่ายเงินค่าตัวให้กับ Raikkonen เพื่อ “ไม่ให้เขาลงแข่งขัน” ถึงแม้ว่าจะมีสัญญากับทีม

    นั่นก็คือ ในปี 2010 Raikkonen ได้ออกจาก F1 ไปแข่ง Rally และก็ได้รับค่าเหนื่อยเป็นจำนวน 25 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยที่ไม่ต้องแข่งขัน F1 สักสนามเลย ซึ่งเจ้าตัวได้ออกไปหาความสุขกับการแข่งรถ Rally อยู่ 2 ปี ก่อนที่จะกลับเข้าวงการ F1 อีกครั้งในปี 2012 กับ Lotus

    อ้างอิง : the-race.com


    บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts