More

    ถึงจะเริ่มฟื้นตัวแต่ตลาดรถยนต์พฤศจิกายนยังลดลงเพียง 3.2% อยู่ที่ 71,716 คัน

    รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2564 ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องในทุกเซ็กเมนท์ โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 71,716 คัน แต่มีอัตราการหดตัวที่ลดลงเพียง 3.2%ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 23,793 คัน เพิ่มขึ้น 5.9% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 47,923 คัน ลดลง 7.2% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 38,550 คัน ลดลง 5.6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    ประเด็นสำคัญ

    ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2564 มีปริมาณการขาย 71,716 คัน ลดลง 3.2% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 5.9% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 7.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากภาวะการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังคงเกิดขึ้นทั่วประเทศ ส่งผลกระทบและเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ตลอดจนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการท่องเที่ยว และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผู้บริโภคยังคงชะลอการตัดสินใจซื้อ และรัดกุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรอจังหวะการใช้จ่ายที่เหมาะสม

    ตลาดรถยนต์ในเดือนธันวาคมมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลดีต่อการประกอบธุรกิจต่างๆ และประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับในสภาวะปกติ ทั้งนี้ยังเป็นการลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว โดยสถานการณ์ตลาดรถยนต์จะขยับตัวดีขึ้น สืบเนื่องจากทุกค่ายรถยนต์ต่างแข่งขันกันนำเสนอแคมเปญส่งเสริมการขายในช่วงสิ้นปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากถึง 1,151,540 คน และยอดจองรถยนต์ในงานมากถึง 31,583 คัน ไม่นับรวมยอดจองรถยนต์ตามโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทุกยี่ห้อทั่วประเทศ ภายใต้ข้อเสนอพิเศษ “เงื่อนไขเดียวกับมอเตอร์โชว์” เป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อรถยนต์ของลูกค้าได้อย่างสัมฤทธิ์ผล แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย เป็นปัจจัยลบต่อสถานการณ์ตลาดรถยนต์และสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ต้องจับตามองต่อไป

     

    ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตพฤศจิกายน 2564

    1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 71,716 คัน ลดลง 3.2% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    อันดับที่ 1 โตโยต้า    23,168 คัน       ลดลง         9.9%        ส่วนแบ่งตลาด 32.3%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ       18,419 คัน       เพิ่มขึ้น       7.2%         ส่วนแบ่งตลาด 25.7%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า       8,624 คัน      ลดลง         4.3%         ส่วนแบ่งตลาด 12.0%

    1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 23,793 คัน เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    อันดับที่ 1 ฮอนด้า  8,062 คัน            เพิ่มขึ้น       11.5%         ส่วนแบ่งตลาด 33.9%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า 6,304 คัน            เพิ่มขึ้น        0.9%         ส่วนแบ่งตลาด 26.5%

    อันดับที่ 3 ซูซูกิ       2,242 คัน         เพิ่มขึ้น      11.7%         ส่วนแบ่งตลาด  9.4%

    1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 47,923 คัน ลดลง 7.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    อันดับที่ 1 อีซูซุ       18,419 คัน        เพิ่มขึ้น       7.2%   ส่วนแบ่งตลาด 38.4%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า    16,864 คัน        ลดลง       13.4%  ส่วนแบ่งตลาด 35.2%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด        2,859 คัน        เพิ่มขึ้น       7.9%   ส่วนแบ่งตลาด  6.0%

    1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถ PPV*) ปริมาณการขาย 38,550 คัน ลดลง 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    อันดับที่ 1 อีซูซุ     16,956 คัน         เพิ่มขึ้น     5.9%     ส่วนแบ่งตลาด 44.0%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า 14,888 คัน          ลดลง     10.4%     ส่วนแบ่งตลาด 38.6%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด    2,859 คัน           เพิ่มขึ้น     7.9%      ส่วนแบ่งตลาด  7.4%

    *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) 5,410 คัน โตโยต้า 2,338 คัน – อีซูซุ 1,734 คัน – มิตซูบิชิ 651 คัน – ฟอร์ด 482 คัน – นิสสัน 205 คัน

    1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 33,140 คัน ลดลง 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    อันดับที่ 1 อีซูซุ       15,222 คัน        ลดลง        4.5%    ส่วนแบ่งตลาด 45.9%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า 12,550 คัน          ลดลง        9.3%    ส่วนแบ่งตลาด 37.9%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด      2,377 คัน         เพิ่มขึ้น      8.1%    ส่วนแบ่งตลาด  7.2%

     

    สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2564

    1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 668,109 คัน ลดลง 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    อันดับที่ 1 โตโยต้า 212,573 คัน        เพิ่มขึ้น        0.7% ส่วนแบ่งตลาด 31.8%

    อันดับที่ 2 อีซูซุ     165,359 คัน        เพิ่มขึ้น        4.5%  ส่วนแบ่งตลาด  24.8%

    อันดับที่ 3 ฮอนด้า  77,136 คัน          ลดลง          7.0%  ส่วนแบ่งตลาด 11.5%

    1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 219,883 คัน ลดลง 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    อันดับที่ 1 ฮอนด้า  68,123 คัน          ลดลง        1.3%    ส่วนแบ่งตลาด 31.0%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า 55,056 คัน          ลดลง        7.2%    ส่วนแบ่งตลาด 25.0%

    อันดับที่ 3 มาสด้า 18,603 คัน            ลดลง       12.9%   ส่วนแบ่งตลาด  8.5%

    1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 448,226 คัน ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    อันดับที่ 1 อีซูซุ       157,517 คัน     เพิ่มขึ้น       3.8%   ส่วนแบ่งตลาด 35.1%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า   165,359 คัน      เพิ่มขึ้น       4.5%   ส่วนแบ่งตลาด 36.9%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด      28,212 คัน       เพิ่มขึ้น     11.7%  ส่วนแบ่งตลาด  6.3%

    1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ PPV*) ปริมาณการขาย 350,691 คัน ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    อันดับที่ 1 อีซูซุ       150,272 คัน       เพิ่มขึ้น        2.3% ส่วนแบ่งตลาด 42.9%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า   134,768 คัน       เพิ่มขึ้น        4.1% ส่วนแบ่งตลาด 38.4%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด     28,212 คัน          เพิ่มขึ้น      11.7% ส่วนแบ่งตลาด  8.0%

    *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (PPV) 45,744คัน โตโยต้า 20,403 คัน – อีซูซุ 14,449 คัน – มิตซูบิชิ 5,747 คัน – ฟอร์ด 4,318 คัน – นิสสัน 827 คัน

    1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 304,947 คัน ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    อันดับที่ 1 อีซูซุ     135,823 คัน         ลดลง          4.1%  ส่วนแบ่งตลาด 44.5%

    อันดับที่ 2 โตโยต้า 114,365 คัน         เพิ่มขึ้น        1.7%  ส่วนแบ่งตลาด 37.5%

    อันดับที่ 3 ฟอร์ด    23,894 คัน         เพิ่มขึ้น      15.0%   ส่วนแบ่งตลาด  7.8%

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts