More

    BYD เซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินนิคมระยองตั้งโรงงานประกอบรถในไทย

    ในที่สุด BYD ค่ายรถยนต์พลังงานทางเลือกยักษ์ใหญ่จากจีนประกาศเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินครั้งใหญ่กับ WHA Group อย่างเป็นทางการ

    WHA

    เรียกว่าเป็นข่าวใหญ่ของวงการรถยนต์เมืองไทยเมื่อ BYD ประกาศลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินครั้งใหญ่กับทางบริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในเครือ WHA Group ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมลำดับที่ 11 โดยนิคมฯแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จำนวน 600 ไร่ ถือเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปีของกลุ่ม WHA เลยก็ว่าได้

    WHA

    สำหรับนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 เป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 1,281 ไร่ ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ใกล้ทางหลวงหมายเลข 36 และ 3375 ในจังหวัดระยอง และห่างจากท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุดเพียง 25 กม. ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง 31 กม. และสนามบินอู่ตะเภา 23 กม. เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมล่าสุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร การคมนาคมขนส่ง การรักษาความปลอดภัย การควบคุมด้านสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการผลิตและการบำบัดน้ำเสีย และเช่นเดียวกับนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ของ WHA ในไทย เน้นให้เห็นถึงกลยุทธ์ในการสนับสนุนโครงการอีอีซี และดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve Industry) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่

    ข้อตกลงการซื้อขายที่ดินครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย ปัจจุบัน บีโอไอได้อนุมัติโครงการยานยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว 26 โครงการจาก 17 บริษัท คิดเป็นยอดกำลังการผลิตรถไฟฟ้า 830,000 คัน และคาดการณ์ว่าภายในต้นปี 2023 ประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนหนึ่งล้านคัน และภายในปี 2033 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมีสัดส่วน 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของประเทศไทย หรือ 700,000 คันต่อปี

    BYD

    สำหรับรถยนต์รุ่นแรกของค่าย BYD ที่จะประกอบในไทยนั่นคือ BYD ATTO 2 หรือ BYD Dolphin รถกลุ่ม B-Car ทรงท้ายตัด 5 ประตู สร้างขึ้นจากแพลตฟอร์ม BYD e-platform 3.0 ด้วยหน้าตาที่ทันสมัยด้วยสีทูโทน พร้อมภายในที่กว้างสบายแบบ 5 ที่นั่ง พร้อมขุมพลังไฟฟ้าล้วน​ สามทางเลือก​ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น​ ความจุแบต​30.7 kWh​ 95​ แรงม้า​ แรงบิด​ 180​ นิวตันเมตร​ วิ่งไกลสุด​ 301 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง​ (NEDC)​ รุ่นรองท็อปเพิ่มความจุแบตเป็น 44.9 kWh  95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 405 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC)

    ปิดท้ายด้วยรุ่นท็อปสุดที่ความจุแบตเท่ากับรุ่นรองท็อป (44.9 kWh) แต่ให้พลังมอเตอร์ไฟฟ้ามากสุด 177 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 401 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC) ทุกความจุแบตเตอรี่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ permanent magnet synchronous motor ขับเคลื่อนล้อหน้า

    BYD

    สามารถชาร์จได้ทั้งขาร์จช้า AC charging (on-board) รองรับกำลังไฟสูงสุด​ 7 kW ส่วนชาร์จเร็ว DC fast charging ใช้เวลา 30 นาที ในการชาร์จจาก 30-80% รองรับสูงสุด 60 kW ส่วนรุ่นเริ่มต้นนั้นรองรับกำลังไฟสูงสุด 40 kW แต่ชาร์จเร็วได้ 30 นาทีในการชาร์จจาก 30-80%

    BYDโดยโรงงาน BYD ในไทยเป็นโรงงานประกอบรถยนต์พวงมาลัยขวาแบบ xEV แห่งแรกในอาเซียนทั้งแบบรถ EV และรถ Plug In Hybrid เพื่อขายในประเทศและส่งออกในกลุ่มอาเซียนกับยุโรปด้วยกำลังการผลิตจำนวน 150,000 คันต่อปี ด้วยมูลค่าการลงทุน 17,891 ล้านบาท จากการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2024 แต่เตรียมพบกับ BYD ATTO 3 ในวันที่ 10 ตุลาคมที่จะถึงนี้ผ่านทาง เรเว่ ออโตโมทีฟ (Rêver Automotive Company Limited)

     

    ที่มา WHA Group

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts