หลังจากที่กลุ่ม เรเว่ ส่งรถยนต์ไฟฟ้า BYD เวอร์ชันส่วนบุคคลหลากรุ่นจนยอดขายมาแรงเป็นที่หนึ่งและยังขยายมาสู่กลุ่มเพื่อการพาณิชย์นำทัพโดย BYD e6
BYD e6 เจเนอเรชันที่สองเปิดตัวในไทยตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งต้องย้อนอดีตกันสักนิด เจเนอเรชันแรกเปิดตัวต้นปี 2015 จากผู้จำหน่ายรายเก่าอย่าง Loxley เน้นทำกลุ่ม Fleet จนมาถึงยุคของกลุ่ม ชาริช โฮลดิ้ง ทำตลาดมาตั้งแต่ปลายปี 2017 และเกิดศึกเจ้าอื่นๆอยากขาย BYD ก่อนมาถึงมือ สยาม แอดวานซ์ เทคโนโลยี รีเลชั่นชิป ตั้งแต่ปี 2020 และเปลี่ยนชื่อมาเป็น เรเว่ คอมเมอร์เชียล วีฮิเคิลส์ (Rêver Commercial Vehicles) ในปัจจุบัน
เอ็มพีวีทรงกล่อเป็นฝาแฝด BYD Song MAX ภายนอกที่สวยงามด้วย ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ธรรมดา พร้อมไฟ DRL แบบ LED รูปตัว C ในโคมเดียวกัน พร้อมกระจังหน้าแนวนอนโครเมียมติดตรา BYD เวอร์ชันเก่า กันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยม
ด้านข้างหรูด้วยกรอบกระจกโครเมียมโดยมีคำว่า Space อยู่ตรงใต้กระจกใกล้เสา D กระจกมองข้างทรงสปูนสีเดียวกับตัวรปรับด้วยไฟฟ้า ที่เปิดประตูดึงก้าน ด้านท้ายติดตรา BYD ไฟท้าย LED ติดขอบโครเมียมเรียบเนียนเชื่อมสองฝั่งลงตัวด้วยกันชนหลังทรงหรูมีไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED มาด้วย ฝาท้ายล็อกรถด้วยระบบไฟฟ้า และล้ออัลลอยลายเข้มขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R17
มาพร้อมขนาดตัวถังความยาว 4,695 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,810 มิลลิเมตร สูง 1,670 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,800 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 145 มิลลิเมตร น้ำหนัดรถ 1,930 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับเจนที่แล้วพบว่าเจนใหม่นี้ใหญ่กว่าเกือบทุกมิติ ยาวกว่า 135 มิลลิเมตร ความกว้างแคบลง 12 มิลลิแมตร ความสูงเพิ่มขึ้น 25 มิลลิเมตร ฐานล้อสั้นลง 30 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถเบากว่าเดิม 490 กิโลกรัม
ภายในเน้นการใช้งานจริงๆออปชันบางรายการหายไปเน้นของจำเป็นเท่านั้นตั้งแต่ คอนโซลหน้าสีดำ ลายไม้สีดำเงาผสมขอบสีเงิน โดดเด่นพร้อมมาตรวัดสี TFT 5 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านหุ้มด้วยวัสดุยูรีเทน ปรับได้สี่ทิศทางปรับสูงต่ำและเข้าออกได้
หน้าจอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว สามารถหมุนปรับจากแนวนอนเป็นแนวตั้งได้ แต่ต้องปรับด้วยมือออกแรงสักนิด สามารถเชื่อม Bluetooth อย่างเดียวไม่สามารถเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto กับลำโพง 4 จุด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ ช่องแอร์หลัง และมีระบบกรองอากาศ CN95 ที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ และมีที่เสียบ USB ช่องวางแก้ว ช่องใส่ของรอบคัน กุญแจรถเป็นแบบ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start ใช้แป้นเกียร์และเบรกมือแบบสวิตช์ไฟฟ้าในชุดคอนโซลกลางพร้อมที่วางแขนหุ้มหนังสังเคราะห์สีดำ
เบาะแบบ 5 ที่นั่ง เบาะหนังสังเคราะห์สีดำเดินด้ายขาวปรับด้วยมือ ฝั่งคนขับและคนนั่งปรับสูงต่ำได้ 6 ทิศทาง และเบาะหลังสีดำพื้นที่บรรทุกสัมภาระ 580 ลิตร และต้องขอแสดงความเสียใจกับลูกค้าที่จะขนสมาร์ตทีวีจอใหญ่หรือของใหญ่มหึมาและเรียกรถแท็กซี่คันนี้ไปส่งปลายทางเพราะรถคันนี้ไม่สามารถปรับพับเบาะหลังได้ พร้อมช่องเก็บของที่ยังให้ยางอะไหล่แบบ Steel Wheel พร้อมยาง T135/80 R17 ซุกไว้นับเป็นจุดดีถ้าเกิดเหตุยางแตกสามารถเปลี่ยนได้ทันที
คันนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า permanent magnet synchronous motor ด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาด 71.7 kWh ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตันเมตรให้ความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ไกลต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 520 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTC
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed มีโหมดการขับขี่สองโหมดทั้ง ECO และ Sport (เจนที่แล้ว 136 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร จากความจุแบตเตอรี่ 80 kWh วิ่งไกลกว่า 400 กิโลเมตร ชาร์จ DC 0-100% 1.5 ชั่วโมงและความเร็วสูงสุด 149 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ชาร์จได้สองรูปแบบทั้งชาร์จกระแสตรง DC แบบ CCS2 รองรับกำลังไฟสูงสุด 60 kW ใช้เวลา 1.5 ชั่วโมง และ กระแสสลับ AC รองรับกำลังไฟสูงสุด 6.6 kW แบบ Type2 ใช้เวลาการชาร์จ 12.5 ชั่วโมง
ด้วยตัวรถมาในแนวเอ็มพีวีหลังคาสูงทำให้การขับขี่มองชัดเจนทุกมิติทุกมุมไม่ว่าจะทางซ้ายหรือขวาแม้จะมีกระจกเสา A เล็กๆเข้ามาก็ตามการขับขี่ใช้งานดี เร่งแซงอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจกดเป็นมาๆ เพราะถ้าไม่ดีจริงเหล่าบรรดาผู้ประกอบการ สหกรณ์เช่าแท็กซี่ใช้อึดทนทายาดเพราะแบตเตอรี่แบตเตอรี่ทรงใบมีดหรือ Blade Battery ออกแบบให้บางและยาว มีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดการลุกไหม้และอึดทุกๆการใช้งานจะวิ่งเป็นหมื่นเป็นแสนก็ไม่ต้องกังวล พร้อมระบบชาร์จกลับในตัว Brake energy re-generation สามารถปรับกรชาร์จกลับได้สามระดับ
ช่วงล่างเป็นอิสระสี่ล้อด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut และด้านหลังแบบ Multi-Link ให้ความนุ่มนวลไม่เด้งไม่ดีดแม้ว่าจะเจอสภาพถนนทั้งเรียบและขุรขระ พวงมาลัยไฟฟ้า EPS (Electronic power steering) พร้อมรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.65 เมตร น้ำหนักดีเลี้ยวง่ายคล่องตัวไม่ว่าจุดกลับรถจะแคบกว้างยังไงคันนี้ชิวๆ ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกสี่ล้อ ทำงานค่อนช้างไว ไม่ไถลไปโดนคันหน้า
ปิดท้ายด้วย EV Save Mode ด้วยการวิ่งเพื่อหาอัตราสิ้นเปลืองครั้งนี้ไปถึง พัทยา จังหวัดชลบุรีด้วยระยะทาง 177 กิโลเมตร ชาร์จกลับทั้งหมด 36.400 kWh ให้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยทั้งหมด 4.87 กิโลเมตรต่อ kWh หรือ 20.53 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร โดยจ่ายค่าชาร์จไป 240.28 บาท (อ้างอิงราคาชาร์จ DC 1kWh = 7.70 บาท/ kWh จากค่าย PTT) ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 1.36 บาทต่อกิโลเมตร
ความปลอดภัยมาแบบพื้นฐานไม่มีตัวช่วยทั้ง ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ESP (Electronic stability program) ป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS) Traction Control System รักษาเสถียรภาพการทรงตัว (VDC) Vehicle Dynamic Control System ระบบป้องกันล้อล็อกตาย (ABS) Anti-lock Braking System ควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) Electronic Brake Force Distribution
ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS (Brake Override System) ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HAC) Hill-start assist control เสริมแรงเบรกแบบไฮดรอลิก HBA (Hydraulic Brake Assist) กล้องมองภาพด้านหลัง เซนเซอร์ช่วยจอดด้านหลัง 4 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัยทั้งหมดสี่จุดทั้งคู่หน้าฝั่งคนขับและผู้โดยสารและด้านข้างฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ตรวจวัดลมยาง TPMS (Tire pressure monitoring system และเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electrical park brake) พร้อม Auto Hold
ด้วยราคาตัวรถจากเดิม 1,390,000 บาท เหลือ 1,135,900 บาท เป็นราคาหลังหักส่วนลดของรัฐ มาพร้อมสีภายนอกสามสีทั้งสีดำ Doctor Black (คันที่ลงรีวิว) สีขาว Crystal White และสีฟ้าหลังคาดำ Blue Color ถ้าไม่ติดใจว่าคันนี้ให้ออปชันประจำรถให้มาแบบพอเพียงไม่หวือหวาเน้นการใช้งานแบบจริงจัง อึด ถึก ทน ใช้งานดีไม่ว่าจะใช้ส่วนตัวใช้รับจ้าง หรือขนส่ง คันนี้เหมาะสมสุด
ล่าสุดจัดโปรโหดลดราคาจากเดิม 145,900 บาท เหลือ 990,000 บาท ถึงสิ้นเดือนเมษายน มาพร้อมแพคเกจ RÊVER Care รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท ประกอบด้วย
- ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. ระยะเวลา 1 ปี*(ประกับภัยรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับใช้งานส่วนบุคคลเท่านั้น รหัสประกันภัย 110)
- ฟรี! สายชาร์จเคลื่อนที่ AC Portable Charger
- ฟรี! พรมเข้ารูป กรอบป้ายทะเบียน ฟิล์มหน้าจอ
- พิเศษ! ดอกเบี้ยพิเศษ 1.98% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน
- พิเศษ! รับประกันตัวรถ (Warranty) 6 ปี หรือ 150,000 กม.
- สิทธิพิเศษการรับประกันเซลล์แบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับใช้งานส่วนบุคคลเท่านั้น)
- สิทธิพิเศษการรับประกันอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับชุดแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
- สิทธิพิเศษการรับประกันมอเตอร์ 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
