More

    Ford Ranger/Everest/Ranger Raptor เจนใหม่ 3 รุ่นแกร่งเผยครั้งแรกในไทย

    Ford เผยโฉม Ford Ranger/Everest/Ranger Raptor เจนใหม่ อัดแน่นด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีอันเหนือชั้น พร้อมสร้างความตื่นเต้นให้ชาวไทย

    Ford

    การเผยโฉม Ford Ranger Ford Everest Ford Ranger Raptor เจนใหม่ พร้อมกันเป็นครั้งแรกของโลกที่งาน Bangkok Motor Show 2022 นับเป็นการฉลองก้าวใหม่แห่งความสำเร็จของการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เราทุกคนที่ฟอร์ดตื่นเต้นมากเราได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถกระบะและเอสยูวีในประเทศไทยทุกครั้งที่เราเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้วยสมรรถนะ ความสามารถ และการตอบสนองต่อการใช้งาน แบบอเนกประสงค์ตรงกับที่ลูกค้ามองหา

    Ford

    Ford Ranger เจนใหม่ รถกระบะที่ชาญฉลาดที่สุด อเนกประสงค์ที่สุด และสมบุกสมบันที่สุด ได้รับการพัฒนาให้เป็นรถคู่ใจของลูกค้าที่สามารถไว้วางใจได้ในทุกเส้นทางของชีวิต เป็นรถที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ขบขี่ออกไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่แบบไม่มีขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การใช้ชีวิตกับครอบครัว หรือการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน อัดแน่นด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าใช้ชีวิตแบบ ‘Live the Ranger Life’ ได้อย่างเต็มที่ด้วยรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและปราดเปรียว ก้าวข้ามขีดจำกัดของการออกแบบภายนอกแบบเดิมๆ ด้วยกระจังหน้าโฉมใหม่อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และไฟหน้าใหม่รูปตัว C เสริมภาพความดุดัน สะท้อนนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ อย่างชัดเจน และเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ดมาพร้อมไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี และบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลัง ทำให้การขึ้นกระบะท้ายสะดวกสบายยิ่งกว่าเคย และล้ออัลลอย 18 นิ้วพร้อมยาง 255/65R18

    Ford

    ตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานของลูกค้าได้อย่างเหนือชั้น ด้วยความกว้างที่เพิ่มขึ้นทำให้มีพื้นที่ระหว่างซุ้มล้อมากขึ้น กระบะท้ายจึงบรรทุกสัมภาระได้มากกว่าเคย พร้อมการออกแบบที่ช่วยให้ผู้ขับขี่จัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบได้หลากหลายรูปแบบและหลายขนาด และยังมีช่องจ่ายไฟในกระบะท้ายที่มาพร้อมช่องต่อไฟแบบ AC รองรับกำลังไฟถึง 400 วัตต์ ให้คุณใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่าง หม้อหุงข้าว หรือเตาอบขนาดเล็กได้ง่ายๆ เพียงเสียบปลั๊กกับตัวรถ

    Ford

    ภายในห้องโดยสารได้รับการปรับโฉมใหม่ให้สะดวกสบายไปอีกขั้น อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และฟังก์ชันการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ตกแต่งด้วยวัสดุที่หรูหรา และพื้นที่จัดเก็บสัมภาระมากกว่าเดิม แผงหน้าปัดใหม่ช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูกว้างขวาง หรูหรา ยังชาญฉาดยิ่งขึ้นด้วยระบบเชื่อมต่อการสื่อสารที่ช่วยให้คุณควบคุมและใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้สะดวกกว่าเดิมผ่านหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว ที่เชื่อมกับกล้อง 360 องศา รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® ซึ่งเป็นระบบความบันเทิงรุ่นล่าสุดของฟอร์ด และแผงหน้าปัดดิจิทัลใหม่ที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยการแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถอย่างเต็มรูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้งาน

    Ford

    สำหรับสเปคไทย Ford Ranger เจนใหม่ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2 ตัวเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร 210 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที หรือเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร 170 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที ทำงานคู่กับเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ด้วยโครงสร้างและกันชนอันแข็งแกร่ง บนฐานล้อที่มีความยาว และความกว้างเพิ่มขึ้นอีก 50 มิลลิเมตร พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือตะลุยเส้นทางสุดสมบุกสมบัน นับเป็นครั้งแรกที่ มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 6 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง  และบรรทุก  โหมดถนนลื่น โหมดโคลน และโหมดทราย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ก่อนหน้านี้มีเฉพาะใน Ford Ranger Raptor

    Ford

    Ford Ranger Wildtrak เจนใหม่ มาพร้อมตัวเลือกภายนอก 6 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีเหลือง ลักซ์ เยลโลว์ และสีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ ในราคาดังนี้

    – Wildtrak Double Cab 2.0 HR 6MT ราคา 999,000 บาท

    – Wildtrak Double Cab 2.0 HR 6AT ราคา 1,049,000 บาท

    – Wildtrak Double Cab 2.0 HR 10AT Bi-Turbo ราคา 1,159,000 บาท

    – Wildtrak Double Cab 2.0 10AT Bi-Turbo 4WD ราคา 1,299,000 บาท

    Ford

    Ford Ranger Sport เจนใหม่ มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอก 5 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว อาร์กติก ไวท์ และสีส้ม เซโดนา ออเรนจ์

    – Sport Double Cab 2.0 HR 6MT ราคา 929,000 บาท

    – Sport Double Cab 2.0 HR 6AT ราคา 964,000 บาท

    – Sport Double Cab 2.0 6AT 4WD ราคา 1,049,000 บาท

    Ford

    Ford Everest เจนใหม่รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่ผสานสมรรถนะเพื่อการผจญภัยเข้ากับความสะดวกสบายอันเหนือระดับ มาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อผู้ขับขี่มากมาย ทำให้รถคันนี้ครบครันทั้งความพร้อมลุย หรูหรา และขับสนุกในทุกการเดินทาง  ภายนอก มาพร้อมการออกแบบที่สมบุกสมบัน โดยที่ยังคงความเรียบหรู ระยะฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร และระยะระหว่างล้อหน้าและหลังที่เพิ่มขึ้น สร้างรูปลักษณ์ที่ดูล้ำสมัยและบึกบึนกว่าเดิม และยังมอบการควบคุมบนทางเรียบได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่การปรับแต่งโช้คอัพใหม่ช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่และช่วยให้การควบคุมรถทั้งบนทางเรียบและออฟโรดทำได้ง่ายกว่าที่เคย พร้อมล้ออัลลอย 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/55R20

    Ford

    ภายในห้องโดยสาร ให้ความรู้สึกกว้างขวาง แผงหน้าปัดดิจิทัลและคอนโซลกลางวางเต็มความกว้างของพื้นที่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายอาทิ แท่นชาร์จแบบไร้สาย และระบบเบรกมือไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 ออกแบบมาให้พับได้ราบสนิทเพื่อการบรรทุกสัมภาระขนาดยาวได้อย่างปลอดภัย เทคโนโลยีใหม่ยังทำให้ลูกค้าเชื่อมต่อการสื่อสารได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ผ่านหน้าจอระบบสัมผัสแนวตั้งความละเอียดสูงขนาดใหญ่ 10.1 หรือ 12 นิ้ว พร้อมแผงหน้าปัดดิจิทัล 8 หรือ 12.4 นิ้ว ยังมาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC 4A® เวอร์ชันล่าสุด รวมถึงการติดตั้งโมเด็มมาจากโรงงาน ทำให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับรถได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส™

    Ford

    มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2 ตัวเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร YN2Q 210 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที หรือเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร P02Q 170 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 6R80 และตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด 10R80 ด้วยโครงสร้างและกันชนอันแข็งแกร่ง บนฐานล้อที่มีความยาว และความกว้างเพิ่มขึ้นอีก 50 มิลลิเมตร พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือตะลุยเส้นทางสุดสมบุกสมบัน พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 6 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูงและบรรทุก โหมดถนนลื่น โหมดโคลน และโหมดทราย

    Fordมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะใหม่ๆ มากมาย เพื่อมอบความปลอดภัย ให้แก่ผู้ขับขี่และครอบครัว อาทิ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) 2.0  ช่วยให้เข้าจอดแบบอัตโนมัติได้ทั้งการจอดขนานและถอยเข้าช่องจอด ทำให้ผู้ขับขี่จอดรถในพื้นที่แคบได้อย่างปลอดภัยเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติใหม่จนกระทั่งรถหยุดนิ่ง (Adaptive Cruise Control with stop and go) เสริมความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ได้มากขึ้น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางผสานระบบตรวจจับขอบถนน ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง

    Ford

    Ford Everest รุ่น Titanium+ 4WD เจนใหม่ มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอก 6 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล เอควิน็อกซ์ บรอนซ์ และสีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ ในราคา 1,854,000 บาท มาพร้อมห้องโดยสารภายในโทนเข้มสีดำเป็นมาตรฐาน และโทนอ่อนสีครีมพราลีนเป็นตัวเลือกเสริม

    Ford

    Ford Everest รุ่น Sport เจนใหม่ มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอก 7 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล เอควิน็อกซ์ บรอนซ์, สีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ และสีน้ำเงิน บลู ไลท์นิ่ง ในราคา 1,464,000 บาท

    Ford

    Ford Ranger Raptor เจนใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ให้เป็นที่สุดแห่งรถกระบะที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น เพื่อควบคุมการทำงานของตัวถังที่แข็งแกร่งและเหนือชั้นยิ่งขึ้น ยกระดับสมรรถนะด้านออฟโรดให้เหนือมาตรฐานสำหรับผู้หลงใหลการขับขี่ออฟโรดตัวจริง พร้อมล้ออัลลอยลายโหด 17 นิ้ว  พร้อมยาง AT BF Goodrich K02 T285/70R17Ford

    ห้องโดยสารโฉมใหม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อคอออฟโรดตัวจริง การตกแต่งรายละเอียดด้วยสีส้ม ‘โค้ด ออเรนจ์’ ตามแบบฉบับของ Ford Performance บนแผงหน้าปัด การตัดขอบชิ้นส่วนหลักๆ ในห้องโดยสาร รวมถึงบนเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต ซึ่งจะดูโดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่อเปิดไฟส่องสว่างสีอำพันอบอุ่นภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งทั้งด้านหน้าและหลังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ F-22 Raptor มอบความกระชับและสบายในการเดินทางไม่ว่าจะบนทางเรียบหรือเส้นทางออฟโรด ทำงานด้วยระบบดิจิทัลทั้งหมด ด้วยแผงหน้าปัดความละเอียดสูงขนาด 12.4 นิ้ว และหน้าจอแบบสัมผัสตรงกลางขนาด 12 นิ้ว แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบความบันเทิงผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A®  อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อีกมากมาย อาทิ ช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด (Upfitter Switch) และหน้าจอแสดงผลสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด

    Ford

    อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่เพื่อพิชิตทุกเส้นทางออฟโรดสุดหฤโหด ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เป็นครั้งแรก มอบพละกำลังถึง 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบต่อนาทีและแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ปรับแต่งโดยทีม Ford Performance เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและเส้นทางออฟโรด ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ปรับจูนตามมาตรฐาน Ford Performance เครื่องยนต์ใหม่ จึงส่งกำลังการขับขี่ได้อย่างเต็มพิกัดทั้งบนทางกรวด ดิน โคลน และทราย ระบบไอเสียแบบแปรผันควบคุมไฟฟ้าครั้งแรกในรถกระบะ ช่วยให้ผู้ขับขี่ตั้งค่าเสียง ได้ด้วยระดับความดัง 4 โหมด ได้แก่ โหมดเงียบ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮา และมาพร้อม 7 โหมดการขับขี่ ประกอบด้วย โหมดปกติ โหมดสปอร์ตแ ละโหมดถนนลื่นสำหรับทางเรียบ และโหมดการขับขี่ออฟโรดอย่างโหมดหิน โหมดทราย โหมดโคลน และโหมดบาฮา

    เพื่อให้การขับขี่กลางทะเลทรายเป็นไปได้อย่างเต็มสมรถนะ ระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System – ALS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโหมดบาฮา จะรักษาการหมุนของเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ความเร็วสูงต่อไปอีกถึง 3 วินาที หลังจากผู้ขับขี่ปล่อยคันเร่ง รถจึงคืนความเร็วได้ทันใจขณะเร่งออกจากทางโค้ง หรือระหว่างการเปลี่ยนเกียร์

    Ford

    ทีม Ford Performance ยังร่วมมือกับ FOX™ ในการผสานการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในงานด้านวิศวกรรม และการทดสอบรถในสถานการณ์จริง เพื่อปรับแต่งการทำงานของสปริงไปจนถึงการกำหนดความสูง การปรับแต่งวาล์ว และการออกแบบระดับการยืด-ยุบของโช้ค เพื่อสร้างความสมดุลที่สมบูรณ์แบบที่สุด ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่ด้วยโช้คอัพ FOX แบบไลฟ์ วาล์ว Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ซึ่งล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยใช้ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ด้วยความสามารถในการปรับการทํางานได้แบบเรียลไทม โดยใช้เซ็นเซอร์รอบคัน ทําให้โช้คปรับค่าความหน่วงจากจุดปะทะต่างๆ ได้มากถึง 500 ครั้งต่อวินาที

    Ford Ranger Raptor เจนใหม่ มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอก 4 สีสุดเร้าใจ ได้แก่ สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว อาร์กติก ไวท์, สีส้ม โค้ด ออเรนจ์ และสีเทา คองเคอร์ เกรย์ ในราคาเริ่มต้นที่ 1,869,000 บาท

    Ford

    Ford Ranger เจเนอเรชันใหม่ จะผลิตที่โรงงาน ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) และโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง (เอฟทีเอ็ม) ในจังหวัดระยอง ส่วน Ford Ranger Raptor เจนใหม่ จะผลิตที่เอฟทีเอ็ม และ Ford Everest เจนใหม่ผลิตที่เอเอที พร้อมเปิดรับจอง ทางออนไลน์บนเว็บไซต์ www.ford.co.th ในงานมอเตอร์โชว์ และที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts