ในงาน Bangkok Motor Show 2023 ที่ผ่านมา BMW เปิดตัวรถใหม่ทีเดียวถึง 9 รุ่นด้วยกันไม่ว่าจะเป็นโมเดลใหม่ หรือรุ่นปรับโฉม LCI
ทั้งแบบสันดาปล้วน เสียบปลั๊ก และไฟฟ้าล้วน แต่ละรุ่นที่เปิดตัวโดนใจสาวกบีมเมอร์อย่างแน่แท้ รวมถึงการปรับโฉมครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี ของ BMW X7 LCI หรือรุ่นปรับโฉมที่เปิดตามหลังต่างประเทศมาเกือบปีด้วยดีไซน์ที่สง่างามถ่ายทอดผ่านปรัชญาการออกแบบล้ำสมัยเสริมรูปลักษณ์สปอร์ตทรงพลังด้วยชุดแต่ง M Sport ขณะที่ระบบท่อไอเสียในสไตล์ M Sport มอบเสียงเครื่องยนต์กังวานสอดประสานกับพละกำลังและความสง่างามของตัวรถ
รูปลักษณ์ภาพนอกประกาศถึงความทรงพลังบนท้องถนนด้วยกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ BMW Kidney ‘Iconic Glow’ ไฟหน้า Adaptive LED ดีไซน์เพรียวลงในชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ออกแบบช่องระบายอากาศให้ลงตัวด้วยขอบสีเงินรูปตัว U สะท้อนถึงความปราดเปรียวด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายเฉียบคม พื้นผิวตัวถังที่โดดเด่น เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบา BMW Individual ขนาด 23 นิ้ว ลาย V-spoke แบบสลับสีพร้อมยางหน้า 275/35 R23 และ ยางหลัง 315/30 R23
เติมบุคลิกความแรงอย่างลงตัวด้วยคาลิเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport ราวหลังคาดีไซน์เดิม ด้านท้ายคงรุ่นเดิมแต่ปรับในส่วนไฟท้าย LED ออกแบบใหม่เล่นกัดลายสวยดูดีแบบ 3 มิติ พร้อมกันชนหลังออกแบบใหม่พร้อมการ์ดเสริมใต้กันชนหลัง
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะนั่งแบบสามแถว รวม 6 ที่นั่ง ทุกที่นั่งสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า มอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยสำหรับเบาะที่นั่งตอนหน้ายังมาพร้อมกับระบบระบายอากาศและฟังก์ชันนวดผ่อนคลาย เบาะที่นั่งบุด้วยหนังแท้ Merino เนื้อละเอียดจาก BMW Individual ส่วนห้องเก็บสัมภาระท้ายรถมีปริมาตรความจุ 750 ลิตร และเพิ่มได้สูงสุดถึง 1,050 ลิตร เมื่อพับเบาะแถว 3 และแถว 2 ตามลำดับ
พร้อมชุดไฟ Ambient light สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร หลังคากระจกแบบ Panorama Sky Lounge เพิ่มความโปร่งอย่างโอ่อ่าเหนือระดับ หรูหราขึ้นไปอีกขั้นด้วยการตกแต่งห้องโดยสารด้วยลายไม้สีดำเงา ‘Fineline’ แบบ metal effect มอบความภูมิฐานสง่างาม ตกแต่งภายในด้วยผลึกแก้ว ‘CraftedClarity’
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 5 โซน แผงหน้าปัดแบบใหม่ที่มีช่องระบายอากาศและแถบไฟส่องสว่าง พร้อมลวดลายกราฟิก X7 ช่วยทำให้ห้องโดยสารดูทันสมัยและล้ำหน้าด้วยระบบดิจิทัล ดีไซน์สุดล้ำของคันเกียร์ยังช่วยเพิ่มความสง่างามให้กับภายในห้องโดยสาร
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังดีไซน์ M จอลอยตัวขนาดใหญ่ที่รวมเอาจอมาตรวัดและจอสัมผัสอยู่ในชุดเดียวกัน โดยมาตรวัดดิจิทัลมาขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วและจอสัมผัส 14.9 นิ้ว แบบ BMW Curved Display พร้อมระบบความบันเทิงและสื่อสารรุ่นล่าสุดอย่าง BMW Live Cockpit Professional พร้อม BMW ConnectedDrive และ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งสามารถควบคุมผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงได้อย่างง่ายดาย
มอบความสะดวกสบายตามความต้องการของผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง นอกจากนั้น ระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond ยังช่วยมอบสุนทรียศาสตร์แห่งเสียงคุณภาพระดับสตูดิโออีกด้วยแต่งานนี้ไม่มีจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังรุ่น Professional อีกสองจอ
ขุมพลังเดิมดีเซลเทอร์โบ 6 สูบพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo 3.0 ลิตร รหัส B57D30T2 340 แรงม้าที่ 4,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,250 รอบต่อนาที พร้อมโลดแล่นสู่ความเร็วสูงสุดที่ 243 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.9 วินาที
มาพร้อมระบบ Mild Hybrid ที่มีขนาด 48 โวลต์ ส่งกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 12 แรงม้า แรงบิด 20 นิวตันเมตรทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เพื่อมอบพละกำลังรวมสูงสุด 352 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 720 นิวตันเมตร ทำงานสอดประสานกับเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 สปีด
โดย Mild Hybrid จะใช้การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟ 48 โวลต์ เสริมพละกำลังการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ ส่งแรงทันใจโดยเฉพาะในช่วงออกตัวและจังหวะเร่ง ในขณะเดียวกันก็ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถลดไนโตรเจนออกไซด์ในไอเสียด้วยสาร AdBlue จึงสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่เร็วแรงทันใจและยังลดการปล่อยมลพิษได้อย่างเหนือชั้น
ช่วงล่างแบบถุงลมสามารถปรับระดับอัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive จึงมอบความนุ่มสบายเหนือระดับ การควบคุมที่เฉียบคม และความปราดเปรียวอันทรงพลัง ขณะที่ระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro เสริมความมั่นใจด้วยเสถียรภาพที่เหนือกว่าในทุกจังหวะการขับขี่
มอบความล้ำสมัยและความปลอดภัยยิ่งกว่าด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติและระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Professional อุ่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน ป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่
เตือนสถานะของยางเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง หรือ Park Distance Control (PDC) ควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) นอกจากนี้ยังมี Anti-lock Braking System (ABS) ป้องกันไม่ให้ล้อล็อกหรือหยุดหมุนขณะเบรก และควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ช่วยให้รถสามารถยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดีในทุกสภาวะการขับขี่
BMW X7 xDrive40d M Sport LCI ประกอบไทย มาให้เลือกในสามสี ได้แก่ สีดำ Black Sapphire Metallic, สีขาว Mineral White Metallic, และสีเทา Brooklyn Grey Metallic พร้อมตัวเลือกสีห้องโดยสารภายในแบบ Tartufo/Black (สีน้ำตาล/ดำ) และ Black/Black (สีดำ/ดำ) มาในราคา 6,599,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 200,000 บาท และเป็นรคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
