นอกจากจะมี Chery Omoda 5 เอสยูวีทรงสปอร์ตเตรียมที่จะบุกตลาดเมืองไทยแล้วยังมีอีกหนึ่งรุ่นที่จะเข้ามาพร้อมกัน นั่นคือ Chery Tiggo 8 PRO
สำหรับ Chery Tiggo 8 PRO เป็นเอสยูวีขนาดลกางพื้นฐานเดียวกับ Chery Tiggo 7 มีความเท่หรูหราจากกระจังหน้าลายเอกลักษณ์พร้อมไฟหน้า LED ทำงานอย่างเต็มรูปแบบพร้อมไฟ Daytime LED ในโคมเดียวกัน พร้อมกันชนหน้าออกแบบรับกับกระจังหน้าลงตัว ล้ออัลลอยลายเท่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/55 R18 และขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/50 R19 ราวหลังคา เสาอากาศครีบฉลาม กรอบกระจกโครเมียม
ด้านท้ายแบบเดียวกับรถยุโรปด้วยไฟท้าย LED ขนาดใหญ่ติดตรา Chery แบบ ตัวอักษรบนกรอบป้ายทะเบียน กันชนหลังติดตั้งกรอบท่อไอเสียคู่สองฝั่งและกรอบลิ้นสปอยเลอร์กันชนหลังแบบโครเมียม
ตัวรถมีมิติที่ใหญ่ทุกส่วนตั้งแต่ความยาว 4,722 มม. ความกว้าง 1,860 มม. ความสูง 1,745 มม. ฐานล้อ 2,710 มม. น้ำหนักรถ 1,587 กก. ในรุ่นสันดาปล้วนและ 1,769 กก. สำหรับรุ่น 8 PRO e+
ความหรูตามสไตล์ Chery ด้วยไฟแอมเบี่ยนไลท์lสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารถึง 7 สี เครื่องปรับอากาศแยกส่วน 3 โซน จอแสดงผลแบบคู่ 24.6 นิ้วแบ่งเป็นมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัล กับจอสัมผัสควบคุมระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่อทุกรูปแบบ รวมถึงจอ LCD 8 นิ้วใต้แผงแอร์สำหรับการทำงานของเครื่องปรับอากาศและการปรับทิศทางของเบาะนั่งรถ
พร้อมความสบายแบบ 7 ที่นั่ง ที่ตอนสองกับตอนสามสามารถพับได้แบบ 60:40 และ 50:50 ในตอนสาม โดยมีพื้นที่มาถึง 889-1,930 ลิตร และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่
ขุมพลังมีทั้งสันดาปล้วนกับเบนซินเทอร์โบ Acteco 1.6TGDI รหัส SQRF4J16 แรงสุด 197 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 290 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,000 รอบ/นาที กับขนาดใหญ่เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร Acteco รหัส SQRD4T20 แรงสุด 254 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 390 นิวตันเมตรที่ 1,750-4,000 รอบ/นาที
ทั้งสองขนาดคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ DCT 7 สปีด เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าทั้งรุ่น 1.6 และ 2.0 ลิตร และขับเคลื่อนสี่ล้อในรุ่น 2.0 ลิตร พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง ECO, Normal, Sport, Snow, MUD, Off Road
นอกจากนี้ยังมีขุมพลังเสียบปลั๊กหรือ Plug In Hybrid เบนซินเทอร์โบ Kunpeng 1.5 ลิตร SQRE4T15C 156 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,750-4,000 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า แบตเตอรี่ Ternary lithium battery 19.27 kWh
เมื่อทำงานร่วมกันได้กำลังสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิด 565 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ 100 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7 วินาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 3-speed DHT มีโหมดการทำงาน 9 โหมดในรุ่น Tiggo 8 PRO e+
พร้อมความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ L2+ ทั้งล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC adaptive cruise system, เตือนการออกจากเลน LDW lane departure warning, เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB automatic emergency braking system กล้องรอบคันแบบ 360 องศา Chery Tiggo 8 PRO พร้อมที่จะเข้าไทยช่วงปลายปีนี้แต่มีแนวโน้มที่จะเข้าด้วยขุมพลัง PHEV