ภายในงาน Shanghai Auto Show 2023 นอกจากจะมีการเปิดตัวเอสยูวีไฟฟ้าต้นแบบทั้ง Honda e:NP2 Honda e:NS2 และ Honda e:N SUV
ซึ่งต้นแบบทั้งสามรุ่นนี้เตรียมพัฒนาเป็นเวอร์ชันขายจริงตั้งแต่ปี 2024 แล้ว ในส่วนรถ Production Car หรือขายจริงมีน่าสนใจกันหลายรุ่นแต่สิ่งที่สะดุดตาและมีแนวโน้มเข้าขายที่ไทยนั่นก็คือ Honda Accord เจเนอเรชันที่ 11 ซึ่งจำหน่ายโดย GAC Honda โดยมาครับทั้งแบบสันดาปล้วนเทอร์โบ ไฮบริด e:HEV และปลั๊กอินไฮบริด e:PHEVซึ่งเป็นอีกทางเลือกของเก๋งหรูกับพลังเสียบปลั๊ก
หน้าตาคล้ายกันตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ทรงหกเหลี่ยมไส้ในรังผึ้งคล้าย Acura Integra ไฟหน้า LED แนวยาวในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตรวมถึงไฟท้าย LED แนวยาวล้อมฝาท้ายที่คล้ายๆรถยุโรปและสปอยเลอร์หลังดีไซน์เพรียวแบบเดียวกับ Honda Civic FE ช่วยให้รถคันนี้ดูดีขึ้นมาทันที ด้านข้างมีความสปอร์ตคล้าย Civic FE โดยเฉพาะเส้นสายที่ชายประตูล่างรวมถึงกระจกโอเปร่าสไตล์เด่นโดยภาพรวมอาจคล้ายรถทรง Fastback 5 ประตูทั้งๆที่ความจริงมันคือ 4 ประตูซีดานแต่ก็ยังคล้ายๆ Honda Accord เจนที่ 10
พร้อมล้ออัลลอยให้เลือกตั้งแต่ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/45R18 แต่สิ่งที่ต่างนั่นคือมีช่องชาร์จรถ และสัญลักษณ์ e:PHEV เข้ามา พร้อมไฟท้าย LED แนวยาวรมดำ กับสปอยเลอร์หลังสีดำเข้มดีไซน์ลงตัว ตัวรถใหญ่ตั้งแต่ความยาว 4,980 มม. ความกว้าง 1,860 มม. ความสูง 1,450 มม. ฐานล้อ 2,830 มม.
ภายในยังเผยภาพจอสัมผัสขนาดใหญ่แบบลอยตัว 12.3 นิ้ว รองรับ Android Auto Apple CarPlay รวมถึงอัปเดตออนไลน์ over-the-air มี Google ในตัว เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รองรับสตรีมมิ่งเพลง พอดแคสต์ และลำโพง BOSE 12 จุด และมีมาตรวัดดิจิทัล 10.2 นิ้ว โดยดีไซน์มาตรวัดจะคล้ายกับ Honda Civic FE ช่องแอร์มาในแนวรมดำ และมีนาฬิกาทรงกลมอยู่ใต้ช่องแอร์บริเวณคอนโซลกลาง และเกียร์แบบปุ่ม Shift by wire
ออปชันประจำรถทั้งระบบชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging การตกแต่งด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ ผิวสัมผัสหุ้มหนัง ช่องแอร์ด้านหลัง และควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card พกพาสะดวกเพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว รวมถึงดีไซน์แผงคอนโซลหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของ Honda พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน และพื้นที่สัมภาระท้ายมากถึง 473 ลิตร แถมยังขยายพื้นที่วางในส่วนผู้โดยสารด้านหลังมากถึง 1,036 มม.HondaHonda
เบนซินเสียบปลั๊ก e:PHEV 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC พร้อมระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) LFB19 149 แรงม้าที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิด 183 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบ/นาที พร้อม แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 17.7 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กกำลัง 184 แรงม้า และเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุดทั้งระบบถึง 207 แรงม้า แรงบิด 335 นิวตันเมตร
คู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) พร้อมโหมดการขับขี่ Normal, ECON, SNOW, SPORT ถ้าขับขี่ในโหมดไฟฟ้าวิ่งไกลสุด 82 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง ให้อัตราสิ้นเปลืองมากถึง 20.49 กม./ลิตร และความปลอดภัยรอบคัน Honda SENSING เบื่องต้นเตรียมประกาศราคาจำหน่ายเร็วๆนี้ ผ่านทาง GAC Honda ส่วนเมืองไทยพบกันเร็วๆนี้
