สถานการณ์รถเก๋งขนาดกลางหรือ D-Segment จะอยู่ในขั้นถดถอยแต่ก็ยังเดินหน้าสู้ต่อไปถึงแม้รถยนต์เอสยูวีเข้ามาตีตลาดก็ตาม
โดย Honda ยังคงเดินหน้าพัฒนา Honda Accord เจเนอเรชันใหม่ที่ 11 และล่าสุดกับทีเซอร์ที่ Honda เล่นมุกโชว์ดักคอเรียกน้ำย่อยก่อนจะเปิดตัวจะเห็นได้ว่าไม่ต่างจากภาพสิทธิบัตรตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์คล้ายกับ Acura Integra ทรงหกเหลี่ยมไส้ในรังผึ้ง ไฟหน้า LED แนวยาวในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตรวมถึงไฟท้าย LED แนวยาวล้อมฝาท้ายที่คล้ายๆรถยุโรปและสปอยเลอร์หลังดีไซน์เพรียวแบบเดียวกับ Civic FE ช่วยให้รถคันนี้ดูดีขึ้นมาทันที ส่วนด้านข้างตามภาพสิทธิบัตรนั้นด้านข้างมีความสปอร์ตคล้าย Civic FE โดยเฉพาะเส้นสายที่ชายประตูล่างรวมถึงกระจกโอเปร่าสไตล์เด่นโดยภาพรวมอาจคล้ายรถทรง Fastback 5 ประตูทั้งๆที่ความจริงมันคือ 4 ประตูซีดานแต่ก็ยังคล้ายๆ Honda Accord เจนที่ 10
ภายในยังเผยภาพจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว และเป็นรุ่นแรกของค่ายที่ติดตั้งจอสัมผัสขนาดใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา และมีมาตรวัดดิจิทัลมาด้วยโดยดีไซน์มาตรวัดจะคล้ายกับ Honda Civic ขนาด 10.2 นิ้ว และออฟชันประจำรถทั้งระบบชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging การตกแต่งด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ ผิวสัมผัสหุ้มหนัง ช่องแอร์ด้านหลัง และควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card พกพาสะดวกเพียงแค่พกการ์ดไว้กับตัว รวมถึงดีไซน์แผงคอนโซลหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของ Honda และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน
ขุมพลัง Honda Accord เจเนอเรชันที่ 11 อาจหยิบยืมมาจากเจเนอเรชันที่ 10 มาพัฒนาตั้งแต่ Full Hybrid e:HEV เครื่องยนต์เบนซิน I-VTEC 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC รหัส LFB1 ที่มาพร้อมระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 175 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 315 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบ/นาที และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) ทั้งแบบคันเกียร์และแบบ Shift-By-Wire มาพร้อมโหมดการขับขี่ถึงสี่โหมดทั้ง โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EV Drive Mode โหมดการขับขี่ด้วยไฮบริด Hybrid Drive Mode โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ Engine Drive Mode และโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Sport Drive Mode สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงกดปุ่ม Sport ที่อยู่บริเวณคันเกียร์
และเครื่องยนต์เบนซิน Di VTEC TURBO 1.5 ลิตร L15BG 190 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 243 นิวตันเมตรที่ 1,500-5,000 รอบ/นาที ไดเรคอินเจคชันฉีดตรง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT กับ เบนซินทอร์โบใหญ่ K20C4 Di i-VTEC Turbo 2.0 ลิตร พร้อมให้พลังมหาศาลถึง 252 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 370 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบ/นาทีจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติมากสุด 10 สปีด แบบ Shift-By-Wire
เบื่องต้น Honda Accord เจเนอเรชันที่ 11 จะเปิดตัวทั่วโลกเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยคาดว่าอเมริกาเป็นที่แรกของโลกส่วนเมืองไทยได้พบกันภายในปี 2023
ที่มา Motor 1
