อุตสาหกรรมรถยนต์ในญี่ปุ่นเริ่มเอาจริงเอาจังกับการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยทุกแบรนด์ทุกค่ายได้เห็นกันมากขี้นตั้งแต่รถเล็ก Kei Car ไปจนถึงรถบรรทุก
ล่าสุด ISUZU ELF EV หรือ ISUZU N-Series EV ไฟฟ้าล้วนเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ญี่ปุ่นรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจาก ISUZU ELF เครื่องยนต์ดีเซล ในร่างเจเนอรชันที่ 7 ตั้งแต่ ชุดไฟหน้าทรงแนวตั้ง มาพร้อมไฟหน้า Bi-LED หรือไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ พร้อมไฟ Daytime LED รูปตัว C ในโคมเดียวกัน กระจังหน้าแนวนอนทรงสองชั้นเอกลักษณ์เฉพาะกับโลโก้ตัวอักษร ISUZU ขนาดใหญ่ แบบ World Cross Flow
กันชนหน้ารูปตัว U รองรับชุดกระจังหน้าอย่างลงตัว พร้อมไฟตัดหมอก LED ดวงเล็กโค้งมนรับกับตัวรถอย่างดี และกระจกมองข้างกับกระจกส่องมุมบานใหญ่ ด้านข้าง อาจมีความคล้ายกับเจนที่แล้ว ด้วยที่เปิดประตูแนวตั้งแบบดึงก้าน
ภายในเหมือนกันแต่ต่างที่มาตรวัดตัดรอบเครื่องยนต์ออกไปแบบ 7 นิ้ว ที่มีทั้งมาตรวัดความเร็วและจอกลาง MID รวมการทำงานต่างๆของรถพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้าน ปรับระดับสูงต่ำเข้า-ออกได้ ควบคุมทั้งปุ่มการทำงานเครื่องเสียง มาตรวัด และ Cruise Conrtrol
เบาะนั่งออกแบบใหม่นั่งสบายขึ้นพร้อมระบบอุ่นเบาะและ lumbar support ส่วนวัสดุหุ้มเบาะมีทั้งไวนิล หนังกลับ suede และกึ่งหนังแท้ ไฟในห้องโดยสารขนาดใหญ่แบบ LED เพิ่มความสว่าง สะดวกสบายพร้อม USB Charger เบรกมือไฟฟ้า กับ Auto Hold บนหลังคามีช่องเก็บของขนาดใหญ่ เครื่องปรับอากาศ Full Mode Control ปรับระบบหมุนเวียนอากาศได้ 2 แบบ 6 ทิศทาง ทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติ
ขุมพลังไฟฟ้าแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวแบบ 4X2 กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว HP11 กับความจุแบตเตอรี่ 40 kWh สองแพ็ค และมี 60 kWh สามแพ็ค ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร แต่ว่าไม่บอกเรื่องการวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง การชาร์จมีสองแบบทั้งชาร์จเร็วกระแสตรง DC ChadeMO และชาร์จกระแสสลับ AC Type 1
แถมมีระบบ Regenerative Braking สามารถชาร์จในระหว่างการเบรกกลับเข้าแบตเตอรี่ สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับถึง 3 ระดับ พร้อมความปลอดภัยเทียบเท่าคู่แข่งด้วยระบบความปลอดภัยช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS เทียบเท่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ISUZU ELF EV หรือ ISUZU N-Series EV เตรียมที่จะเปิดที่ญี่ปุ่นเร็วๆนี้ พร้อมกับเวอร์ชันเครื่องยนต์ดีเซล
นอกจากนี้มาพร้อมกับการพัฒนา “EVision” โปรแกรมโซลูชั่นส์ครบวงจร เพื่อสนับสนุนลูกค้าที่กำลังพิจารณาการเริ่มใช้รถไฟฟ้า BEV เพื่อการพาณิชย์ และได้เริ่มให้บริการในญี่ปุ่นแล้ววันนี้ “EVision” นี้ ได้รวมถึงการหาโซลูชั่นส์แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเริ่มใช้รถไฟฟ้า การประเมินผลประโยชน์เชิงปริมาณจากการลดการปล่อ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการเสนอวิธีการลดคาร์บอนเพิ่มเติมเพื่อการนำไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
เพื่อตอบสนองความท้าทายในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั่วโลกในอนาคต อีซูซุจึงดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์ต่างๆ ด้วยแนวคิดหลัก 4 ประการ คือ
- ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
- ความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ (Driver Comfort)
- ความปลอดภัย (Safety)
- การเชื่อมโยง (Connectivity)