อีกหนึ่งรุ่นที่มาแรงไม่แพ้ MG MAXUS 9 ลักชัวรีแวนพลังไฟฟ้าล้วนที่กวาดยอดจองของกลุ่มอีวีค่าย MG เป็นอันดับหนึ่งถึง 1,159 คัน
จากตัวเลยยอดจองรวมของค่าย MG 3,929 คัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 2,840 คัน มียอดจองมากเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถอีวี (รถสันดาป ไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด ทั้งหมด 1,089 คัน) โดย MG ES กวาดยอดจองได้ 855 คัน โดยล็อตแรกได้เริ่มส่งมอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีล็อตใหม่มาอีก 1,000 คันในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
สำหรับ MG ES แวกอนพลังไฟฟ้าที่เน้นความสปอร์ตขึ้นเท่ขึ้นแถมพัฒนาขุมพลังไฟฟ้าให้แรงขึ้นและวิ่งไกลขึ้นกว่าเดิมทั้งภายนอกและภายในที่ออกแบบใหม่หมด พร้อม i-SMART ที่สะดวกมากยิ่งขึ้นทั้งการตรวจสอบสถานะรถยนต์ ค้นหารถ Find My Car ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ กับความสบาย 5 ที่นั่ง สไตล์ทูโทน DENIM TEXTURE DESIGN
พัฒนาใหม่กับขุมพลังไฟฟ้าล้วนให้กำลังมากถึง 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร สามารถวิ่งในระยะทาง 412 กม./ชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC จากแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 51 kWh กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco และ โหมด Sport และระบบที่สามารถชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่เลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับ ได้ถึง 3 ระดับ KERS (Kinetic Energy Recovery System)
รองรับการชาร์จแบบเร็ว DC (0% – 80%) ใช้เวลา 40 นาที กำลังชาร์จสูงสุด 87 kW และการชาร์จไฟบ้านแบบ AC 0-100% ใช้เวลา 7.15 ชม. กำลังชาร์จสูงสุด 6.6 kW ผ่าน MG HOME CHARGER พร้อมระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) ด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์
โดยเปิดราคาจำหน่ายอยู่ที่ 959,000 บาท มีสีภายนอกให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Andes Gray) สีแดง (Scarlet Red) และ สีเงิน (Champagne Silver)
