ในที่สุดรถใหม่รุ่นแรกปี 2023 ของค่าย MG เปิดเผยอย่างเป็นทางการกับเอสเตทไฟฟ้าล้วนในชื่อใหม่ของ MG EP PLUS นั่นก็คือ MG ES
MG Sales (Thailand) เผยภาพแรกเอสเตทไฟฟ้าร่างที่สองของ MG EP PLUS ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ถึงจะมาในปิดบังทั้งคันแต่ก็จับได้ว่านี่คือหน้าใหม่แบบเดียวกับสเปกอังกฤษตั้งแต่หล่อทันสมัยจากกระจังหน้าทรงทึบปรับขนาดให้เล็กลงขนาบข้างด้วยไฟหน้า Projector แบบ LED ออกแบบช่องเสียบใหม่ที่มองเห็นชัดเจนขึ้นในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตแบบสามเหลี่ยม โลโก้ MG ย้ายไปอยู่บนฝากระโปรงหน้าแล้ว
ด้านข้างยังคงเดิมเพิ่มเติมด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ทูโทนทั้งแบบ 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/60R16 และขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50R17 ด้านท้ายใหม่ด้วยไฟท้าย LED คิ้วโครเมียมเส้นเล็กเชื่อมกันพร้อมกันชนหลังออกแบบใหม่และมีช่องเล็กๆทรงสามเหลี่ยมคล้ายกับด้านหน้าและราวหลังคา
ภายในเปลี่ยนใหม่หมดชนิดลืมภาพเดิมๆได้เลยกับแผงคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่หมดตั้งแต่มาตรวัดดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.25 นิ้วเชื่อมต่อความบันเทิงเต็มรูปทั้ง Apple Car Play Android Auto Bluetooth กับลำโพง 6จุด พร้อมช่องต่อ USB 4 จุด
รวมถึง i-SMART ทำให้ทุกการเชื่อมต่อในรถง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ตรวจสอบสถานะรถยนต์ และระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์ขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ สั่งการ ค้นหารถ Find My Car ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ เป็นต้น เบาะนั่ง 5 ที่นั่ง ที่ตอนหลังสามารถพับได้แบบ 60 :40 เมื่อพับจะมีพื้นที่มากถึง 1,367 ลิตร (ไม่พับเบาะ 479 ลิตร)
สำหรับสเปกไทยต้องจับตาแล้วว่ายังใช้ความจุแบตเตอรี่ เดิม 50.3 kWh ยังคงให้กำลังเท่าเดิมคือ 163 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตรอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 8.8 วินาที วิ่งได้ไกลถึง 380 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง
ชาร์จไฟฟ้าได้ 2 แบบ คือ Quick Charge แบบ DC ชาร์จพลังงานตั้งแต่ 0 – 80% ในระยะเวลาประมาณ 40 นาที และ Normal Charge แบบ AC ชาร์จพลังงานตั้งแต่ 0 – 100% หัวชาร์จ TYPE II ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที
หรืออาจยกขุมพลังมาจาก MG ZS EV กับความจุแบตเตอรี่เท่าเดิมคือ 50.3 kWh แต่ให้พลังมากถึง 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กม./ชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง DC (30% – 80%) ใช้เวลา 30 นาที และการชาร์จไฟบ้านแบบ AC 0-100% ใช้เวลา 7.15 ชม.
พร้อมเกียร์อัตโนมัติ Single Speed มีรูปแบบการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco และ โหมด Sport และ ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับ ได้ถึง 3 ระดับ
พร้อมระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) จ่ายพลังงานจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น โดยระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
โดยทาง MG กำหนดเปิดสเปกและเปิดรับจองอย่างเป็นทางการสำหรับ MG ES ตั้งแต่ 13 มีนาคม เวลา 8.00 น. ณ ดีลเลอร์ MG หรือ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ที่ https://onlinebooking.mgcars.com/ หรือจองผ่านแอพพลิเคชัน MG THAILAND ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม – 19 มีนาคม เวลา 23.59 น. ก่อนประกาศราคาที่งาน Motor Show 2023