หลังจากที่ MG จัดโปรโหดหั่นราคาเกือบหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง MG4, ZS EV รถสันดาปอย่าง ZS, VS HEV ล่าสุดกับ MG HS เบนซินเทอร์โบ
การหั่นราคาครั้งนี้ในกลุ่มรถ Display ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานและหั่นสู้คู่แข่งที่ดีวันดีคืนในด้านยอดจองลดลงจากเดิม 340,000-360,000 บาททั้งสองรุ่นย่อยมีผลถึงวันที่ 11 ธันวาคม โปรโมชั่นเดียวกับงาน Motor Expo 2023 ในราคาใหม่ดังนี้
- รุ่น D ราคาพิเศษ 749,000 บาท (จากราคาเดิม 1,089,000 บาท)
- รุ่น X ราคาพิเศษ 799,000 บาท (จากราคาเดิม 1,159,000 บาท)
MG HS ปรับโฉมหล่อยกระดับคุณค่าด้านการออกแบบให้มีความโดดเด่น และทันสมัย ผสานทั้งความหรูหราและความสปอร์ตอย่างลงตัว ด้วยเส้นสายของตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่เน้นเรื่องความโค้งมนสมบูรณ์แบบของตัวรถ พร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่คงเอกลักษณ์เฉพาะตั้งแต่กระจังหน้า DNA ใหม่ สี 2-Tone ดีไซน์ Digital Burning Grille กันชนหน้า กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมท่อไอเสียคู่ ไฟหน้าแบบ QUAD LED Projectorไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
ไฟท้ายแบบ Full LED ไฟ Welcome Light สปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นปรับระดับสูง-ต่ำ พร้อมสั่งการผ่านทางรีโมทคอนโทรล ล้ออัลลอยด์ BI-COLOUR ดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/50 R18 มิติตัวรถใหญ่ทุกมิติตั้งแต่ความยาว 4,574 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,876 มิลลิเมตร ความสูง 1,664 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,720 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 145 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,510-1,570 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร
ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยสี 2-Tone Monaco Blue ใช้วัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch ให้ความรู้สึกหรูหราและพรีเมียมในทุกรายละเอียด พร้อมฟังก์ชันที่ให้ทั้ง ความสะดวกสบายและคุณค่าระหว่างการขับขี่ที่ครบครัน ภายในมีทั้งสีดำ และ 2-Tone ขาว–น้ำเงิน เบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat ใช้วัสดุ Alcantara เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) หลังคา Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ Interactive Ambient Light ในห้องโดยสาร ปรับได้ 64 เฉดสี หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว หน้าจอกลาง แบบ Multi-Function Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว
ระบบเสียง Surround เหนือระดับถึง 6 จุดระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกรองอากาศ PM 2.5 กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start NVH Luxury Silence Space และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android Autoระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี รวมถึงการเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ให้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยี Digital Key และล่าสุดกับ AR NAVIGATION ระบบนำทางเสมือนจริง ที่จะทำให้ทุกการเดินแม่นยำมากยิ่งขึ้น
สเปกไทยยังคงเดิมด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 รหัส 15E4E ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,700-4,300 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหน้าคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ TST แบบ 7 สปีดมาพร้อมรูปแบบการขับขี่ถึง 4 รูปแบบได้แก่ โหมด Normal, โหมด Eco, โหมด Sport เสริมด้วยปุ่ม Super Sport เพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมช่วงล่าง Euro Tuning Suspension ด้านหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลังแบบ Multi-link พร้อมเหล็กกันโคลงทั้งหน้าและหลัง ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง
เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยรอบคันทั้งระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame) และความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System มากถึง 26 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัย เชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรก และช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ จำนวน 14 ระบบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านหน้าและด้านท้ายรถ ซึ่งเทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 (Autonomous Level 2) รวมกันกว่า 12 ระบบ ได้แก่ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)ช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning) ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control) ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake) ที่เพิ่มเติมเข้ามา ในโฉมล่าสุดนี้ เพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งกว่า นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
MG HS 1.5 Turbo มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีแดง (Scarlet Red)