จากกระแสข่าวเกี่ยวกับการหยุดขาย Nissan Terra ภายในสิ้นปี 2023 ล่าสุดทาง นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ส่งจดหมายชี้แจงถึงผู้จำหน่าย
โดยมีเนื้อหาดังนี้ จากกระแสข่าวที่มีการคาดเดาเกี่ยวกับการหยุดจำหน่ายนิสสัน เทอร์ร่า ในสิ้นปี 2566 นี้ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ขอชี้แจงว่าบริษัทฯ ยังคงจำหน่ายนิสสัน เทอร์ร่า และลงทุนในรถยนต์รุ่นนี้ต่อไป ทั้งนี้ เทอร์ร่า ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นหลักของเรา และยังคงเป็นรุ่นที่สำคัญของหลุ่มผลิตภัณฑ์ของนิสสัน นิสสันจะประกาศให้ท่านทราบถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกิจกรรมการบริการในช่วงเวลาที่เหมาะสมผ่านช่องทางที่เป็นทางการของบริษัทฯเท่านั้น นิสสันขอขอบคุณท่านผู้จำหน่ายฯ สำหรับความไว้วางใจและความร่วมมือให้การรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าของเราตลอดมา
Nissan Terra มาพร้อมความหล่อเหลาด้วยฟหน้า Quad LED 4 ดวง พร้อมไฟ DRL LED ในโคมเดียวกัน ไฟท้าย LED แบบ Light Guide เส้นคู่ ให้ความรู้สึกล้ำสมัย ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/60R18 และฝาประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า เข้มทั้งคันด้วยรุ่น Sport นำรุ่นท็อปสุด VL 4×4 มาตกแต่งพิเศษด้วยชุดแต่งสีดำทั้งภายนอกและภายในรวมทั้งหมด 22 รายการ เริ่มที่ภายนอกกับรายการตกแต่ง 16 รายการ ตั้งแต่ กระจังหน้าสีดำรูปตัววี สปอร์ตพรีเมียม, ชุดตกแต่งกันชนหน้า, แผงกันกระแทกด้านหน้า, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว, คิ้วตกแต่งซุ้มล้อ, มือจับประตู, บันไดข้าง, ราวหลังคารถ, เสาอากาศครีบฉลาม, สปอยเลอร์หลัง, คิ้วประตูท้าย, แผงประตูท้าย, แผงกันกระแทกด้านหลัง, ชุดแต่งกันชนหลัง และสัญลักษณ์ Sport ด้านหลัง
ภายในมาพร้อมออปชันเต็มคันทั้งแผงคอนโซลหน้า พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์ท้ายตัด มาตรวัดเรืองแสง TFT 7 นิ้วจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วจอใหญ่ พร้อม Nissan Connect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ฟังเพลงผ่าน Bluetooth, ระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Recognition) เชื่อม Apple CarPlay แบบไร้สาย Android Auto หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 11 นิ้วบนเพดาน สามารถสตรีมมิ่ง NetFlix และ YouTube ผ่านช่อง HDMI ได้อย่างง่ายดาย พร้อมช่องชาร์จไฟที่ช่วยให้ความบันเทิงไม่มีสะดุดตลอดการเดินทาง ลำโพงคุณภาพจาก Bose 8 จุดช่องชาร์จ USB สำหรับผู้โดยสารแถวทีสามโดยทั้งคันมี USB-A 3 จุด และ USB-C 2 จุด รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ เบรกมือไฟฟ้า ที่ชาร์จมือถือไร้สาย เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ด้านหลัง และกระจกมองหลัง Intelligent Rear View Mirror พร้อมโทนสีให้เลือกถึงสองสีทั้งสีดำ/แดง และโทนดำ/เบจ
พิเศษในรุ่น Sport ภายในแต่งเพิ่มอีก 6 รายการ ตั้งแต่ ช่องแอร์สีดำ, กรอบและแผงคอนโซลหน้าสีดำ, กรอบและที่พักแขนแผงประตูสีดำ, ที่พักแขนคอนโซลกลางสีดำ และ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำเดินด้ายสีเทา พร้อมออปชนเดิมทั้ง แผงคอนโซลหน้าสีดำ พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์ท้ายตัด มาตรวัดเรืองแสง TFT 7 นิ้ว
สเปกไทยมาแรงด้วยขุมพลังดีเซลเทอร์โบคู่ 2.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที YS23DDTT จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อม Manual Mode พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD เสริมล็อกเฟืองท้าย 4WD-DIFF lock และขับเคลื่อนสองล้อ ช่วงล่างแบบ five-link coil spring พร้อมความปลอดภัยรอบคันทั้ง ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW) ช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB) เตือนคนขับอัจฉริยะ (Intelligent Driver Alertness)
เตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning) ควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (Intelligent Lane Intervention) เตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning-BSW) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor–IAVM) ทำงานควบคู่กับเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection – MOD) Parking Sonar ที่ติดตั้งเซนเซอร์ที่กันชนหน้า 4 จุด และกันชนหลัง 4 จุด ตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) เตือนผู้ขับขี่เมื่อรู้สึกถึงการขาดสมาธิหรือเหนื่อยล้า (Intelligent Driver Alertness – IDA)
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้งระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA ดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC) ช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) ควบคุมเสถียรภาพของรถขณะลากจูง (TSA) ป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (ABLS) จุดยึดที่นั่งเด็กสำหรับเบาะหลัง ISOFIX ล็อกความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ถุงลมนิรภัย 6 จุด และตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS รุ่นขับเคลือนสี่ล้อ ได้ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) จอมอนิเตอร์ระบบ Off-Road Meter
Nissan Terra มีสีภายนอกถึง 7 สีทั้ง สีเทา Stealth Pearl Grey (ในรุ่น Sport),ขาว Aspen Pearl White (เพิ่มเงิน 12,000 บาท), สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ (Brilliant Silver), สีดำ แบล็ค สตาร์ (Black Star) สีเทา ทไวไลท์ เกรย์ (Twilight Gray) ขณะที่รุ่น VL (2WD และ 4WD) มีสีแดง คูลีส์ (Coulis Red) และสีทองแดง ฟอร์จ คอปเปอร์ (Forged Copper) พร้อมราคาจำหน่ายดังนี้
- รุ่น Sport VL 4×4 ราคา 1,555,000 บาท
- รุ่น VL 4×4 ราคา 1,519,000 บาท
- รุ่น VL ราคา 1,449,000 บาท
- รุ่น V ราคา 1,199,000 บาท