More

    Toyota Corolla MY2023 ปรับยกตระกูลเก๋งยอดนิยมของมหาชน

    จากกระแสข่าวว่าจะมีการปรับโฉมของเก๋งยอดนิยมของมหาชนอย่าง Toyota Corolla จะเกิดขึ้นหรือไม่สำหรับตลาดบ้านเกิดคือประเทศญี่ปุ่น

    Toyota

    ล่าสุด Toyota เปิดตัว Toyota Corolla MY2023 หรือรุ่นปรับปรุงใหม่งานนี้ปรับยกตระกูลตั้งแต่  Corolla ซีดาน, Corolla Touring แวก้อน, Corolla Sport แฮทช์แบ็ก และ Corolla Cross โดยแต่ละรุ่นหน้าตาแทบไม่ปรับอะไรเลยเพียงแค่ปรับในส่วนช่องระบายอากาศใหม่ในรุ่น ซีดาน กับ วากอนเปลี่ยนช่องระบายอากศจากรังผึ้งกลายเป็นสีดำแนวนอน พร้อมชุดไฟตัดหมอกหน้า LED ส่วน Corolla Sport แฮทช์แบ็ก 5 ประตู ปรับกรอบโครเมียมในชุดช่องระบายอากาศใหม่โดยเหลือเพียงในส่วนกรอบไฟตัดหมอกหน้า

    ด้านหลังในส่วนลิ้นสปอยเลอร์หลังปรับเล็กน้อยบนพื้นฐานเดิมทั้งไฟหน้า ไฟหน้า Full LED กระจังหน้าเอกลักษณ์เฉพาะ Corolla ไฟท้าย LED ล้อและยางมีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดทั้งแบบล้ออัลลอยกับกระทะล้อ 16 นิ้วพร้อมยาง 205/55R16 ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/45 R17 และ 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/40 R18

    Toyota

    ภายในปรับเปลี่ยนในส่วนมาตรวัดความเร็วกลายเป็นมาตรวัดแบบดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว แม้กระทั่งจอสัมผัสลอยตัวก็เปลี่ยนขนาดใหญ่ขึ้นเลือกได้ทั้งขนาด 8 นิ้ว และ 10.5 นิ้ว  เชื่อมต่อ WIFI ระบบนำทาง Apple Car Play และ Android Auto ได้พร้อมออปชันเดิมทั้ง  Qi wireless charging  สำหรับชาร์จมือถือแบบไร้สาย จอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้า Head-Up Display เบาะหลังพับได้ 60/40 เป็นต้น

    Toyota

    ขุมพลังยังคงเดิมทั้งเบนซิน Dynamic Force M20A-FKS 2.0 ลิตร 170 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาทีแรงบิด 202 นิวตันเมตรที่ 4,400- 4,800 รอบ/นาที พร้อมฉีดจ่ายน้ำมันโดยตรง D-4S direct injection และควบคุมการเปิด-ปิด วาลว์ไอดี VVT-iE จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift 10 สปีด พร้อม paddle shift ขับเคลื่อนล้อหน้า กับเบนซิน Hybrid 1.8 ลิตร 2ZR-FXE พัฒนาใหม่ให้มีเรี่ยวแรงมากขึ้น 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที ภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ล้อหน้ารุ่น 1VM 95 แรงม้า แรงบิด 185 นิวตันเมตร และหลังสำหรับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four รุ่น 1WM 41 แรงม้า แรงบิด 84 นิวตันเมตร  ได้แรงม้ารวม 140 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อมโหมดการขับขี่ 5 โหมดทั้ง “Eco”, “Normal”, “Sports”, Comfort” และ “Sports S + เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four

    Toyota

    นอกจากนี้ยังตัดเบนซินเดิมทั้งเบนซินเทอร์โบ 1.2 ลิตร 8NR-FTS ให้กำลังสูงถึง 116 แรงม้า ที่ 5,200-5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 185 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด iMT (Intelligent Manual Transmission) และเบนซิน Dual VVT-I ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 140 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 170 นิวตัมเมตร ที่ 3,900 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i7 สปีดพร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ขับเคลื่อนล้อหน้าออกไปเป็นเบนซินใหม่ Dynamic Force M15A-FKS 1.5 ลิตร 120 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาทีแรงบิด 145 นิวตันเมตรที่ 4,800- 5,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift 10 สปีด พร้อม paddle shift ขับเคลื่อนล้อหน้า และทุกรุ่นทุกขนาดไม่มีเกียร์ธรรมดา 6 สปีดจำหน่ายแล้ว

    Toyota

    พร้อมความปลอดภัย Toyota Safety Sense พัฒนาใหม่ในส่วนระบบก่อนการชนหรือ pre-crash safety เพื่อตรวจจับรถที่กำลังมาเมื่อเลี้ยวขวาที่ทางแยกและคนเดินถนนที่ข้ามไปในทิศทางตรงกันข้ามเมื่อเลี้ยวขวาหรือซ้าย เพิ่มระบบ Proactive Driving Assist จะการคาดการณ์ความเสี่ยงตามสถานการณ์การขับขี่ เช่น “คนเดินเท้าข้ามถนน” หรือ “รถยนต์อาจจะไม่สามารถควบคุมได้

    ToyotaToyotaToyota Corolla MY2023 มีราคาตั้งแต่ 1,990,000-3,048,000 yen หรือราว 521,000-799,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยส่วนถ้าขายในไทยราคารวมภาษีนำเข้าอยู่ที่ 1,497,000-2,299,000 บาท ส่วนเมืองไทยจะได้เห็น Toyota Corolla Altis เครื่องใหม่ Dynamic Force 2.0 หรือไม่ต้องติดตาม

    ที่มา Carwatch

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts