หลังจากเปิดรับจองล็อตแรก 350 คัน จนหมดเกลี้ยงภายใน 1 วันของการเปิดรับจองสำหรับ Ford Everest Platinum V6 อเนกประสงค์ระดับหรู
ล่าสุด ฟอร์ด ตอบสนองลูกค้าชาวไทยด้วยการเปิดรับจองล็อตใหม่ ได้ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เวลา 12:00 น. เป็นต้นไป โดยยังคงเป็นสเปกเดียวกับที่เปิดตัวช่วงต้นปี ภายนอกเน้นความเท่ ดุดัน เรียบหรู หน้าตาหรูหราตั้งแต่ไฟหน้า Matrix LED รูปตัว C ลายเส้นอันทรงพลังบนกระจังหน้า กระจังหน้าขนาดใหญ่ดีไซน์ใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทตินัม พร้อมตัวอักษร PLATINUM สีโครเมียม 3 ตำแหน่งบนฝากระโปรงหน้า บานประตูคู่หน้า และฝาท้าย
ลงตัวด้วยชุดกันชนหน้าเส้นด้านข้างตัวถังทอดยาวจากด้านหน้าจรดท้ายรถเน้นการออกแบบตัวถังที่สะดุดตา ชุดแต่งสีเดียวกับตัวรถทั้งกระจกมองข้าง ที่เปิดประตู กรอบกระจกโครเมียม ราวหลังคาสีเงินรองรับน้ำหนักได้มากถึง 350 กิโลกรัมขณะรถจอดอยู่กับที่และรับน้ำหนักได้มากถึง 100 กิโลกรัมขณะรถเคลื่อนที่
หลังคาสีดำ (Black Roof) ไฟท้าย LED ส่วนล้ออัลลอยใหญ่สุด 21 นิ้วพร้อมยาง 275/45R21 ที่ขาดไม่ได้เลยกับตราสัญลักษณ์ V6 บนช่องระบายอากาศด้านข้างตัวถัง Side Vent สองฝั่ง ระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) ควบคุมการเปิดไฟส่องสว่างภายนอกตัวรถ เมื่อต้องการแสงสว่างในการทำกิจกรรมต่างๆ ในตอนกลางคืน
มีมิติตัวรถใหญ่ตามตัวตั้งแต่ความยาว 4,914 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,923 มิลลิเมตร ความสูง 1,842 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,900 มิลลิเมตร ความสูงใต้ท้องรถ 227 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,512 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร
ภายในห้องโดยสารแตกต่างอย่างมีระดับโดยด้วยการใช้วัสดุตกแต่งหรูหราติดตั้งไฟสร้างบรรยากาศทุกส่วนที่แผงหน้าปัดด้านหน้าที่วางเต็มความกว้างของพื้นที่ คอนโซลกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง และที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้สำหรับเบาะคู่หน้า ระบบการชาร์จแบบไร้สาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง เกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter หุ้มด้วยหนังสวยงามจับถนัดมือ พร้อมเบรกมือไฟฟ้า และ AUTO HOLD มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว จอแบบสัมผัสความคมชัดสูงขนาด 12 นิ้ว เชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC® 4 สั่งงานด้วยเสียงเพื่อการสื่อสาร ควบคุมอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง และเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ลำโพง B&O ระดับพรีเมียม 12 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์
รวมถึงแอปพลิเคชัน FordPass™ ยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถด้วยความสามารถในการสตาร์ทรถจากระยะไกล การตรวจเช็คสถานะต่างๆ ของรถ รวมไปถึงการล็อค และปลดล็อคผ่านโทรศัพท์มือถือหน้าจอทัชสกรีนแนวตั้งยังเชื่อมต่อกับกล้อง 360 องศา พร้อมหน้าจอแสดงผลสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด แสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถและสภาพเส้นทางด้านหน้าจากกล้องหน้าพร้อมกับแนวเส้นกะระยะ ช่วยผู้ขับขี่ฝ่าทุกอุปสรรคได้ง่ายขึ้น
เบาะหนังสีดำตกแต่งโลโก้ซิกเนเจอร์ PLATINUM เป็นเอกลักษณ์ เบาะนั่งคนขับคู่หน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง บันทึกตำแหน่งเบาะที่นั่ง ฟังก์ชันการปรับตำแหน่งเบาะที่นั่งให้เข้าออกสะดวกสำหรับเบาะนั่งคนขับ (Easy Entry and Exit) ชุดทำความร้อนและระบายอากาศที่ควบคุมได้ผ่านหน้าจอ SYNC ในส่วนเบาะนั่งคู่หน้า เบาะนั่งแถว 2 ปรับเลื่อนได้และพับได้แบบ 60:40 ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 พับไดแบบ 50:50 พับได้
เครื่องยนต์ดีเซล V6 มาประจำการเป็นเทอร์โบเดี่ยวในตระกูล Lion ขนาด 3.0 ลิตร Power Stroke รหัส BFWS ที่ให้กำลังมากถึง 250 แรงม้าที่ 3,250 รอบต่อนาที แรงบิด 600 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาที พร้อม ไส้กรองเขม่าดีเซล (DPF) ปรับสเปกเพื่อให้สามารถเข้าเกณฑ์ผ่านมาตรฐานไอเสียของไทยหรือ EURO 5 สามารถเติมน้ำยาบำบัดไอเสียดีเซล (DEF) หรือสารแอดบลู (AdBlue®)
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด รุ่น 10R80 e-Shifter พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time 4WD แบบ e-Shifter (2H,4H,4L และ 4A) ที่มาพร้อมเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case–EMTC) ควบคุมด้วยไฟฟ้าพร้อมโหมดการขับขี่ Terrain Management System ทั้งโหมด Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery และยามลุยมีทั้งโหมด Sand, Mud/Ruts พร้อมเฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differential ลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มิลลิเมตร และมีความสามารถในการลากจูงถึง 3,500 กิโลกรัม
มั่นใจด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่และความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อม Stop & Go และควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Adaptive Cruise Control with Stop-and-Go and Lane Centering เปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ Auto High-Beam ช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน Automatic Emergency Braking with Pedestrian Detection
เตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning with Brake Support ช่วยควบคุมรถหลงจากชน Post-Impact Braking ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning ตรวจจับรถในจุดบอดและตรวจจับขณะออกจากช่องจอด Blind Spot Information System with Cross-Traffic Alert and Braking ป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง Reverse Brake Assist ช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ Evasive Steer Assist ตรวจเช็กลมยาง Tire Pressure Monitoring System
อุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ถุงลมนิรภัย 7 จุด ได้แก่ คู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง กล้องมองรอบคัน 360 องศา ป้องกันล้อล็อก ABS กระจายแรงเบรก EBD ดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) ช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) ลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation) ควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) และสัญญาณกันขโมยแะกุญแจนิรภัย Security Alarm System and Immobilizer
เสริมความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีช่วยจอดอัจฉริยะ Active Park Assist ช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถในพื้นที่แคบได้อย่างปลอดภัยเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ระบบจะช่วยบังคับพวงมาลัย ปรับเกียร์ เร่งความเร็วและเบรกในการจอดรถแบบขนานหรือเข้าช่องจอดได้อย่างง่ายดาย และระบบจะนำรถออกจากที่จอดรถแบบขนานเมื่อได้รับคำสั่ง
Ford Everest V6 รุ่น Platinum พร้อมค่าตัว 2,279,000 บาท เปิดจองผ่านช่องทางออนไลน์ ford.co.th พร้อมมอบแคมเปญส่งเสริมการขายเดิม คือ ดอกเบี้ย 1.99% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ด้านการส่งมอบสำหรับลูกค้าที่จองล็อตใหม่นั้น จะทยอยส่งมอบตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป จะส่งมอบตามลำดับคิวที่ลูกค้าจองผ่านช่องทางออนไลน์ หากมีลูกค้าจองเข้ามาเป็นจำนวนมาก บริษัทจะมีแนวทางที่เหมาะสมในการดูแลลูกค้าที่อาจไม่ได้รับรถภายในปีนี้ต่อไป
สำหรับลูกค้าที่จองในระบบตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และได้รับแจ้งว่าเป็น Waiting lists บริษัทได้ประสานงานกับผู้จำหน่ายในการติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งสิทธิ์ในการรับรถ โดยจะพิจารณาจัดสรรรถเพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นลำดับแรก