ทางเลือกใหม่ของวงการขนส่งสาธารณะเมื่อรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทตอบโจทย์ สหกรณ์แท็กซี่ที่กำลังมองหาอย่างเช่น FREGATA Ariel 8
ล่าสุดทีมงาน Car2Day บังเอิญไปพบรถยนต์เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นหนึ่งจอดแถวลานจอดรถตลาดฐานเพชร นนทบุรี แบบไม่พรางตัวติดป้าย QC หรือป้ายทะเบียนสำหรับรถยนต์ที่ผลิตขึ้นอยู่ขั้นตอนการทดสอบคุณภาพก่อนจำหน่ายแถมติดโลโก้ FREGATA Ariel 8 ที่ไม่คุ้นตาคนไทย
FREGATA Ariel 8 ที่แท้จริงนั่นมาจาก SKYWELL ET5 LR ที่ขายยุโรป หรือ SKYWELL BE11 ส่งขายตลาดโลกหรือ Skyworth EV6 Ⅱ ที่ขายในจีน มาแปะตรา FREGATA นั่นเอง ดีไซน์สากลนิยม เริ่มที่ชุดไฟหน้า LED สี่ดวง พร้อมไฟ DRL LED ในโคมเดียวกัน ในชุดกระจังหน้าทรงทึบทั้งแผงส่วนล่างพร้อมช่องระบายอากาศ พร้อมคิ้วสีเงินรูปตัวแอลคว่ำสองด้าน
ด้านข้างหรูสไตล์ยุโรปพร้อมกระจกมองข้างทรงสปูน ด้านท้ายทรงสวยด้วยไฟท้าย LED แนวยาว พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/55 R18 และขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/50R19 โดยตัวรถมาในร่างเอสยูวีทรงกล่องไซซ์กลาง ตั้งแต่ความยาว 4,698 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,908 มิลลิเมตร ความสูง 1,696 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,800 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,820-1,920 กิโลกรัม และระยะต่ำสุดจากพื้น 159 มิลลิเมตร
ภายในมาแบบ 5 ที่นั่งหุ่มวัสดุกึ่งหนังแท้พร้อมพื้นที่ด้านหลังขนาดใหญ่ด้วยเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่หลังพับเบาะมากถึง 1,141 ลิตร และถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ถึง 467 ลิตร เบาะนั่งคู่หน้าเลือกได้ทั้งปรับไฟฟ้าและปรับธรรมดา คอนโซลหน้าทรงหรูหุ้มหนังสัมผัส พร้อมออปชันครบครันทั้งมาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว กับ 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว กับ 12.3 นิ้ว ลำโพง 2 จุด 6 จุดและมากสุด 8 จุด มีช่องเสียบ USB ทั้ง 2 จุดกับ 4 จุด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน พร้อมที่ชาร์จมือถือไร้สาย และไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light เปลี่ยนได้ 128 สี และเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง กรองฝุ่น PM2.5
ขุมพลังไฟฟ้าแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 55.33 kWh, 57.51 kWh และ 71.98 kWh ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC 410 กิโลเมตรในรุ่น ความจุแบตฯ 55.33 kWh, 57.51 kWh และ 520 กิโลเมตรในรุ่นความจุแบตฯ 71.98 kWh
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single-stage reducer ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 9.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จได้ทั้งชาร์จกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 38 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC กำลังไฟ 6.6 kW ภายใน 9 กับ 11 ชั่วโมง
พร้อมความปลอดภัยครบเช่น ป้องกันล้อล็อก Antilock Brake System (ABS) กระจายแรงเบรก Brake Force Distribution (EBD) เสริมแรงเบรก Auxiliary Braking (EBA) ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน Hill-Start Assist Control (HAC) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Program (ESP) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) สัญญาณกะระยะการจอดรถด้านหน้า-หลัง Front and Rear Parking Sensor กล้องมองภาพรอบคัน 360° Panoramic View Parking Support System ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด ตรวจวัดความดันลมยาง Tire Pressure Monitoring เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold และควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ 2.5 Level ADAS ไม่ว่าจะเป็น ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Integrated Cruise Assist (ICA) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Traffic jam assist (TJA) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist (LKA) อ่านป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam Assist (AHBA) จอดรถอัตโนมัติ Automatic Parking Assist (APA) เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB) เตือนจุดอับสายตา Blind Spot Detection (BSD) เตือนการออกนอกช่องทางเดินรถ Lane Departure Warning (LDW)
จับตา FREGATA Ariel 8 ที่ปรากฎครั้งนี้อาจเป็นว่าที่รถแท็กซี่โดยสารสาธารณะหรือออกมาขายแบบรถส่วนตัว ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงไหนนั้นทาง Car2Day จะนำเสนอในครั้งต่อไป
