เป็นครั้งแรกที่ Hyundai เปิดตัวแบรนด์ลูกถึงสองแบรนด์ในไทยนอกจาก IONIQ แบรนด์ N เน้นรถแรงก็มาด้วยประเดิมด้วยเก๋งตัวแรง Hyundai Elantra N
สำหรับผู้ที่พิสมัยความแรงแบรนด์ N สนองตอบความต้องการลูกค้ากลุ่มนี้และบอกให้รู้ว่าเกาหลีก็ทำรถแรงได้ไม่แพ้ชาติใดในโลกกับ Hyundai Elantra N หล่อทั้งคันปรับหน้าใหม่ปรับตามรุ่น Elantra ตั้งแต่กระจังหน้าลาย Cascading grille ติดสัญลักษณ์ N ที่กระจังหน้า รับกับกันชนหน้าที่ออกแบบสปอร์ตขี้นกว่ารุ่นเดิมรับกับไฟหน้า LED ทรงเรียวขึ้นกว่าเดิมพร้อม LED Daytime บนโคมไฟหน้า และตราโลโก้ H อยู่บนขอบฝากระโปรง กันชนหน้าออกแบบดีไซน์รูปตัวเอมีช่องระบายอากาศที่เท่กว่าเดิมสเกิร์ตใต้กันชนหน้าสีดำขลิบแดง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำกับสเกิร์ตข้างสีแดง บั้นท้ายทรงสปอร์ตพร้อมไฟท้าย LED ทรงตัว H แนวยาว กันชนหลังทรงเท่ติดลิ้นสปอยเลอร์หลังดำขลิบแดงและท่อไอเสียคู่ สปอยเลอร์หลังทรงใหญ่ ออกแบบอย่างลงตัวและล้ออัลลอยลายปัดเงาขนาดใหญ่ห้าก้านคู่ 19 นิ้ว พร้อมยางสปอร์ต 245/35ZR 19 จาก Michelin Pilot Sport 4 โดดเด่นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ มีคาลิปเปอร์สีแดง N
นำพื้นฐานรุ่น Elantra เจเนอเรชันที่ 7 ดัดแปลงให้กลายเป็นเก๋งรอบจัดแรงบิดสูงตั้งแต่ความยาว 4,675 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,825 มิลลิเมตร ความสูง 1,415 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,720 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 135 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,445-1,480 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 47 ลิตร
ภายในยกความเป็น Elantra ผสมความเป็นรถแรงตระกูล N ปรับรายละเอียดให้เข้าถึงตัวตนด้วยห้องโดยสารที่กว้างกว่าเดิมตั้งแต่ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ผสมหนังกลับทรงเรซซิ่ง เดินด้ายน้ำเงินพร้อมสัญลักษณ์ N ติดตั้งระบบอุ่น หรือ heated เข้ามา และคู่หน้าแบบระบายอากาศได้พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต 3 ก้าน มาตรวัดดีไซน์พิเศษขนาดแบบดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว เครื่องเสียงพร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay and Android Auto ยังสามารถ แสดงข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกับตัวรถทั้ง อุณหภูมิน้ำมันและน้ำหล่อเย็น ตลอดจนแรงบิดและแรงดันเทอร์โบแถมจับเวลาต่อรอบได้รวมถึงดีไซน์ช่องแอร์ที่ออกแบบเป็นแนวยาวแบบลงตัว
เพลิดเพลินด้วยลำโพงคุณภาพ BOSE 8 จุด ช่องเสียบ USB แบบ Type-C มีไฟสร้างบรรยากาศ ambient light แบบ LED ปรับได้ 64 สี พร้อมชาร์จมือถือไร้สาย กุญแจดิจิทัลคีย์สามารถสั่งงานผ่านทางสมาร์ทโฟน หรือ สมาร์ทวอชได้ทั้งในการล็อกปลดล็อก ระบบควบคุมความชื้นภายในห้องโดยสารเมื่อต้องออกจากรถกันกลิ่นไม่พึงประสงค์และเชื้อราที่เข้ามาภายในได้
ขุมพลังร้อนแรงด้วยเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร Theta II T-GDi 280 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 392 นิวตันเมตรที่ 2,100-4,700 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่เปียก 8 สปีด N DCT และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 8.2 วินาที นอกจากนี้ยังมีโหมด N Grin Shift เพิ่มกำลังเครื่องเป็น 285 แรงม้า ส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 5.3 วินาที เครื่องเดียวกับ Hyundai i30 N ขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อมเฟืองท้ายไฟฟ้า e-LSD
เร้าใจในการขับขี่ด้วยระบบ N Corner Carving Different เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า รวมถึงโหมดการขับขี่ทั้ง N Grin Shift, N Power Shift, และ N Track Sense Shift modes และ ปรับปรุงเพลาขับ ดุมล้อ ลูกปืน เข้าด้วยกันซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการทำรถแข่งเวอร์ชั่น WRC แถมยังลดน้ำหนักตัวรถลงอีก 1.7 กิโลกรัม เสริมประสิทธิภาพในการเกาะถนน ดิสก์เบรก 4 ล้อ โดยดิสก์เบรกหน้ามีขนาดใหญ่ 14.1 นิ้ว หออกแบบช่องระบายความร้อนเพิ่มการลดการสะสมความร้อนในดิสก์เบรกด้วย เพิ่มความมันส์ในการขับขี่ด้วยระบบ N Sound Equalizer ระบบปรับเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ที่เลียนแบบรถแข่ง TCR สามารถปรับตั้งค่าเสียงได้ผ่านท่อไอเสียและปรับลดเสียงขณะรอบเดินเบาให้เงียบขึ้น
Hyundai Elantra N พร้อมโชว์ตัวที่งาน Motor Expo 2023 ในช่วงวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี แต่จะเปิดราคาในงานด้วยหรือไม่ต้องติดตาม
