More

    Mitsubishi Triton เสริมทัพรุ่นย่อยตรงใจคนลุยเริ่ม 1.228 ล้านบาท

    Mitsubishi เสริมทัพ Mitsubishi Triton เพิ่มรุ่นใหม่สี่ประตู ULTRA 4×4 เกียร์อัตโนมัติและรุ่น Athlete เทอร์โบคู่พร้อมโชว์ตัวที่ Motor Expo 

    Mitsubishi

    เริ่มจากรุ่นสี่ประตู ULTRA 4×4 เกียร์อัตโนมัติ ดีไซน์การออกแบบมาในสไตล์ BEAST MODE ด้านหน้ามาในสไตล์ Dynamic Shield ทั้งดีไซน์ภายนอกใหม่หมดตั้งแต่กระโปรงหน้าสู่ด้านข้างตัวถังในสไตล์แนวราบตกแต่งเหนือซุ้มล้อหน้า-หลังระยะโอเวอร์แฮงค์หน้าที่สั้นลงชุดไฟหน้า LED 3 ดวงพร้อมไฟ DRL LED 3 ดวงบนขอบฝากระโปรงหน้าและชุดไฟตัดหมอกหน้า LED ที่ทั้งหมดอยู่ในชุดกันชนหน้าเท่ถึงใจ ลงตัวด้วยชุดกระจังหน้าเข้มโครเมียมพร้อมตราโลโก้ทรีไดมอนด์สีเงินและตัวอักษรบนขอบกระจังหน้าด้านข้างมีเส้นสายบึกบึนออกแบบช่องไฟระหว่างด้านหลังตัวรถและแนวกระบะเป็นแนวทางเดียวกันงานนี้ไม่โค้งเหมือนแต่ก่อนแล้วกระจกหลังยังโค้งเช่นเดิมแถมมีคิ้วขอบล้อเพิ่มมาเติมความกลมกลืนกับตัวรถด้านท้ายมีสปอยเลอร์บนขอบกระบะท้ายพร้อมไฟท้าย LED แนวตั้งดีไซน์ใหม่รูปตัว H ล้ออัลลอยใหญ่สุด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 พร้อมชุดแต่งโครเมียมทั้งคันตั้งแต่กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตู และที่เปิดฝากระบะท้าย

    Mitsubishiทางด้านรุ่น Athlete อัปเกรดหล่อด้วยชุดแต่งรอบคันไม่ว่าจะเป็น ชุดกระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถ พร้อมตราโลโก้ทรีไดมอนด์สีเงินและตัวอักษร Mitsubishi บนขอบกระจังหน้า ไฟหน้า LED 3 ดวงพร้อมไฟ DRL LED 3 ดวงบนขอบฝากระโปรงหน้าพร้อมขอบตกแต่งสีดำเข้ม ชุดไฟตัดหมอกหน้า LED ที่ทั้งหมดอยู่ในชุดกันชนหน้าเท่ถึงใจด้วยการ์ดเสริม ล้ออัลลอยสีดำเข้ม 18 นิ้ว พร้อมคิ้วขอบล้อสีดำ ราวหลังคาสีดำ กับสปอร์ตบาร์ทูโทนสีดำ/เงิน สปอยเลอร์บนขอบกระบะท้ายพร้อมไฟท้าย LED แนวตั้งดีไซน์ใหม่รูปตัว H ที่เปิดประตูท้ายสีดำ กันชนหลังสีดำ

    ตัวรถใหญ่ขึ้นด้วยโครงสร้างรถยนต์แบบขั้นบันไดที่พัฒนาขึ้นใหม่มีคานขวางที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เพิ่มความแข็งแกร่งในทุกมิติ ทั้งการต้านทานแรงดัด (Bending Rigidity) และเสริมความแข็งแกร่งเชิงบิด (Torsional Rigidity) โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High-tensile Steel) ในอัตราส่วนที่สูงขึ้น ยังมีความแข็งแรงสมบุกสมบันที่เหนือชั้น ตัวรุ่นทั้งรุ่นสี่ประตู ULTRA 4×4 เกียร์อัตโนมัติ และรุ่น Athlete ดังนี้ ความยาว 5,320 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,865 มิลลิเมตร ความสูง 1,765 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,130 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 222 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร มิติกระบะภายใน ความยาว 1,555 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,545 มิลลิเมตร ความสูง 525 มิลลิเมตร

    Mitsubishi

    ภายในห้องโดยสารและแผงคอนโซลหน้าควบคุมภายใต้แนวคิด Horizontal Axis ด้วยเส้นตรงแนวราบและรูปทรงที่แข็งแกร่ง คำนึงถึงประสบการณ์ในการใช้งานด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดใช้วัสดุคุณภาพสูงพร้อมตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่มช่วยเสริมความสะดวกสบายในการใช้งานหลากหลายรูปแบบตกแต่งด้วยโครเมียมในหลายส่วนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ทันสมัย เน้นที่ความสะดวกสบายในการหยิบจับได้อย่างกระชับมือ ดังนี้ ชุดมาตรวัด LCD พร้อมจอแสดงข้อมูล MID 7 นิ้ว และมาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูล MID 3.5 นิ้ว แผงคอนโซลกลางมีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบพร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มิลลิเมตร ได้มากถึง 4 ขวด

    กล่องเก็บของด้านหน้าช่องวางสมาร์ทโฟนและช่องเก็บของขนาดเล็กอื่นๆ มีความกว้างขวางที่ใช้งานได้สะดวกง่ายดาย แผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่องต่อ USB ด้านหน้าแบบ Type-C / Type-A จุดละ 1 ตำแหน่งด้านหน้าและด้านหลัง 1 จุด แท่นชาร์จไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม จอสัมผัสขนาดใหญ่ทั้งแบบ 9 นิ้วเชื่อมต่อทั้ง Android, Auto Apple Carplay ไร้สาย รองรับ FM/AM/MP3 พร้อมระบบนำทางในตัวจอ กับขนาด 10 นิ้ว รองรับ FM/AM/MP3 รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ลำโพงติดรถ 6 จุด

    Mitsubishi

    เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า และ 6 ทิศทางปรับด้วยมือวัสดุหุ้มเบาะกึ่งหนังแท้สีดำ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์หมุนเวียนอากาศบนหลังคาตอนหลัง พร้อมเครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ มือจับหลังคา 8 ตำแหน่งพวงมาลัยสามก้านแบบมัลติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทาง ทางด้านรุ่น Athlete เพิ่มสีสันด้วยโทนการตกแต่งสีดำ/ส้มในส่วนของชุดคอนโซลหน้าและแผงประตูวัสดุบุหนังสัมผัส พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน เบาะนั่งทูโทนหุ้มกึ่งหนังแท้ ส้ม/เทาเข้ม

    เทคโนโลยี MITSUBISHI  CONNECT ใช้งานง่าย เพิ่มความอุ่นใจในทุกมิติด้วยเทคโนโลยี Telematics ซึ่งเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างคุณและรถยนต์ สามารถรองรับได้ทั้งระบบ iOS และ Android โดยเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน “My MITSUBISHI CONNECT” อำนวยความสะดวกในสั่งการตัวรถได้แบบไร้สายจากระยะไกล เปิดระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารได้จากระยะไกล ล็อกและปลดล็อกประตูรถ การค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของตัวรถ การเปิดไฟส่องสว่าง และการกดแตรรถ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลสถานะตัวรถ เช่น ระดับน้ำมันคงเหลือและระยะทางที่วิ่งต่อได้ ความดันลมยาง มีฟังก์ชันความปลอดภัยอื่นๆ อาทิ บริการช่วยเหลือบนถนน (Roadside Assistance)  การแจ้งอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ การช่วยเหลือเมื่อรถถูกโจรกรรม (Stolen Vehicle Assistance) และอุ่นใจตลอดเส้นทางด้วยระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS ผ่านตัวรถ (e-call)Mitsubishi

    ขุมพลังเป็นดีเซลเทอร์โบแปรผันคลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ใหม่! ได้รับการพัฒนาให้มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นขนาด 2.4 ลิตร 4N16 Mid Power ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 2,250-2,500 รอบต่อนาทีในรุ่นสี่ประตู ULTRA 4×4 เกียร์อัตโนมัติ รุ่น Athlete แรงสุดด้วยเทอร์โบคู่คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Twin Turbo Hyper Power Engine) ใหม่ 2.4 ลิตร 4N16 High Power ให้กำลัง 204 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 470 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,750 รอบต่อนาที ทั้งสองความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport เลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อนสองล้อยกสูงในรุ่น Athlete 4×2 และขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD II ในรุ่น ULTRA 4×4 และรุ่น Athlete 4×4

    Mitsubishi

    สำหรับระบบ Super Select 4WD-II มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง สร้างความมั่นใจในสมรรถนะการยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง มีระบบการขับเคลื่อนให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ 2H, 4H, 4HLc และ 4LLc พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ ใหม่! 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด โหมดการขับขี่ Normal (ทั่วไป) และแบบ Eco (ประหยัด) Gravel (ทางลูกรัง)  Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก) Mud (ลุยโคลน) Sand (พื้นทราย) Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ) พร้อมควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ได้รับการติดตั้งพร้อมกับ Super Select 4WD-II เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและแรงดันเบรกที่ล้อด้านในและนอกโค้งให้มีความสมดุลอย่างมีประสิทธิภาพ

    นอกจากนี้ทั้งรุ่น Athlete ขับเคลื่อนสองล้อและขับเคลื่อนสี่ล้อ และรุ่น ULTRA 4×4 มาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี แอคทีฟลิมิเต็ดสลิป (Active LSD -Brake Control Type) ซึ่งช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น พร้อมกับมอบประสบการณ์ขับขี่ก้าวข้ามทุกอุปสรรค รองรับการบรรทุกหนัก ทั้งยังช่วยรับและกระจายแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ ช่วยปกป้องให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วย ระบบบังคับเลี้ยวจะเป็นแบบ Rack & Pinion พร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรงด้วยน้ำมันไฮดรอลิกในรุ่น ULTRA 4×4 และรุ่น Athlete ได้ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS) ช่วยให้ขับขี่คล่องตัว ควบคุมได้ดังใจ ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นพร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพ ด้านหลังเป็นแบบแหนบแผ่นซ้อนและMitsubishiพิเศษทั้งรุ่น ULTRA 4×4 และ Athlete ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไดมอนด์ เซนส์ ทีมีระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ  (Diamond Sense with Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC) ป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control Sytem: TCL) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) เตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system: FCM) สัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) สัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA) เตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM)  พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง เบรก ABS กระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ลดกำลังเครื่องยนต์ (BOS) เพื่อช่วยเบรก เสริมแรงเบรก (BA) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS) ปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ (AHB) ถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน (คู่หน้า/ด้านข้าง/ม่านนิรภัย/หัวเข่าใต้คนขับ) เซ็นเซอร์กะระยะการจอดหน้าและหลัง

    Mitsubishi

    Mitsubishi Triton รุ่น ULTRA 4×4 เกียร์อัตโนมัติ สี่ประตู และรุ่น Athlete มีสีภายนอกดังนี้ สีส้ม Yamabuki Orange Metallic* สีบรอนซ์เงิน Blade Silver Metallic, สีขาวมุก White Diamond, สีเทา Graphite Gray Metallic และสีดำ Jet Black Mica มีราคาจำหน่ายดังนี้

    – รุ่น ULTRA 4×4 เริ่มต้น 1,228,000 บาท โดยลูกค้าสามารถรับรถได้ในช่วงปักษ์แรกของเดือนธันวาคมนี้

    – รุ่น Athlete ขับเคลื่อนสองล้อ มีราคาประมาณการที่ 1,130,000 บาท รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มีราคาประมาณการที่ 1,300,000 บาท คาดว่าสามารถส่งมอบรถล็อตแรกได้ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

    *เฉพาะรุ่น Athlete

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts